บท
ตั้งค่า

บทที่ ๑ แก๊งคอลเซนเตอร์

“ถ้าอย่างรบกวนคุณไห่ลี่โอนเงินจำนวน 3 หมื่นหยวนเข้ามาในระบบเลยครับทางเราจะได้ทำเรื่องเบิกเงินให้ครับ”

เมื่อเหยื่อหลงกลและโอนเงินเข้ามาทำให้เฉินเหยียนเฟยยิ้มออกมาอย่างพอใจที่สามารถหลอกเหยื่อให้ตายใจได้ เมื่อเงินถูกโอนเข้ามาในบัญชีเขาจึงรีบบล็อกทุกช่องทางการติดต่อโดยไม่ทุกข์ร้อนอะไรว่าเหยื่อจะเป็นอย่างไร

“โห่พี่เก่งมากเลยนับถือ”

“พี่แน่อยู่แล้วไอ้น้อง”

เฉินเหยียนเฟย ชายหนุ่มวัยสามสิบสองปีที่ทำอาชีพแก๊งคอเซนเตอร์หลอกลวงชาวบ้าน เขาอยู่วงการนี้มาเกือบสามปีแล้วใครว่าคนน่ากลัวความจนต่างหากที่น่ากลัวเขาปากกัดตีนถีบตัวเองมาจนมีเงินมีทองทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

“ไอ้หนุ่มดวงถึงแล้ว” ยายชราที่นั่งอยู่บริเวณคอสะพานเอ่ยขึ้นมาเมื่อเฉินเหยียนเฟยเดินผ่านหน้า เธอรู้เธอเห็นอีกไม่กี่ชั่วโมงหรอกน่าสงสารอายุยังน้อยอยู่เลย

“ยายพูดอะไรแก่แล้วเลอะเลือนหรือไง” เขาหัวเสียขึ้นมาที่ถูกทักแบบนั้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนแก่และเป็นหญิงชราเขาเตะหัวคว่ำไปแล้ว

“อย่าเดินไปทางนั้นเลยไอ้หนู”

“พูดอะไรของยายมาแช่งกันทำไม”

“คนเราหนีไม่พ้นความตายหรอก” แล้วแต่สวรรค์จะกำหนดว่าใครจะอยู่หรือใครจะตายยายชราส่ายหน้าแม้จะห้ามแล้วแต่ชายหนุ่มก็ไม่ฟังเดินข้ามสะพานไป

“เห้ออ เวรกรรมหรือสวรรค์เมตตาก็ไม่รู้”

เฉินเหยียนเฟยเดินข้ามสะพานตอนนี้ใกล้จะเช้าแล้วเขาต้องการพักผ่อนแต่คำพูดของยายชราทำให้เขาเริ่มคิดมาก ร้อยวันพันปีเจอหน้ากันทุกวันมานี้กลับมาแช่งเขา

“คนอย่างกูไม่ยอมตายหรอกถ้ามีเมียสวยๆ หุ่นบึ้มๆ เมื่อไรจะยอมตาย” เขากำลังจะเดินข้ามถนนไปแต่เหมือนมีเสียงแว่วๆ ของใครดังปลิวผ่านลมมา ‘อย่าเดินไป’

“คิดมากอีกแล้ว”

เฉินเหยียนเฟยเดินข้ามถนนที่ตอนนี้ไม่มีรถแล่นผ่านเพราะเป็นเวลาตีสี่แล้ว เพียงแค่ข้ามถนนได้ครึ่งทางก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาหนึ่งนัดจนเขาต้องมองหาต้นตอของเสียง

ปัง ปัง ปัง

“เห้ย ไรวะแม่งซวยแล้วกู” เขาพยายามจะหาที่หลบกระสุนเมื่อเห็นกลุ่มคนยกพวกตีกันในมือมีทั้งอาวุธปืนและมีดดาบเต็มไปหมดกำลังวิ่งกรูกันมาทางที่เขายืนอยู่

“ไม่อยู่แล้วโว้ย”

ปัง

เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดเหมือนทุกอย่างกำลังจะหยุดนิ่งชายหนุ่มค่อย ๆ มองลงไปที่หน้าอกที่ตอนนี้เลือดกำลังไหลออกมา เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด

เฉินเหยียนเฟยล้มลงที่กลางถนนเขามองเห็นผู้คนกำลังวิ่งหนีไปอีกทางและเสียงจากไฟหน้ารถ เขาไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างเขาถูกยิงเข้าที่หน้าอกข้างซ้ายตัดขั้วหัวใจหยดน้ำตาไหลลงมาก่อนจะล้มตัวลงนอนและสติค่อยๆ ดับไป

ตำรวจและรถพยาบาลต่างพากันนำคนไข้ส่งโรงพยาบาลเหตุเกิดจากการทะเลาะวิวาทของผู้มีอิทธิพลและมีคนเสียชีวิตหนึ่งรายในที่เกิดเหตุทราบชื่อคือ เฉินเหยียนเฟย

มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ค.ศ 1980

หลินเยี่ยนจือกำลังนั่งรอคุณหมอที่หน้าห้องผ่าตัดด้วยแววตาที่สงบนิ่งไม่มีความดีใจหรือเสียใจ หลินเยี่ยนจือแต่งงานตั้งแต่อายุ 19 ปีจนตอนนี้อายุครบ 22 ปีแล้ว 3 ปีกับการแต่งงานแต่ไม่เคยอยู่กับสามีตัวเอง หญิงสาวถูกบังคับให้แต่งงานกับเฉินเหยียนเฟยซึ่งเป็นเจ้าพ่อมาเฟียที่มีอิทธิพลมากที่สุด

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาหญิงสาวได้รับรายงานว่าสามีถูกยิงอาหารสาหัสตอนนี้หมอกำลังยื้อชีวิตของเขาอยู่ เฉินเหยียนเฟยคนที่ผู้คนต่างยำเกรงและเคารพเขามีผู้หญิงมากมายบางครั้งคนของเขาก็ตามราวีหลินเยี่ยนจือ

“ญาติของคุณเฉินเหยียนเฟยครับ”

“ฉันเองค่ะ”

“ตอนนี้คนไข้อยู่ในขั้นวิกฤติต้องรักษาตัวในห้องไอซียูก่อนครับกระสุนเข้าไปในจุดที่สำคัญ”

เฉินเหยียนเฟยถูกลอบทำร้ายในขณะที่กำลังไปเที่ยวผับกับผู้หญิงของ หญิงสาวที่เป็นภรรยาไม่เคยขึ้นเตียงกับเขาเลยสักครั้งเพราะชายหนุ่มนั้นรังเกียจเธอยิ่งกว่าอะไรชายหนุ่มต้องแต่งงานกับเธอเพราะคำว่าบุญคุณที่พ่อของเธอเคยช่วยเขาไว้ก่อนที่พ่อจะจากไปด้วยโรคร้ายหลังวันแต่งงานแค่สามวัน

“คุณผู้หญิงกลับก่อนนะครับ”

“ฝากทางนี้ด้วย” หญิงสาวกำลังจะหมุนตัวกลับแต่เห็นผู้หญิงของชายหนุ่มเดินเข้าทางนี้เสียก่อน

“ฉันมาเยี่ยมเหยียนเฟย” จางหลินซินเดินมาแสดงตัวหญิงสาวรอเวลานี้มานานแล้ว ภรรยาแต่งหรือจะสู้คนที่เขาหลับนอนด้วยเมื่อได้รับข่าวว่าเขาบาดเจ็บหญิงสาวจึงรีบมาทันที

“เย่าหยาง”

“ครับ”

“ไม่ต้องให้สวะคนไหนเข้ามาเยี่ยม” พูดจบหลินเยี่ยนจือจึงเดินทางกลับหลังจากที่เฝ้ารอดูอาการของเขามาหลายชั่วโมง เธอตัดสินใจแล้วว่าหากเขาหายดีเธอจะขอเขาหย่าและจะกลับไปใช้ชีวิตที่เงียบสงบตามลำพัง

หลินเยี่ยนจือลูกคุณหนูตระกูลหลินคือมั่งคั่งมาก่อนสุดท้ายบิดาก็จากไปด้วยโรคร้ายทิ้งสมบัติไว้มากมายให้เธอที่เป็นลูกคนเดียวที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างจนมีเฉินเหยียนเฟยเข้ามาดูแล

หญิงสาวหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้าเฉินเหยียนเฟยไม่ค่อยได้กลับมาพักที่คฤหาสน์หลังโตนี้ เขาตราหน้าเธอทุกวันว่าเป็นตัวถ่วงชีวิตของเขา

“เยี่ยนจือคิดถึงคุณพ่อนะคะ”

กริ้ง

หญิงสาวสะดุ้งตื่นเพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาในช่วงเช้าตรู่สายโทรเข้ามาจากโรงพยาบาลให้เธอรีบเข้าไปดูอาการของชายหนุ่มที่อาการไม่ค่อยสู้ดี

“เกิดอะไรขึ้นคะ”

“คุณชายจู่ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาและร้องโวยวายไม่ให้ใครเข้าใกล้เลยครับ คุณผู้หญิงระวังตัวด้วย”

“ไม่เป็นอะไรฉันจะเข้าไปดูเขาเอง”

หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องพักฟื้นของชายหนุ่มที่เพิ่งถูกย้ายออกมาจากห้องผู้ป่วยวิกฤต หมอนกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นหลินเยี่ยนจือจึงเดินไปพูดกับเขา

“คุณเป็นอะไรขึ้นมา”

“ถอยออกไป ไม่จริงฉันอยากตาย”

“กรี๊ดดด ช่วยด้วย” หญิงสาวกรีดร้องออกมาเมื่อคนป่วยวิ่งไปที่ระเบียงห้องและทำท่าทีจะกระโดดลงไปที่พื้นเบื้องล่าง

“คนไข้ใจเย็นๆ นะครับ”

“บอกฉันมาปีนี้ ค.ศ. อะไร” เฉินเหยียนเฟยมองไปรอบๆ กายและรู้สึกสับสนที่นี่ไม่คุ้นตาและสภาพแวดล้อมภายนอกเหมือนย้อนเวลากลับมาสู่ยุค 80 เสียอย่างนั้น แต่คนตรงหน้าชั่งสวยหยาดเยิ้มราวกับนางฟ้า

“ปีนี้ ค.ศ 1980 ค่ะคุณเข้ามาข้างในก่อน” หลิวเยี่ยนจือพยายามที่จะพูดคุยกับเขา ชายหนุ่มเหมือนไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จักมาก่อน

“ถอยออกไป” หรือว่าเขากำลังฝันไปชายหนุ่มตบเข้าไปที่แก้มของตัวเองและร้องออกมาเพราะรู้สึกเจ็บ

“คุณชายอย่าทำร้ายตัวเองครับ” ทั้งหมอและพยายามต่างพากันเข้ามาห้ามแต่ดูเหมือนว่าเฉินเหยียนเฟยกำลังตกอยู่ในความคิดของตัวเองเขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับหญิงสาวตรงหน้า

“คุณเป็นใคร”

“เหยียนเฟยคุณจำฉันไม่ได้?” เขาเกลียดเธอจนต้องแกล้งจำเธอไม่ได้เชียวหรือ แต่แววตาที่แสนตื่นตระหนกนั้นทำให้เธอมั่นใจว่าไม่ใช่เขา

“ผมจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น” อย่างน้อยการแกล้งความจำเสื่อมก็อาจจะทำให้เขามีชีวิตรอดได้ แต่ทำไมจู่ๆ ความทรงจำเก่าๆ ถึงโผล่เข้ามาในสองของเขาเป็นตอนที่ถูกยิงแต่ความทรงจำนั้นไม่ใช่ของเขา

“นี้คุณผู้หญิงภรรยาของคุณชายครับ”

เฉินเหยียนเฟยหันไปมองหญิงสาวทันทีภรรยาแสดงว่าเขาต้องเข้ามาอยู่ในร่างของคนรวยแน่ๆ ถึงได้มีคนเรียกว่าคุณชายและมีภรรยาสวยขนาดนี้

“ผมอยากอยู่กับคุณตามลำพัง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel