บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ไปเที่ยวตลาด

"เรียนเสร็จแล้วโว้ย!"

"อย่าเสียงดังน่าเฟลม" อาเนฟเขกกะโหลกเจ้าคนตัวเตี้ยพลางเหลือบมองนักเรียนที่เรียนอยู่ห้องข้าง ๆ ซึ่งอาจารย์ยังไม่ปล่อย ทุกคนมองมาทางนี้ด้วยสายตาอาฆาต ส่วนพวกเขา เนื่องจากอาจารย์ประจำวิชาเวทมนตร์พื้นฐานติดธุระจึงปล่อยนักเรียนกลับก่อนเวลา

"ฉันจะเอากระเป๋าไปเก็บก่อนแล้วจะออกไปเที่ยวนอกโรงเรียน ใครจะไปด้วยบ้าง" วาเรียสอยากไปเที่ยวเป็นการพักสมอง อีกอย่างตอนเย็นเขาจะรีบไปออกกำลังกายด้วย

"ผมไปด้วย" เทมเพสรีบออกหน้าก่อนใคร "ได้ยินว่าที่ตลาดมีของขายเยอะแยะ ของกินที่นั่นน่าจะอร่อย" เขาได้ยินเพื่อน ๆ กลุ่มอื่นพูดกันก็เลยอยากลองไปชิมสักครั้ง

"เห็นว่ามีหมอดูมาปักหลักดูดวงให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วยล่ะ" ทุกคนตวัดสายตามาหาโยริคอย่างพร้อมเพรียง "พวกรุ่นพี่ที่เป็นผู้หญิงไปดูดวงเรื่องความรักกันเยอะ ฉันก็เลยได้ยินมา เออนี่ ๆ ไปดูดวงกันไหม เผื่อได้รู้ว่าสาวคนไหนจะเป็นแฟนเราในอนาคต"

"แก่แดดนี่หว่า"

"ก็ยังดีกว่านายละกันอาเนฟ ผู้ชายอะไร สวยกว่าผู้หญิงอีก"

"เขาเรียกว่าหล่อรูปงามเว้ย โยริค!" ว่าแล้วคุณชายตระกูลเคลลินก็วิ่งไล่คุณชายตระกูลโดเนลล่าแถมยังมีการวิ่งวนรอบตัวเพื่อนอีกสามคนจนเวียนหัวไปตาม ๆ กัน

"ไหน ๆ จะไปเที่ยวกันอยู่แล้ว อยากไปหาของกินหรือไปดูดวงก็เชิญ แต่ฉันจะไม่รอ จะรีบไปรีบกลับ" วาเรียสไม่อยากชักช้าจึงเร่งฝีเท้าเดินนำหน้า เทมเพสรีบวิ่งตามไปพร้อมกับเฟลม อาเนฟกับโยริคที่ตอนแรกวิ่งไล่กันนั้นก็กลัวตามเพื่อนไม่ทันจึงรีบตามไปติด ๆ

นอกโรงเรียนซินเทลล่าคึกคักกว่าที่คิดสมกับเป็นเมืองรองของประเทศซิลวา เด็กชายทั้งห้าจากแดนมืดเดินเข้าไปในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่าน พวกเขาซื้อขนมและของกินมากมายจนหิ้วของกันพะรุงพะรัง เฟลมกับโยริคซื้อคัพเค้กมาแบ่งเพื่อน เทมเพสกับอาเนฟซื้อน้ำผลไม้เย็น ๆ ส่วนวาเรียสก็เป็นคนซื้อหนังสือและสมุดโน้ตเพิ่มเติมเพราะพวกเขาเขียนหมดไปหลายเล่มแล้ว

"นี่พวกเจ้าน่ะ" จังหวะที่เดินผ่านหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งตั้งโต๊ะนั่งอยู่ข้างทาง เธอเรียกทั้งห้าพลางกวักมือเชื้อเชิญ พวกวาเรียสมองหน้ากันก่อนจะพากันเดินไปหา

"เรียกพวกผมเหรอครับ" เทมเพสถาม

"ให้ข้าดูดวงให้เอาไหม"

"หรือว่าท่านคือหมอดูที่พวกรุ่นพี่พูดถึงกัน" โยริคเดาไว้ก่อนเพราะคิดว่าแถวนี้น่าจะมีอยู่แค่คนเดียวที่ทำตัวเป็นหมอดูดูดวงให้คนอื่น วาเรียสหรี่ตามองเล็กน้อยแล้วพูดบ้าง

"ท่านมาทำอะไรที่นี่ นางฟ้าแห่งการพยากรณ์ ดีไวน์โปรเฟซี่"

"เอ๋!?" คุณชายทั้งสี่หันมามองหน้าเจ้าชายปีศาจอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า หญิงสาวดึงฮู้ดขึ้นเล็กน้อยจากนั้นก็ดึงผ้าปิดปากออก

"รู้ด้วยเหรอเจ้าชายน้อย"

"อย่าลืมสิครับ ว่าแม่ข้าก็เป็นนางฟ้าเหมือนกัน แล้วทำไมข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใครล่ะ" วาเรียสยิ้มให้อีกฝ่ายนิด ๆ แม่ของเขาคือราชินีแห่งแดนมืด แต่ก่อนหน้านี้เธอเป็นนางฟ้าจากโลกสวรรค์ ถึงอย่างนั้นเด็กชายก็ไม่ได้เป็นครึ่งเทพแต่เป็นปีศาจเต็มตัวเหมือนพ่อ

หลายปีก่อนมีนางฟ้าตนหนึ่งได้รับมอบหมายจากโลกสวรรค์ให้มายังทวีปวาลเทร่า เนื่องจากช่วงเวลานั้นสายเลือดเพนเดลรอนเริ่มเจือจางทำให้ทายาทรุ่นต่อ ๆ ไปเริ่มอ่อนแอ พลังและความสามารถที่ควรจะมีก็หายไป การมาของนางฟ้าตนนั้นคือมามอบพรวิเศษแต่กลับกลายเป็นว่าน้องชายของจ้าวปีศาจในตอนนั้นตกหลุมรักเธอ ปัจจุบันน้องชายกลายเป็นผู้ปกครองดินแดนแทนพี่ชาย ส่วนนางฟ้าตนนั้นก็คือราชินีแห่งเคียงข้างชายคนนั้น

"ที่แดนมืด ใคร ๆ ก็บอกว่าเจ้าชายน้อยไม่ได้เรื่อง คงฝากความหวังของดินแดนไว้ไม่ได้ แต่ข้าว่าไม่จริงเลยสักนิด" ดีไวน์โปรเฟซี่รู้ดีว่าเด็กชายผมดำมักจะถูกคนอื่นมองว่าเป็นเด็กดื้อ ตื่นสาย มาเรียนก็เอาแต่หลับ เรื่องต่อสู้ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นยังไงเพราะไม่เคยเห็น จึงคิดกันไปเองว่าไม่ได้ฝึกมาแน่

"ว่าแต่ทำไมถึงจะดูดวงให้พวกข้าล่ะครับ" วาเรียสเลือกใช้สรรพนามจากที่บ้านกับอีกฝ่ายเพราะถ้าอยู่นอกโรงเรียน กลับบ้านหรือไปต่างถิ่น คนส่วนใหญ่จะพูด 'ข้า' กับ 'เจ้า' กันทั้งนั้น

"ไม่รู้สิ ก็แค่เห็นผ่านมาเลยนึกสนุกอยากดูดวงให้"

"..."

"อย่าเงียบสิ นี่ข้าหวังดีนะ อ้อ เจ้าหนูผมฟ้า ผมน้ำตาล แล้วก็เจ้าตัวเล็ก ยินดีด้วยนะ พวกเจ้าจะได้แต่งงานเร็ว แถมผู้หญิงก็นิสัยดีทุกคนด้วย" ฟังจบ อาเนฟ โยริค และเฟลมก็มองหน้ากันทั้งที่อ้าปากค้าง พวกเขาหูฝาดหรือเปล่า ดีไวน์โปรเฟซี่บอกว่าพวกเขาจะแต่งงานเร็ว

"แล้วผม...เอ่อ...แล้วข้าล่ะครับ" เทมเพสก็อยากรู้บ้าง

"แย่หน่อยนะเจ้าหนู เจ้าอาจจะแต่งงานช้ากว่าเพื่อน อีกอย่างผู้หญิงที่เจ้าชอบก็เป็นเด็กสาวลูกครึ่งปีศาจกับมนุษย์ แต่ก็ไม่เป็นไร นางน่ารักดี และคงจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีของเจ้าได้"

"เทมเพส! โตขึ้นเอ็งจะเป็นไอ้โลลิค่อนใช่ไหม!"

"ไม่ได้เป็นเว้ย!" เด็กชายผมหางม้าหันไปโวยวายใส่เพื่อน ๆ ทันทีที่โดนล้อว่าเป็นโลลิค่อน แม้จะไม่อยากยอมรับแต่พวกเทวดานางฟ้าจากเอเดนนั้นดูดวงแม่นมาก เพราะที่แดนมืด ราชินีก็เคยดูดวงให้พ่อกับแม่ว่าจะได้ลูกชาย สุดท้ายก็ได้ลูกชายอย่างเขาจริง ๆ

"ส่วนเจ้า เจ้าชายน้อย" ดีไวน์โปรเฟซี่จ้องหน้าเจ้าชายปีศาจก่อนจะมองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มกว้าง "ตอนนี้อาจจะไม่หล่อสู้เจ้าชายทั้งห้าจากสองแดนนั้นแต่ก็น่ารักสมเป็นเด็ก ไม่เป็นไรหรอก โตขึ้นเจ้าอาจต้องวิ่งหนีพวกผู้หญิงก็ได้ ส่วนเรื่องความรัก ตอนเจ้าอายุยี่สิบจนถึงสองร้อยปีข้างหน้า เจ้าจะขึ้นคาน"

"ฮะ?"

"อีกสองร้อยปี เจ้าจะเจอคนรัก นางเป็นมนุษย์ เป็นผู้หญิงเรียบร้อยและงามกว่าใครในสามดินแดนด้วย แต่ว่าเจ้ากับนางจะได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่ามันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าว่าจะรั้งนางไว้หรือปล่อยนางไป"

"แล้วนางไม่ได้รักข้าเหรอครับ" อีกฝ่ายพูดเหมือนกับว่าเขาไปแย่งของของใครมาอย่างไรอย่างนั้น คนตรงหน้าหัวเราะนิดหน่อยจากนั้นก็ลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

"รักสิ รักมากด้วย แต่ชีวิตนางถูกสาปมานานแล้ว คนที่จะแก้คำสาปได้ก็มีแต่เจ้า ความทรงจำของเจ้ายังอยู่ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงจะรู้ว่าพวกเจ้าเจอกันครั้งแรกจริง ๆ คือตอนไหน" ดีไวน์โปรเฟซี่ตบบ่าอีกฝ่ายเบา ๆ ทางด้านวาเรียสก็คิดตามที่หญิงสาวบอก หมายความว่าเขาเคยเจอเธอคนนั้นมาก่อนแล้ว แต่อาจจะไม่ใช่ในชื่อของวาเรียส เพนเดลรอน

เจ้าชายปีศาจนึกถึงความทรงจำหนึ่งที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด นานมาแล้วเขาเคยหลงรักใครคนหนึ่ง แม้ว่าตอนสุดท้ายเขาจะไม่สามารถยื้อเธอจากความตายได้ แต่ช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต เขาจะได้พบกับเธอ ทว่าสภาพของเธอในตอนนี้คงไม่สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้

“ข้าจำได้...จำได้ทุกอย่าง ข้าจำได้แม้กระทั่งว่าข้าเจอนางยังไง แต่ตอนนี้นางเป็นคนตาย ส่วนข้ายังมีชีวิต”

“งั้นก็แย่หน่อยนะ” ดีไวน์โปรเฟซี่ลูบศีรษะเด็กชายเป็นการปลอบใจ แต่คุณชายน้อยทั้งสี่ที่อยู่ด้วยกลับขมวดคิ้วแล้วมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ

วาเรียสมีเรื่องอะไรในใจที่พวกเขาไม่รู้หรือเปล่า?

