บทที่ ๖ ดินเนอร์แทนคำขอโทษ
แม่น้ำผู่ (หวงผู่)
ไหลไปทางเหนือผ่านใจกลางเซี่ยงไฮ้ในยามค่ำคืนจะสวยงามกว่านี้ แต่ตอนนี้เขาต้องการขอโทษหญิงสาวจึงให้คนขับรถพามาที่ร้านอาหารสุดหรูที่อยู่ติดแม่น้ำผู่ที่ผู้คนนิยมมาออกเดตกัน
“เราจะไปไหนกันคะ”
“ฉันจะพาไปดินเนอร์” เฉินเหยียนเฟยตอบออกไปเขาตื่นเต้นเช่นกันเพราะไม่เคยออกไปไหนที่นี่ถือว่าเริ่มเจริญอย่างมากอีกไม่กี่ปีคงจะมีตึกสูงขึ้นมา
“ทำไมมองผมแบบนั้น”
“ฉันแค่สงสัยคุณสมองกระเทือนอย่างหนักหรืออะไร” เขาเปลี่ยนไปมากจนหญิงสาวเองก็ไม่ชินเธอกับเขาไม่เคยนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน
“ทำไมเริ่มตกหลุมรักฉันขึ้นมาแล้วหรือ” ทั้งรถตกอยู่ในความเงียบเมื่อหลินเยี่ยนจือเลือกที่จะเงียบเธอไม่มีอะไรที่จะถามเขา ตลอดเวลาเขาต้องการใบหย่าจากเธอพอมาวันที่เธอพร้อมเขากับไม่ยอมหย่า
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินลงมาจากรถร้านอาหารหรูขนาดนี้เธอไม่ค่อยได้มาเท่าไรตั้งแต่คุณพ่อเสียหญิงสาวก็ต้องหาเงินจนไม่มีเวลาออกไปไหน
“ฉันสั่งอาหารไว้รอแล้ว” เขาไม่ได้สั่งเป็นเย่าหยางที่ดูแลทุกอย่างแค่อยากเอาใจหญิงสาว
อาหารตรงหน้ามีแต่สิ่งที่หลินเยี่ยนจือชอบทั้งนั้นนานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยรับประทานเพราะจะมีแค่คุณพ่อที่พามากิน ทำให้หญิงสาวคิดถึงคุณพ่อจนน้ำตาจะไหลออกมา
“คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันชอบของเหล่านี้”
เสี่ยวหลงเปา ซ่างไห่เหมาเซี่ยที่พ่อจะแกะให้เวลานั่งรับประทานด้วยกัน เชิงเจียนหม่านโถว หยางชุนเมี่ยน หลินเยี่ยนจือจึงเงยหน้าไปมองเขา
“เธอชอบคนเดียวที่ไหนฉันสั่งของชอบฉัน” สมัยนั้นหายากจะตายกว่าจะได้กินมาถึงถิ่นแล้วเขาก็ลิ้มรสอาหารหน่อยก็แล้วกันเฉินเหยียนเฟยไม่รอช้าตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“ไม่ต้องซึ่งกินได้แล้ว”
หญิงสาวกำลังจะตอบว่าปกติเขาไม่ชอบกินของพวกนี้ชายหนุ่มเปลี่ยนไปมากจนตอนนี้หัวใจของเธอเริ่มจะผิดปกติเพราะอยู่ใกล้เขาทีไรหัวใจจะเต้นแรงขึ้นมา
ทั้งสองนั่งรับประทานอาหารด้วยกันเป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่นั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมกับบรรยากาศติดริมแม่น้ำที่มีเรือแล่นไปมาในผืนน้ำ
“เยี่ยนจือครับ”
“หลี่ซืออี้” เขาคือเจ้านายของหญิงสาวบังเอิญมากที่ได้มาเจอกันและเขาก็เป็นพี่ชายของเพื่อเธอ เป็นโอกาสดีที่เธอจะเอ่ยคำขอโทษเขา
“ดีใจจังเลยที่เราพบกันอีก”
“ขอโทษด้วยนะคะที่ลาออกกะทันหัน” หลินเยียนจือเอ่ยขอโทษเขาด้วยความจริงใจ
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรครับว่าแต่คุณมากับใครหรือ” เขารู้มาตลอดว่าหญิงสาวมีสามีแล้วแต่ลึกๆ เขาก็ยังหวังว่าหญิงสาวจะหย่าแต่เหมือนเขาจะคิดผิด
“ฉันมากับเฉินเหยียนเฟยค่ะ หลี่ย่าเสียนไม่มาด้วยหรือคะ”
“น้องสาวผมไม่ค่อยสบายนะคุณดูสดใสขึ้นมากนะ” บางทีหลินเยี่ยนจืออาจจะคืนดีกับสามีแล้วก็ได้เขารับรู้ปัญหาของหญิงสาวมาโดยตลอด
“ร้อนไหมครับเอาผ้าไปบังไว้ก่อน” ชายหนุ่มหยิบผ้ามาคลุมศีรษะให้หญิงสาวมองเผินๆ เหมือนกับว่าคู่รักมาออกเดตกันก็ไม่ผิด
“ว้าย คุณเหยียนเฟย” หลินเยี่ยนจือตกใจที่เขากระชากผ้าของซืออี้ทิ้งและใช้เสื้อสูทของเขามาบังแดดให้แทน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่โชยมาทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นไม่น้อย
“ผมดูแลภรรยาของผมได้”
“ฉันขอโทษด้วยนะคะ” เขาดึงแขนของเธอให้เดินตามไปขึ้นรถหลินเยี่ยนจือได้แต่ขอโทษซืออี้ที่เฉินเหยียนเฟยเสียมารยาทด้วยหญิงสาวทำอะไรไม่ได้
“คุณเหยียนเฟยคะดีใจจังเลยที่เจอคุณ” จางหลินซินเดินเข้ามาใกล้คนทั้งสองที่ฉุดกระชากลากถูกันอยู่ ตั้งแต่เขาได้รับบาดเจ็บเขาก็ไม่ยอมติดต่อเธอมาอีกเลย
“ใครวะ” เฉินเหลียนเฟยหันไปกระซิบกับเย่าหยางให้ได้ยินกันแค่สองคน “หญิงสาวคนสนิทที่สุดของคุณชายครับ”
ฉิบหายแล้วเขาต้องทำอย่างไรต่อทำไมสวยจังเลยนมก็ใหญ่ ไม่ใช่สิเขาต้องแคร์ความรู้สึกของภรรยาของเขามากกว่าตอนนี้เขาไม่ใช่เฉินเหยียนเฟยคนเดิมแล้ว
“ครับ”
“คุณไม่ติดต่อมาหาฉันเลยนะคะ”
“ผมว่าไม่มีความจำเป็นอะไรนะครับผมเองก็มีภรรยาอยู่แล้ว” นี้คือสิ่งที่เขาสมควรทำเขาจะไม่ยอมทำให้หลินเยี่ยนจือเสียใจอีกแล้วคนอยากจิ้มเมียต้องทำเป็นคนดีเข้าไว้
“คุณ!”
“เราไปกันเถอะครับ” ชายหนุ่มพาหลินเยี่ยนจือขึ้นรถโดยไม่หันไปมองหญิงสาวคนสนิทด้วยซ้ำ มีของสวยงามอยู่ตรงหน้าทำไมต้องออกไปหานอกบ้าน เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ที่จะควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่ใช่อะไรตอนนั้นเขาจนเลยไม่มีใครอยู่ด้วย
“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ค่ะ”
“ฉันรับคำขอบคุณเป็นจูบหวานๆ สักครั้งได้ไหม”
“โรคจิต” หลินเยี่ยนขือจึงปลีกตัวออกห่างยิ่งอยู่ใกล้ชายหนุ่มเธอยิ่งไม่เป็นตัวของตัวเอง จะตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“คุณชายมีงานด่วนครับ”
เย่าหยางพาเจ้านายเข้ามาที่โกดังเก็บของงานด่วนของพวกเขาคืออีกไม่กี่วันซ่งห้าวอี้จะทำการเคลื่อนย้ายของผิดกฎหมาย ทั้งสองเป็นศัตรูที่ตามฆ่ากันมานาน
“ซ่งห้าวอี้มันคือใครวะ”
“เป็นศัตรูของเราไงครับ ครั้งหนึ่งมันเคยใส่ร้ายว่าเราเก็บของผิดกฎหมายไว้ในโกดังจนเราถูกจับ”
แต่มีผู้บัญชาการเติ้งมาช่วยไว้ได้ทันพวกเขาจึงรอดมาได้ซ่งห้าวอี้ มักจะใช้วิธีสกปรกในการเล่นงานเฉินเหยียนเฟย
“แล้วฉันต้องทำยังไง”
“เราต้องตามล้างแค้นมันครับเราไม่ฆ่ามันก่อน มันก็จะฆ่าเรา” วงการนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับคนอ่อนแอ เฉินเหยียนเฟยได้ยินก็ขนลุกขึ้นสมัยนี้เขาฆ่าแกงกันง่ายขนาดนี้เลยหรือ
“ฉันต้องฆ่ามันเหรอ”
“เราต้องจัดการมันครับ”
แค่คิดก็ขนลุกแล้วให้เขาไปฆ่าคนชายหนุ่มแข้งขาอ่อนแรงขึ้นมาเขากลัวเลือดเขากลัวเสียงปืน ไม่จริงเขาต้องไม่เอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เด็ดขาด
“อีกสามวันเราต้องตามไปจัดการมันครับ” เย่าหยางเห็นแววตาที่ตื่นตระหนกของเจ้านายก็นึกอยากขำมีอำนาจอยู่ในมือแต่ใช้ไม่เป็นต่างจากคนเดิมที่ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลา
“ฉันขอตัวก่อน”
“เชิญครับ”
“ไอ้มาเฟียบ้านั่นตายไปแล้วยังจะมาสร้างภาระให้อีกจะตายอีกรอบไหมก่อน” เฉินเหยียนเฟยคิดไม่ตกรวยมีเงินใช้อันนี้ไม่ติดแต่ติดทำไมต้องมีศัตรูมากมาย
“อะไรวะเนี่ย”
ชายหนุ่มหยิบซองกระดาษขึ้นมาเป็นทะเบียนสมรสของเขาและหลินเยี่ยนจือพร้อมกับจดหมายของพ่อหญิงสาวที่ฝากฝังให้เฉินเหยียนเฟยดูแลบุตรสาวของตัวเองให้ดีพร้อมกับสมบัติที่ถูกถ่ายโอนมาเป็นชื่อเฉินเหยียนเฟย
“ทำไมเลวได้ขนาดนี้เราว่าเลวแล้วไอ้หมอนี่เลวคูณสิบ”
ความทรงจำเกี่ยวกับหลินเยี่ยนจือหลั่งไหลเข้ามาหญิงสาวเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ราวกับทาสคนหนึ่งที่ต้องทำงานสารพัด แถมเฉินเหยียนเฟยยังจะเอาหญิงสาวไปยกให้คนอื่นตามอำเภอใจอีกเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เป็นสมบัติชายหนุ่มกับยึดมาหมด
“ไอ้เลวเอ๊ย”
เขารับไม่ได้ที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งต้องมาลำบากอะไรขนาดนี้แถมยังแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักอีก เด็กอายุสิบเก้าปีคนหนึ่งต้องแบกรับภาระอะไรเยอะแยะ
“ผมจะดูแลหลินเยี่ยนจือเองครับคุณพ่อไม่ต้องห่วง”
ชายหนุ่มเก็บเอกสารลงที่เดิมอย่างน้อยหลินเยี่ยนจืออยู่กับเขาก็จะไม่ได้ลำบากเด็กในวัยเดียวกันเขาออกไปเที่ยวเล่นกันอย่างสนุกสนานเขาต้องปล่อยให้หญิงสาวออกไปใช้ชีวิตบ้าง