บทที่ ๕ แค่ลองชิม
ช่วงสายของมีขกเข้ามาขอพบเฉินเหยียนเฟยเขาคนนั้นคือเฉินลี่หยางลูกพี่ลูกน้องของชายหนุ่มแต่เฉินเหยียนเฟยกับมีความทรงจำเกี่ยวกับน้องชาย
“พี่ชายวันนี่ผมกลับมาแล้วงานที่ให้ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี”
“งาน?” ชายหนุ่มสงสัยว่างานอะไรที่ให้น้องชายไปทำเพราะเขาจำไม่ได้นอกจากจะค้าขายกับต่างชาติยังมีอะไรอีก
“ลืมไปว่าจำอะไรไม่ได้ก็พี่ส่งผมไปขายอาวุธให้รัฐบาลทางตอนใต้ไงได้เงินมาเยอะเลย” อาชีพที่ไม่ค่อยจะสุจริตพวกเขาก็ทำกันและยังมีผู้บัญชาการร่วมขบวนการ
“อ้อฉันจำได้แล้ว”
“ว้าวพี่สะใภ้วันนี่ผมมีของขวัญมาให้ด้วย” เฉินลี่หยางหยิบกำไรข้อมือออกมาเขาจำได้ว่าพี่สะใภ้ของเขาอายุครบยี่สิบสองปีแล้วชายหนุ่มจึงยื่นให้
“สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณชายรอง” หญิงสาวหยิบขึ้นมาเป็นกำไรหยกสีเขียวสวยงามระรานตาราคาคงจะแพงไม่น้อย หลินเยี่ยนจือจึงส่งยิ้มให้เขา
แต่เป็นเฉินเหยียนเฟยที่ตกหลุมพรางรอยยิ้มที่เขาไม่เคยเห็นเวลาอยู่กับน้องชายของเขาทำไมหญิงสาวจึงร่าเริงสดใสพออยู่กับเขากับทำท่าทีเหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย
“อะ แฮ่ม ไม่มีอะไรก็ไปทำงานของเธอ” หญิงสาวเมื่อถูกไล่จึงขอตัวออกมาเฉินเหยียนเฟยมองตามตาไม่กระพริบเขาจึงยกน้ำชาขึ้นมาจิ้บ
“หวงหรือไงร้อยวันพันปีไม่เคยเป็นแบบนี่ตอนนั้นพี่จะยกพี่สะใภ้ให้ผมด้วยซ้ำไป”
ปัง!
ไอ้มาเฟียหน้าโหดกล้าจะยกภรรยาให้น้องชายตัวเอง เขาได้ยินเรื่องราวแบบนั้นก็รับไม่ได้ตอนนี้เขาอยากอยู่กับเมียของคนอื่นเขาก็เป็นเฉินเหยียนเฟยเหมือนกัน
“นายกลับไปได้แล้วฉันมีธุระ”
“กลับอะไรบ้านผมก็อยู่ข้างพี่ อ้าวรีบไปไหน” เฉินลี่หยางแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของพี่ชายตัวเองหรือจะตกหลุมรักภรรยาตัวเองขึ้นมาก็ไม่น่าจะใช่เพราะแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว
“คุณผู้หญิงคะคุณชายให้ยกชาไปเสิร์ฟที่ห้องทำงานค่ะ”
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง” หลินเยี่ยนจือจึงยกชาเข้ามาเสิร์ฟในห้องทำงานของชขายหนุ่มแต่พอเข้ามากับไม่เห็นใครจึงนำชาไปวางไว้บนโต๊ะของเขาแทน
“อุ้ย อื้อ”
ริมฝีปากของชายหนุ่มทาบทับลงมาเขาใช้มืออีกข้างล็อกประตูและอีกข้างผลักให้หญิงสาวชิดกับผนังห้อง ปากหนาไม่ยอมปล่อยออกห่าง
“เมื่อกี้เธอยิ้มให้มัน”
“คุณเป็นบ้าอะไรขึ้นมา อ๊ะ” หลินเยี่ยนจือตกใจกับสิ่งที่เขาทำเขาถลกกระโปรงของเธอขึ้นมาจนเห็นต้นขาขาวเนียนเธอไม่เคยใกล้ชิดเขาแบบนี้มาก่อน
“เธอเป็นภรรยาของฉัน” เฉินเหยียนเฟยจูบหญิงสาวอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาอาสัยทีเผลอจับรูกกางเกงชั้นในของหญิงสาวไปกองไว้ที่พื้นโดยที่หญิงสาวมัวแต่หลงมัวเมาในรสจูบของเขา
“อ๊ะ อื้อ!!”
“เสียวไหม อ่าส์” ชายหนุ่มเลื่อนมือเข้าไปสกิดเม็วเสี่ยวของหญิงสาวมืออีกข้างทีเหลือก็สำรวจหน้าอกที่ใหญ่เกินตัว เขาชอบมากไม่คิดว่าหญิงสาวสมัยนี้หุ่นจะน่ากินไปหมด
“อย่าทำแบบนี้ อือ อ๊ะ!!”
“เธอชอบดูสิน้ำเยิ้มออกมาเลย” เฉินเหยียนเฟยนั่งคุกเข่าลงใบหน้าของเขาอยู่ในระดับเดี๋ยวกับน้องสาวของเธอ เขาจับหญิงสาวอ้าขาออกและซุกใบหน้าลงไปกลางลำตัวชายหนุ่มเขี่ยเม็ดเสียวจนแดงเถือกขึ้นมา
เสียงหวานครางออกมายามที่เขาดูดเสียเม็ดของเธอความรู้สึกปั่นป่วนไปหมด เฉินเหยียนเฟยแหวกขนเพชรสีดำออกถึงแม้จะดูดเสียไม่ถนัดแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาเลย
“อ๊า!! พอแล้ว” หญิงสาวพยายามจะหนีบขสแต่ชายหนุ่มไม่ยอมตอนนี้ขสทั้งสองข้างสั่นเทาไปหมดเพราะความเสียวซ่านไม่รู้ว่าตัวเองเผลอครางไปตั้งแต่เมื่อไร
เฉินเหยียนเฟยยีงคงละเลงลิ้นดูดเลียกลีบกอดไม้และส่งลิ้นเข้าไปในรูร่องในลึกที่สุดและหมุนลิ้นควานเป็นวงกลมจนน้ำเมือกไหลออกมาไม่หยุดเขาชอบที่สุดถึงแม้จะไม่เคยทำให้ใครและก็ใช่ว่าจะทำไม่เป็น
“อร้ายยย!!” หญิงกรีดร้องออกมาเมื่อตัวเองนั้นเสร็จสมแล้วน้ำเมือกสีใสไหลออกมาจนชายหนุ่มต้องดูดเลียไปมาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนแทบไม่ไหวเขาจึงผละออก
“อยากทำงานก็มาทำงานให้ฉันสิไม่เห็นจะต้องไปลำบากที่อื่นเลย แค่นอนกับคราง โอ๊ะ”
เพียะ
“เก็บปากของคุณเอาไว้เห็นข้าวก็พอ”
หลินเยี่ยนจือทั้งอับอายและโมโหตัวเองที่เผลอไปกับสัมผัสของเขาหญิงสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของเขาและปิดประตูเสียงดังลั่น
ปัง
เธอออกไปแล้วชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าหลินเยี่ยนจือโกรธอะไรให้เขาชายหนุ่มได้แต่มองกางเกงชั้นในของหญิงสาวที่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าและยิ้มออกมา “ผู้หญิงด่าแปลว่าผู้หญิงรัก” ชายหนุ่มจึงเก็บกางเกงชั้นในสีดำลงไว้ในกระเป๋ากางเกง
หลินเยี่ยนจือเข้ามาให้ห้องตัวเองและเอามือทาบหน้าอกของตัวเองไว้ตอนนี้มันเต้นแรงจนจะทะลุออกมาปกติเฉินเหยียนเฟยไม่เคยคิดอยากจะเข้าใกล้เธอ จู่ๆ ก้อยากลากเธอขึ้นเตียงเสียอย่างนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณผู้หญิงคะใกล้ถึงเวลาแล้วค่ะ”
“เดี๋ยวฉันออกไป” หญิงสาวรีบแต่งตัวใหม่วันนี้เธอจะออกไปไหว้กระดูกของพ่อกับแม่และอดีตคนรักพวกเก่าต่างพากันทิ้งเธอไว้กับซาตานตัวร้ายจางหย่งเสียชีวิตเพราะเข้าปราบปรามคนร้ายและถูกยิงเสียชีวิต
หลังจากที่เขาจากไปได้ไม่นานเหมือนโลกทั้งใบของเธอพังถล่มลงมาอีกครั้ง พ่อของเธอที่เป็นนายทหารใหญ่ป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและขอร้องให้เธอแต่งงานกับซาตาน หลังจากแต่งงานได้เพียงสามวันพ่อของเธอก็จากไปอย่างสงบทิ้งทรัพย์สินมากมายไว้ให้เธอแต่ตอนนั้นอายุยังน้อยฌฉินเหยียนเฟยจึงอาสาเข้ามาดูแลแทน
หญิงสาวเพิ่งมาทราบในภายหลังว่าชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นชื่อของเขาจนหมด จนเธอต้องออกไปหางานทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง เขาใจร้ายกับเธอสารพัดทำเหมือนเธอเป็นทาสคนหนึ่งที่ต้องรับใช้เขาเจ็บใจไปกว่านั้นเขาพยายามจะยกเธอให้กับคนอื่น
“พ่อไม่ต้องเป็นหนูนะคะ หนูเก่งมากเลย” จากคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นชีวิตอยู่สุขสบายตอนนี้เธอทำเป็นแทบจะทุกอย่างหญิงสาวเรียนไม่จบมหาลัยเพราะต้องออกมาหางานทำ
“หนูจะใช้ชีวิตให้ดีค่ะและจะออกไปจากที่นี่คุรพ่ออย่าโกรธเลยนะคะ”
หลินเยี่ยนจือพูดต่อหน้ากระดูกของพ่อกับแม่ แม่ของหญิงสาวจากไปตั้งแต่หญิงสาวยังเด็กทำให้เธอต้องอยู่กับพ่อชีวิตที่สุขสบายแต่ไม่เคยมีความสุข
“จางหย่งพี่คงไปเกิดใหม่แล้วสินะไม่รอกันเลย” เธอไม่เคยลืมเขาเพราะเขาอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดเวลา ชายหนุ่มเป็นเพื่อนคอยวิ่งเล่นกับเธอท่ตั้งแต่เด็กและเป็นลูกน้องของคุณพ่อหากเขาไม่จากไปคนที่ต้องแต่งงานด้วยก็คงจะเป็นเขา
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะฉันสบายดี ฮึก” หลินเยี่ยนจือพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้คนที่บอกว่าเข้มแข็งสุดท้ายก็กลายเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดเฉินเหยียนเฟยเริ่มเข้ามาเล่นกับใจของเธอ
“ฉันจะเข้มแข็งเหมือนที่พี่บอก” ตอนเขาจากไปเธอได้ยินแต่คำว่าให้เธอเข้มแข็ง โลกช่างใจร้ายขนาดนี้แล้วเธอจะเข้มแข็งได้อย่างไร
“คุณผู้หญิงคะคุณชายมา” สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังกระซิบบอกเจ้านายของตัวเอง
หญิงสาวแปลกใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ตั้งแต่พ่อของเธอเสียเขาก็ไม่เคยมาหาท่านเลย ชายหนุ่มเปลี่ยนไปอาจจะแค่อยากแกล้งเธอเพื่อความสะใจ
“นึกว่าออกไปไหนที่แท้ก็มาหาคนรักเก่า”
เขาได้ทราบข่าวว่าหญิงมาหาพ่อและมาหาแฟนเก่าเขาจึงรีบตามมาเห็นน้ำตาแล้วอยากจะเดินไปแตะป้ายชื่อทิ้ง ตายไปแล้วยังจะมาทำให้เมียเขาเสียใจ
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
“ผมก็มาไหว้พ่อตาผมไง”
คำตอบที่ออกมาจากปากของเฉินเหยียนเฟยทำให้ทุกคนที่ได้ยินไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินร้อยวันพันปีไม่เคยคิดที่จะมา ช่วงนี้ชายหนุ่มแทบไม่ทำงานทำการและคอยตามตอแยหลินเยี่ยนจือตลอดเวลา
“ฉันไหว้เสร็จแล้วจะกลับแล้ว”
“เดี๋ยวสิ กลับพร้อมกัน”