ช่วงเย็นวันนั้น เด็กชายก็กลับมาจากข้างนอกพร้อมของกินของใช้มากมาย เทียน่าลอยทะลุผนังออกมาแล้วเข้ามาช่วยถือของ วิญญาณอย่างเธออยู่มานานแล้วจึงมีพลังพอจับต้องสิ่งของได้ เด็กหญิงนำของไปจัดส่วนวาเรียสก็ตรงไปนั่งถอนหายใจที่เตียง ในสมองก็นึกถึงสิ่งที่ดีไวน์โปรเฟซี่จนชักจะปวดหัว

"มีอะไรหรือเปล่าคะ"

"ไม่มีอะไรหรอก แค่เดินตลาดแล้วมันเหนื่อยน่ะ” คนถูกถามหลุดสะดุ้งจากนั้นก็รีบโบกไม้โบกมือเฉไฉไปเรื่อย “เทียน่า ช่วยเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังหน่อยสิ" ตั้งแต่รู้จักกันมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขาก็ไม่รู้เลยว่าประวัติของเด็กหญิงเป็นยังไง แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกได้ แววตาคู่นั้นช่างเหมือนหญิงสาวในความทรงจำเมื่อนานแสนนานมาแล้วยิ่งนัก

ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเธอ แต่ทำไมถึงกลายเป็นผีเฝ้าห้องพักไปได้ล่ะเนี่ย! เจ้าชายปีศาจคิดในใจขณะนั่งเงียบ ๆ รอฟังเด็กหญิงเล่า

"ชื่อเต็ม ๆ ของฉันคือเทียน่า แอมโบเรียค่ะ"

"แอมโบเรีย? สกุลของผู้ปกครองประเทศโรซานนี่นา หรือว่าเธอเป็นเจ้าหญิง"

"ก็ไม่เชิงค่ะ หลายปีก่อน ฉันเป็นลูกนอกสมรสของเจ้าชายลำดับที่สาม แม่ฉันเป็นสามัญชน หลังจากที่แม่เสีย ฉันก็ไปอยู่กับท่านพ่อ แต่พี่น้องทุกคนที่เกิดจากชายาเอกก็ไม่ได้ดีกับฉันหรอกนะคะ วันหนึ่งท่านพ่อส่งฉันมาเรียนที่นี่ พี่น้องที่มาด้วยก็แกล้งฉันทำให้ฉันเครียดจนโรคหัวใจกำเริบ ตายคาห้องเลยค่ะ" เด็กหญิงเล่าพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เธอตายที่นี่ด้วยโรคประจำตัว วิญญาณก็ยังวนเวียนอยู่ในนี้ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ไปที่ชอบสักที

วาเรียสพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ นัยน์ตาสีแดงสังเกตเห็นความเศร้าหมองในดวงตาสีเขียวน้ำทะเล พลันคำพูดของใครบางคนก็ไหลย้อนเข้ามาในห้วงความคิด

"เทียน่า แอมโบเรีย ถ้าเจ้าตายแล้ว วิญญาณของเจ้าจะยังอยู่ในโลกนี้จนกว่าเจ้าจะเจอคนที่เจ้ารัก และเจ้าจะเติบโตเป็นวิญญาณหญิงสาวไปพร้อมกับเขาที่กลายเป็นชายหนุ่ม หลังจากนั้นเจ้าจะไปเกิดใหม่ เมื่อเจ้าโตขึ้น เจ้าจะได้กลับไปหาเขา แต่คำสาปส่วนสุดท้ายจะทำให้เจ้าต้องแยกจากคนรัก ถ้าอย่างนั้นข้าขอให้เจ้ากับเขาได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งอย่างมีความสุขตลอดกาล"

"ฉันจะช่วยเธอเอง" วาเรียสพึมพำเบา ๆ ทั้งที่คำพูดนั้นยังก้องอยู่ในหัว จังหวะนั้นเด็กหญิงก็หันไปเห็นนาฬิกาบอกเวลาห้าโมงเย็น เธอจึงสะบัดหน้ามาด้วยสีหน้าตื่น ๆ

"ท่านวาเรียส อีกครึ่งชั่วโมงเป็นเวลาเริ่มงานไม่ใช่เหรอคะ"

"งาน?" เขาจำได้แต่ว่าจะไปออกกำลังกาย

"ก็ท่านบอกเองนะคะว่าจ้าวปีศาจถีบส่งท่านออกนอกบ้าน เงินส่วนใหญ่ให้มาจ่ายค่าเทอม แต่ส่วนน้อยให้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันซึ่งดูยังไงก็ไม่พอใช้แน่ ท่านก็เลยต้องออกไปหางานทำไม่ใช่เหรอคะ"

"เอ้อ! จริงด้วย! ฉันต้องไปทำงาน!" ว่าแล้วเด็กชายก็รีบวิ่งไปคว้ากระเป๋าสะพายข้างแล้ววิ่งออกจากห้องโดยไม่ลืมทิ้งท้ายว่า "ฝากจัดกระเป๋าของวันพรุ่งนี้ด้วยนะ" แล้วเทียน่าก็ยิ้มรับ

"จะจัดการให้ค่ะ"

ช่วงกลางคืน ร้านอาหารหลายแห่งภายในเมืองจะมีผู้คนเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย ร้านไหนอาหารอร่อยก็จะมีลูกค้าเยอะ ซึ่งร้านตรงหัวมุมซอยก็เช่นกัน ผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคุณหญิงคุณนาย ราคาอาหารจึงแพงแต่ไม่มีใครสะท้านเพราะรวย ๆ กันอยู่แล้ว

"จะรับอะไรดีครับ" วาเรียสในชุดของพนักงานรับออร์เดอร์ถือสมุดจดกับปากยืนอยู่ข้างโต๊ะ ลูกค้าเป็นคุณหญิงสองคนซึ่งคาดว่าเป็นเพื่อนกันแล้วมากินข้าวด้วยกันตามประสาคนไม่ได้พบกันนาน

"แหม หนูจ๊ะ น่ารักนะเนี่ย ตัวเล็กแค่นี้ออกมาทำงานแล้วเหรอ ขยันจังนะเรา" คุณหญิงที่นั่งอยู่ฝั่งทางซ้ายมือเห็นเด็กชายแล้วก็รู้สึกเอ็นดู แต่สายตาวาววับคู่นั้นทำให้วาเรียสรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่แต่ก็จำใจปั้นหน้ายิ้มรับ

"ขอบคุณครับ"

"ฉันเอาซุปข้าวโพดจ้ะ"

"ส่วนฉันเอาสปาร์เก็ตตี้คาโบนาร่านะจ๊ะ"

"จะรับของหวานไหมครับ" ร่างเล็กรีบเขียนรายการลงสมุดจดพลางถามอีกครั้ง คุณหญิงทั้งสองรีบเปิดเมนูไปมาเพื่อดูว่าของหวานอะไรน่าทานจนกระทั่งเจอเมนูที่ชอบ

"ขอเป็นเค้กผลไม้รวมละกันจ้ะ"

"แล้วเครื่องดื่มจะรับเป็นอะไรครับ"

"น้ำส้มสองแก้วจ้ะ"

"ขออนุญาตเก็บเมนูนะครับ" วาเรียสจดรายการเสร็จก็เก็บเมนูคืนจากทั้งสองแล้วรีบวิ่งไปหลังร้านเพราะรู้สึกไม่ดีเมื่อถูกคุณหญิงคนหนึ่งมองด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจ "โต๊ะที่สามสั่งอาหารครับคุณป้า" ร่างเล็กฉีกกระดาษแผ่นนั้นส่งให้เจ้าของร้านที่นั่งคิดเงินอยู่ที่โต๊ะ หญิงวัยกลางคนรับมาแล้วส่งให้พนักงานคนอื่นไปจัดการแทน

"เอ้อ! วาเรียส ป้ามีเรื่องอยากจะเตือน"

"เรื่องอะไรเหรอครับ"

"ป้าเห็นนะ คุณหญิงคนนั้นน่ะ มองเธอด้วยสายตาอยากได้เหลือเกิน ป้าไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ เอาเป็นว่าป้าจะให้พวกพี่ ๆ ไปบริการโต๊ะนั้นแทนนะ"

"ทำไมเหรอครับ" วาเรียสเอียงคอถามอย่างสงสัย ถึงสายตาจะชวนขนลุกแต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าทำไมถึงห้ามเข้าใกล้ หญิงวัยกลางคนถอนหายใจก่อนจะเล่าให้ฟัง

"คุณหญิงคนนั้นน่ะชอบเด็ก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายอย่างเธอนั่นแหละ ที่คฤหาสน์มีเด็กผู้ชายเยอะแยะเลยนะ ส่วนใหญ่เป็นเด็กหน้าตาดีที่ถูกซื้อตัวมาเป็นที่รองรับอารมณ์ของพวกผู้ใหญ่ ตอนกลับโรงเรียนก็ระวังด้วยล่ะ" หญิงวัยกลางคนกลัวจริง ๆ วาเรียสเป็นเด็กผู้ชายที่หน้าตาดีอยู่ด้วย ลักษณะแบบนี้ คุณหญิงคนนั้นยิ่งชอบ

หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel