บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ในที่สุดก็ได้พบกัน ตอนที่ 2

โลกภายนอกที่ได้ออกมาเห็นทำให้หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวตามแบบชาวบ้านธรรมดาตื่นเต้นนัก ตอนอยู่ที่พระราชวัง เธอไม่ได้ออกไปไหนเพราะทุกคนห้ามไว้และคอยจับตาดูอยู่เสมอ เมื่อมาถึงที่นี่ก็มีช่องทางให้เซซาเนียหลบออกมา ภาพผู้คนมากมายเดินสวนไปสวนมา เด็ก ๆ เล่นกันสนุกสนาน ข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของแปลกตา เจ้าหญิงแห่งโรซานจึงวิ่งไปดูตรงนั้นตรงนี้เหมือนเด็กที่เพิ่งเจอสิ่งแปลกใหม่ครั้งแรก

“ว้าว! ถ้ารู้ว่าข้างนอกมีสีสันอย่างนี้ ข้าแอบหนีออกมาตั้งแต่แรกดีกว่า” มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอไม่เคยพบเจอ ที่ผ่านมาก็มีแค่หนังสือเป็นเพื่อนแก้เหงายามที่อยู่คนเดียว ดังนั้นวันนี้เธอจะเดินเล่นให้ทั่วเมืองเลย

จังหวะนั้นนัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลก็เบิกกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนเดินเลี้ยวมาตรงหัวมุมทางแยกพร้อมทหารอีกจำนวนหนึ่ง สัญชาตญาณร้องเตือนให้เธอหนีทันที ถ้าคู่หมั้นสุดน่ารำคาญคนนั้นรู้ว่าเธอออกมาข้างนอก เรื่องจะต้องไปถึงหูออร์ดิอุสแล้วเธอก็จะถูกส่งกลับ!

“เจ้าหญิง?” เทเลอร์เห็นหญิงสาวคนหนึ่งหันหลังวิ่งหนี แต่เส้นผมสีเขียวน้ำทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เขารู้สึกว่าเธอคือเซซาเนีย คำสั่งจากราชาที่ให้คอยดูแลเธอและไม่ให้ออกไปไหนมาไหนโดยไม่มีใครเฝ้ามอง ส่งผลให้ชายหนุ่มรีบตามไปทันที

“ท่านแม่ทัพ มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ข้ารู้สึกเหมือนเห็นเจ้าหญิง ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า ต้องตามไปดูก่อน” ยิ่งทางนั้นวิ่งหนีเหมือนมีพิรุธ เขาก็ยิ่งมั่นใจขึ้นทุกทีว่าใช่คู่หมั้นแน่ และคำถามก็คือเธอออกมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ

พลั่ก! พลั่ก! ตึง! โครม!

“ขอโทษครับ”

“กลัวแล้ว!”

นักเลงเจ้าถิ่นกว่าสิบคนในสภาพยับเยินคุกเข่าขอร้องคนตรงหน้าก่อนจะหันหลังวิ่งหนีตามหัวหน้าแก๊งไปทั้งที่น้ำตาแตก ทางด้านคนซัดพวกอันธพาลแค่ปัดฝุ่นตามตัวออกเล็กน้อย

“พ่อหนุ่มไม่เป็นไรนะ”

“ไม่เป็นไรครับ สบายมาก” วาเรียสในชุดคลุมสีน้ำเงินที่มีชายเสื้อยาวระพื้นและสวมเสื้อตัวในกับกางเกงขายาวเป็นสีดำนั่งชันเข่าช่วยหญิงชราเก็บผลไม้ใส่ตะกร้า จากนั้นก็ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร “เดินดี ๆ นะครับยาย”

“ขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม ช่วยได้เยอะ เจ้านักเลงพวกนั้นถูกสั่งสอนซะบ้างจะได้หลาบจำ มีที่ไหนชอบหาเรื่องคนเฒ่าคนแก่” คุณยายบ่นอุบอิบแล้วเดินจากไปเงียบ ๆ ทางด้านปีศาจที่เนียนมาเดินเล่นในเมืองพาเทลอย่างเขาก็ยิ้มฝืด ๆ แล้วเดินจากไปบ้าง

เรื่องหลบเข้าชายแดน วาเรียสทำได้อยู่แล้ว จากนั้นเขาก็ใช้เวทพรางใบหูของตัวเองให้เหมือนกับมนุษย์ก่อนจะใช้เวทเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดทะมัดทะแมงตามด้วยออกมาเดินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงอย่างนั้นหน้าตาเขาก็ทำพิษเห็นได้จากสายตาของสาวน้อยสาวใหญ่ที่วาววับเวลามองมา แถมผู้ชายบางคนที่เดินสวนทางกันก็ชำเลืองมองอย่างหมั่นไส้อีก ยังดีหน่อยที่ไปเจอนักเลงกลุ่มหนึ่งกำลังหาเรื่องคนชรา วาเรียสก็เลยไปมีเรื่องชกต่อยกับคนพวกนั้น คนที่หมั่นไส้หน้าตาของเขาก็เลยไม่กล้าจ้องหน้าหาเรื่องอีก

เซซาเนียอยู่ที่เมืองนี้สินะ สาเหตุที่เขาเข้ามาในเขตแดนมนุษย์เพราะสัญญากับเธอไว้แล้วว่าจะมาหา จากที่หาข่าวมา เจ้าหญิงแห่งโรซานพักอยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าเมือง และชายหนุ่มก็กำลังหาทางไปที่นั่น

วาเรียสเดินมาถึงหน้าโบสถ์ประจำเมือง เสียงระฆังทำให้เขาหันไปมอง มีคนบางกลุ่มเดินเข้าไปข้างในเพื่อทำพิธีตามความเชื่อ บริเวณบันไดทางเข้าตัวอาคารก็มีนักเดินทางมากหน้าหลายตามานั่งพัก บางคนมากับเพื่อนสองคน พวกเขาก็นั่งคุยกันอย่างออกรส บางคนหันไปทำความรู้จักเพื่อนใหม่แล้วแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากเรื่องราวที่เคยพบเจอในชีวิต วาเรียสตรงไปนั่งแถวนั้นบ้าง ตั้งใจว่าช่วงที่นั่งอยู่จะค่อย ๆ คิดว่าจะเอายังไงต่อ

พลั่ก!

พลันร่างของใครบางคนก็วิ่งมาชนก่อนที่เธอจะเซล้มถ้าไม่ติดว่าร่างสูงคว้าตัวไว้ก่อน หญิงสาวรีบเงยหน้ามองคนช่วยเพื่อขอโทษที่วิ่งชนและขอบคุณที่ช่วย ทว่าเมื่อนัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลสบกับนัยน์ตาสีแดง แรงดึงดูดบางอย่างก่อตัวขึ้น ทั้งสองรู้สึกร้อนวูบที่หลังฝ่ามือข้างซ้าย ตราพันธะเริ่มเรียกหากันเมื่ออยู่ใกล้กัน

“ท่านคือ...” ภาพของใครบางคนในความฝันซึ่งทุกครั้งที่เธอตื่นก็จะลืมใบหน้าและน้ำเสียงของเขาทุกครั้ง ทว่าตอนนี้ภาพพร่ามัวค่อย ๆ เด่นชัดขึ้นจนเธอจำได้

“นี่เจ้า...” คนที่เขาสัญญาว่าจะไปหา ตอนนี้เธอมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วแถมมาหาเองถึงที่ด้วย จังหวะนั้นร่างบางก็ได้สติ เมื่อนึกได้ว่าตัวเองกำลังหนีอะไรอยู่ก็รีบขอความช่วยเหลือทันที

“ช่วยด้วยค่ะ มีคนไล่ตามข้ามา” เซซาเนียหันไปมองด้านหลังอย่างร้อนรน วาเรียสที่ตอนแรกยังอึ้งอยู่ก็ได้สติ เมื่อมองไปยังทิศที่เธอวิ่งหนีมาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งฝ่าฝูงชนมาทางนี้พอดี

“ตามข้ามา” เขาคว้าข้อมือบางแล้วจูงมือเธอวิ่งไปที่เสาต้นใหญ่หน้าโบสถ์จากนั้นก็ให้เธอเข้าไปแอบหลังต้นเสา ส่วนตัวเองก็ทำท่ายืนพิงเสาด้านหน้าพลางทำท่าตบยุงด้วยสีหน้าเบื่อ ๆ

“ท่านแม่ทัพ เจ้าหญิงคงไม่ได้อยู่แถวนี้หรอกครับ ท่านอาจจะตาฝาดก็ได้”

“แต่ข้าคิดว่าข้าเห็นนางนะ” เทเลอร์ยืนยันความคิดตัวเอง หญิงสาวผมสีเขียวน้ำทะเลในเมืองพาเทลก็มีแค่เซซาเนียคนเดียวเท่านั้น ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองไม่น่าจะจำผิดแถมยังเห็นเธอวิ่งหนี มันก็มีความเป็นไปได้ว่าต้องใช่แน่

“แล้วเจ้าหญิงจะออกมาทำอะไรข้างนอกล่ะครับ พวกข้ายังไม่เห็นเลย ท่านอาจจะตาฝาดจริง ๆ ก็ได้” ทหารนายหนึ่งที่ยืนหอบอยู่ด้านหลังพยายามโน้มน้าวให้อีกฝ่ายล้มเลิกความคิด

หรือข้าจะตาฝาดจริง ๆ แม่ทัพแห่งโรซานขมวดคิ้ว เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็ไม่พบอะไรทั้งนั้น สุดท้ายเขาจึงตัดใจเดินจากไปเมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดสังเกต วาเรียสที่ยืนมองอยู่ก็หันไปเรียกร่างบางที่แอบอยู่หลังต้นเสา

“ออกมาได้แล้ว”

“ไปแล้วสินะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ช่วย” เซซาเนียโผล่หน้าออกมาก่อนจะหันมาค้อมศีรษะให้คนช่วย เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากันอีกรอบ ต่างฝ่ายต่างก็นิ่งอึ้งไปอีกครั้ง

“เอ่อ...คือ...” ทั้งสองชะงักเพราะพูดพร้อมกันจึงเงียบไปชั่วครู่ “คือว่า...” แล้วก็ต้องเก็บคำพูดทุกอย่างลงคอเนื่องจากเหมือนใจจะตรงกัน เวลาพูดอะไรมันก็ออกมาพร้อมกันหมด

“เจ้าพูดก่อนละกัน” ฝ่ายชายมอบสิทธิ์นั้นให้ฝ่ายหญิง

“ขอโทษนะคะ เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า” ทั้งใบหน้าและน้ำเสียงของคนที่เจอในความฝันมันเหมือนกับคนตรงหน้าไม่มีผิด จริงอยู่ที่เธอลืม แต่ตอนนี้เริ่มนึกออกแล้ว

“ข้าหน้าโหลขนาดนั้นเลยเหรอ” คำพูดของเขาคงหมายถึงว่ามีคนหน้าคล้ายเขามากมายซึ่งอาจจะเคยผ่าน ๆ ตาหญิงสาวมาบ้าง ทว่าเจ้าหญิงแห่งโรซานกลับไม่คิดแบบนั้น เธอมั่นใจว่านี่ต้องเป็นคนที่เธออยากเจอแน่ ๆ

“...” ร่างบางไม่พูดอะไรแต่จ้องหน้าอีกฝ่ายเพื่อค้นหาความจริง พอมีคนมาจ้อง ร่างสูงก็จ้องกลับเช่นกัน นัยน์ตาสองคู่จ้องกันไปจ้องกันมาโดยไม่สนสายตาของคนที่เพิ่งเดินออกมาจากในโบสถ์เลย

ถ้าเป็นปลากัดคงท้องไปแล้ว

“ท่านวาเรียส/เซซาเนีย” ในที่สุดทั้งสองก็เรียกชื่อของคนตรงหน้าออกมาก่อนชะงัก หญิงสาวยกมือกุมแก้มด้วยความตกใจเมื่อเขารู้ชื่อเธอ ทางด้านชายหนุ่มก็หน้าเหวอเมื่อเธอจำชื่อเขาได้แล้ว

“ใช่จริง ๆ ด้วยสินะคะ” เซซาเนียยิ้มกว้าง นัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลเป็นประกายเพราะความดีใจ ไม่นึกไม่ฝันการแอบหนีออกมาข้างนอกจะทำให้เธอได้เจอคนที่อยากพบ “ข้าชื่อเซซาเนียค่ะ เซซาเนีย แอมโบเรีย ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ” เธอเคยเห็นคนทักทายกันด้วยการจับมือกันดังนั้นร่างบางจึงยื่นมือออกมาให้อีกฝ่าย

“ข้าชื่อวาเรียส เพน...” เจ้าตัวชะงักเนื่องจากนึกได้ว่าถ้าพูดนามสกุลออกไป เธออาจจะรู้ก็ได้ว่าเขาเป็นใคร ยิ่งเมื่อเช้าเขาก็เพิ่งไล่ฆ่าเธอมา ถ้ารู้ความจริงเข้า เธอคงหนีจากเขาไปตลอดชีวิต “วาเรียส เรียกข้าว่าวาเรียสก็พอ แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เจ้าหญิงแห่งโรซาน” แนะนำตัวจบ ร่างสูงก็จับมือทักทายตอบ

ในที่สุดก็ได้เจอกันจริง ๆ สักที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel