บาดตา
ไม่เห็นเฌอรีนกลับมาสักทีก็รู้สึกเป็นห่วงเพราะเธอดื่มหนักมาก มิโน่ก็ด้วย ไปเข้าห้องน้ำนานจัง ฉันจึงลุกออกจากที่นั่งพร้อมกับถุงกระดาษใส่ของขวัญไปห้องน้ำซึ่งคาดว่าเพื่อนน่าจะอยู่ที่นั่น
ฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำหาทุกห้องก็ไม่เจอเฌอรีน ระหว่างที่กำลังเดินออกจากห้องน้ำฉันก็เดินสวนทางกับผู้หญิงสองคนกำลังซุบซิบนินทาใครอยู่
“สงสัยอยากเป็นบรรยากาศ โรงแรมมีไม่ยอมไปถึงได้เล่นเสียวกันที่บันไดหนีไฟแบบนั้นนะ” ฉันกำลังจะเดินหนีไปแล้ว ก็ต้องสะดุดกับประโยคถัดมาของสองสาว
“ยัยชุดครีมนั้นเร่าร้อนน่าดู ฮ่า ฮ่า...เสียดายที่เห็นหน้าผู้ชายไม่ถนัด” ฉันรีบหันขวับไปมองสองคนนั้นทันที
“ฉันได้ยินหล่อนครางเรียกชื่อผู้ชายด้วยอ่ะ...มิๆ ..โน่ๆ ..อะไรสักอย่างแหละ” ฉันถึงกับชาวาบไปทั้งตัวในใจก็ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย ฉันรีบเดินไปที่บันไดหนีไฟทันที ภายในใจก็ว้าวุ่นไปหมดใจนึ่งก็ปลอบตัวเองว่ามันไม่มีอะไรแต่อีกใจก็อยากจะเห็นกับตาเพื่อความแน่ใจ
พอฉันเดินมาถึงหน้าประตูหนีไฟฉันก็ได้ยิงเสียงที่คุ้นเลยของเพื่อนตัวเอง เฌอรีน เสียงของเธอบ่งบอกว่าเธอกำลังสุขสมกับกิจกรรมสุดหรรษา เสียงชายหญิงควรครางแข่งกันอย่างเมามันส์ ฉันเอื้อมมือที่สั่นเทาพยายามบังคับให้มันหยุดสั่นน้ำตาก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาบดบังสายตา ฉันพยายามกั้นมันไว้ไม่ให้ไหลออกมาตอนนี้เพราะมันจะทำให้เห็นอะไรได้ไม่ชัด มือฉันจับที่ลูกบิดประตูพร้อมออกแรงบิดแล้วผลักมันเข้าไป
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ฉันพูดไม่ออกได้แต่ยืนตัวสั่นรู้สึกชาไปทั้งตัวแขนขาไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนวิญญาณได้ออกจากร่างไปแล้ว ผู้ชายที่ฉันรักกับเพื่อนสนิทพวกเขากำลังมีความสุขกันสินะ ฉันมองเห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเฌอรีน เสื้อสายเดียวสีครีมของเธอหล่นมากองอยู่ที่เอวคอดตัวของเธอก็นั่งอยู่บนตักคร่อมผู้ชายคนนั้นไว้อยู่ เธอซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขา “มิโน่” ฉันอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครืออย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นหน้าผู้ชายชัดๆ มิโน่กำลังเงยหน้าขึ้นมามอง ฉันรีบก้าวถอยหลังปิดประตูอย่างรวดเร็ว น้ำตาที่กั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้ไหลออกมาไม่มีทีท่าจะหยุดง่ายๆ ฉันวิ่งออกมาจนถึงลานจอดรถและกำลังจะวิ่งต่อไปที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกรถแท็กซี่ ระหว่างนั้นฉันก็วิ่งไปชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ” ฉันก้มหน้าเอ่ยขอโทษโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นไปมอง
“ไลลา” ผู้ชายที่ฉันวิ่งชนเรียกชื่อฉัน ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขา