EP : 2
“เจ้าขา~”
“อื้อ ว่าไงคะนิ้ง”
“เมื่อคืนเป็นไง”
“หือ เมื่อคืนเหรอ? ก็ดีนะ เสียดายสนามเปิดแค่อาทิตย์ละครั้ง ไม่งั้นเราคงสบายเลยถ้าได้ทำงานที่เดียว”
“แหม~ ยิ้มขนาดนี้แสดงว่าทิปหนักมากแน่ๆ แล้วเจอหล่อๆ แซบๆ บ้างไหม”
“ก็...มีเยอะนะนิ้ง ที่จริงหาคนไม่หล่อไม่ค่อยเจอเลย คนหน้าตาดีเต็มไปหมด”
“หูย~ ดีอ่ะ อยากทำบ้างพาไปสมัครหน่อย เผื่อได้เนื้อคู่ในสนามแข่งรถ”
“ไม่ต้องเลย คนหล่อแต่เจ้าชู้ กินเหล้าเมายาเล่นการพนันมันดีที่ไหน นิ้งชอบแบบนั้นเหรอ”
“หล่อ รวย แซบ ใครไม่ชอบล่ะคะเจ้าขา ใครๆ ก็อยากมีแฟนหล่อกันทั้งนั้น” คะนิ้งพูดแล้วก็ทำหน้าเพ้อฝันฉันเลยส่ายหน้าเบาๆ
“เรานี่แหละที่ไม่ชอบ” ฉันตอบคะนิ้งเพื่อนสนิทของฉันเองแล้วก็สนใจอาหารในจานต่อ
“ดีออกจะได้สบายไง ยิ่งสวยๆ แบบเจ้าขาหาแฟนหล่อรวยได้สบายอยู่จะไม่ต้องลำบาก สนใจไหมล่ะจ้ะคนสวยของนิ้ง”
“ไม่ดีกว่า ยืนด้วยลำแข้งตัวเองสบายใจจะตาย แฟนไม่ใช่พ่อแม่จะไปเอาเงินเขามาใช้ทำไม” ฉันขมวดคิ้วนิ่วหน้าใส่คะนิ้งนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรเพราะต่างคนก็ต่างความคิด แต่ถ้าถามว่าคะนิ้งอยากมีแฟนรวยจะได้สบายอย่างที่พูดเมื่อกี้รึเปล่าฉันก็มั่นใจว่าเพื่อนฉันไม่ได้เป็นคนประเภทที่ต้องการอาศัยจมูกคนอื่นหายใจแน่นอน
“จ้า~ แต่ระวังนะเจ้าขาได้ข่าวว่าเจ้าของสนามหล่อแถมเจ้าชู้มาก”
“ไม่มีทางหรอกเขามีแฟนแล้วชื่อพี่พัดลม สวยมากแล้วท่าทางเขาก็รักแฟนมาก~ หมดห่วงได้เลยค่ะคะนิ้ง”
“ก็ไม่แน่ผู้ชายเคยเจ้าชู้ไว้ใจไม่ได้หรอกระวังตัวหน่อย ไม่ใช่แค่เจ้าของสนามนะเพื่อนๆ เขาก็ต้องระวังให้ดีได้ข่าวว่ากลุ่มนี้ไม่ธรรมดา”
“อื้อ แต่ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกนิ้ง ใครจะมาสนใจเด็กเสิร์ฟ แต่ละคนในโซนนั้นไฮโซทั้งนั้น” ฉันยิ้มให้คะนิ้ง เพื่อนสนิทที่เป็นเหมือนเพื่อน พี่ แม่เป็นคนที่คอยห่วงใยฉันเสมอ
“ไม่ต้องเจียมตัวเลยเจ้าขา หัดส่องกระจกดูหน้าตาตัวเองหน่อยว่าสวยแค่ไหน”
“ค่าคุณแม่ เจ้าขาจะจำคำสอนทุกคำของคุณแม่ให้ขึ้นใจนะคะ” ฉันรับคำพร้อมกับฉีกยิ้มให้คะนิ้งที่มองค้อนฉัน
“แต่ถ้ามีคนดีๆ แบบพี่มิกซ์มาจีบแกต้องรีบคว้าไว้เลยนะ อิอิ”
“หือ ใครเหรอ?” ฉันไม่ค่อยรู้จักใครหรอกค่ะถ้าในสนามก็รู้จักแค่พี่ๆ พนักงาน คุณชัตเตอร์ พี่พัดลม พี่คูเปอร์ แค่นั้นนั่นแหละ อีกอย่างก็เพิ่งหลุดจากการทำงานในครัวไปเสิร์ฟในสนามเมื่อคืนนี่เอง เลยไม่ค่อยรู้จักใคร
“เอ้า! ทำงานที่นั่นแต่ไม่รู้จักเพื่อนสนิทเจ้าของสนามได้ไง พี่มิกซ์อ่ะ พี่มิกซ์ที่เป็นประธานสโมสรนักศึกษาคนนั้นไงเจ้าขา~” คะนิ้งทำหน้าอึ้งใส่ฉันแล้วอธิบาย
“อ้อ พี่ประธานสโมสรคนนั้นน่ะเหรอ เหมือนเมื่อคืนเราจะเห็นเขารึเปล่านะ เห็นแวบๆ ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่าแค่คุ้นๆ ว่าเหมือนคนในโปสเตอร์มหาลัยมั้งนะ”
“หล่อขนาดนั้นถ้าเห็นก็ต้องมั่นใจสิเจ้าขา หล่อทะลุเพดานเลยนะเจ้าขาจะมาพูดแค่ว่าแค่คุ้นๆ เหมือนคนในโปสเตอร์ไม่ได้เพราะมันทำให้คุณค่าความหล่อของพี่เขาลดลองเจ้าขาเข้าใจไหม อย่างพี่มิกซ์ต้องหล่อตรึงตราตรึงใจเห็นที่ไหนก็จำได้สิ”
“ฮ่าๆๆ นี่นิ้งซีเรียสเหรอ” ฉันมองหน้าคะนิ้งแล้วอดหัวเราะไม่ได้เพราะเพื่อนฉันทำหน้าหงิกหน้างอใส่แค่เพราะฉันพูดแค่นั้นเอง ยัยเพื่อนบ้าคนหล่อชอบเป็นแบบนี้ประจำเลย
“ก็แกอ่ะทำไมไม่รู้จักคนหล่อๆ นี่ถ้าไม่ได้ทำงานที่นั่นแม้แต่พี่ชัตเตอร์ก็คงไม่รู้จักใช่ไหม”
“นิ้งก็รู้ว่าเราไม่ได้มีเวลาไปรู้จักคนมากมายขนาดนั้น” ฉันยิ้มให้คะนิ้งเหมือนเดิมแต่คำพูดของฉันทำให้คะนิ้งค่อยๆ หุบยิ้ม
“เฮ้อ! สงสารว่ะเจ้าขา ไหวไหม เหนื่อยเกินไปรึเปล่า” คะนิ้งถอนหายใจแล้วกุมมือฉันเอาไว้ก่อนจะบีบเบาๆ ฉันที่ได้ยินคำนี้จากเพื่อนรักก็ได้แต่เม้มปากจนเป็นเส้นตรงแล้วพยักหน้าให้คะนิ้ง
“ไหว สบายมากเลยนิ้ง”
“...ไม่หรอก แกไม่ได้ไหวหรอกเจ้าขา แกเหนื่อย แกท้อ แกอยากร้องไห้ แต่แกแค่ไม่อยากระบายให้ฉันฟังแค่นั้นเอง” คะนิ้งมองหน้าฉัน จ้องแบบไม่หลบสายตาจนฉันต้องเป็นฝ่ายหลุบตามองตักตัวเองแล้วก็เม้มปากมากกว่าเดิม
“ไม่ไหวใช่ไหมเจ้าขา ระบายกับฉันได้ตลอดนะทำไมต้องเก็บไว้คนเดียว”
“อื้อ แต่ต่อให้ไม่ไหวยังไงก็หยุดไม่ได้ไม่ใช่เหรอนิ้ง” ฉันยังมองตักของตัวเองแล้วตอบเพื่อนรักด้วยเสียงที่พยายามบังคับให้มันปกติ
“แม่เป็นยังไงบ้าง ไม่ดีขึ้นเลยเหรอ”
“...เหมือนเดิม”
“สู้ๆ นะเจ้าขา ขาดเหลืออะไรบอกฉัน ถึงฉันจะไม่ได้รวยมากแต่กับเพื่อนฉันก็พอจะช่วยเหลือได้นะ เราเป็นเพื่อนกัน แกคือเพื่อนรักคนเดียวของฉันจำไว้” คะนิ้งบีบมือฉันอยู่ตลอดเวลา คำพูดและน้ำเสียงที่ห่วงใยทำให้ฉันอยากงอแงกอดใครสักคนบ้าง คะนิ้งคือหนึ่งในไม่กี่คนที่ห่วงใยฉันมันทำให้น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลออกมาด้วยความรวดเร็วจนหยดลงที่มือของคะนิ้งพอดี มันไหลเร็วจนแม้แต่ฉันเองยังห้ามไม่อยู่
“อื้อ ขอบคุณนะนิ้ง”
“ถ้าอยากร้องต่อก็ปล่อยให้มันไหลออกมา ไม่ต้องพยายามกลั้นเอาไว้ แกจะทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าคนเป็นล้านคนก็ได้ แต่แกต้องมีใครสักคนที่แกสามารถระบายความอึดอัดความเสียใจออกมาได้เข้าใจไหม ถ้าแกเห็นฉันเป็นเพื่อนรักของแกเหมือนที่ฉันเห็นแกเป็นเพื่อนรักแกก็ร้องออกมาให้หมดเจ้าขา ร้องออกมาระบายความทุกข์ที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งไม่ควรได้รับออกมาให้หมด”
“ฮึก! นิ้ง~ ฮื่อๆๆ” น้ำตาฉันไหลออกมาตั้งแต่คะนิ้งพูดได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ มันไหลทั้งที่ฉันเองก็เอาแต่ก้มหน้าจนคะนิ้งพูดจบฉันถึงได้เงยหน้ามองเพื่อนรักทั้งน้ำตาแล้วโผกอดคะนิ้งในทันที ความทุกข์ความเหนื่อยความอ่อนล้า ทุกๆ ความรู้สึกที่สะสมในตัวฉันยกเว้นความสุขมันแทบไม่เคยได้ระบายออกมาเลยจนวันนี้ที่ฉันขอปลดปล่อยมันออกมาบ้างเพราะมันหนักสำหรับชีวิตเด็กผู้หญิงที่เพิ่งอายุแค่ 20 ปี ต้องพบเจอจริงๆ
ฉันร้องไห้โดยที่มีคะนิ้งคอยปลอบและคอยรับฟังความทุกข์ที่ฉันเลือกระบายแค่ 1 ใน 10 ให้เพื่อนฟัง จนเวลาผ่านไปพอสมควรฉันก็เริ่มดีขึ้น
“ดีขึ้นบ้างแล้วใช่ไหม” คะนิ้ยิ้มบางๆ มาให้ แววตาเต็มไปด้วยความห่วงใยฉันก็เลยเช็ดน้ำตาแล้วพยักหน้า
“อื้อ ได้ระบายออกไปบ้างก็ดีเหมือนกันเนอะ”
“เห็นไหมล่ะ ถึงการระบายเป็นคำพูดหรือน้ำตาจะทำให้ปัญหาหมดไปไม่ได้ แต่มันก็ทำให้เราสบายใจได้ อาจจะไม่ได้มากมายแต่ก็ดีกว่ามันยังเต็มในใจเท่าเดิม ลดทอนมันลงบ้างนะเจ้าขา”
“ขอบคุณนะนิ้ง”
“อื้อ ต่อไปเหนื่อย อึดอัด มีอะไรอย่าเก็บไว้ในใจ เพื่อนรักอยู่ตรงนี้ทั้งคนเข้าใจไหม”
“อื้อ” ฉันพยักหน้ารับแล้วก็เช็ดน้ำตาตัวเองต่อ รู้สึกเหมือนเด็กที่กำลังขี้แยให้พี่สาวปลอบยังไงก็ไม่รู้
“แต่ถ้าจะให้ดีนะ สวยๆ แบบนี้ถ้ามีผู้ชายดีๆ รวยๆ มาจีบก็รีบคว้านะคะ หาผัวรวยชีวิตจะได้สบาย~”
“ผู้ชายรวยๆ เขาทำให้เรามีความสุขได้จริงๆ เหรอนิ้ง” ฉันถามคะนิ้งแล้วก็มองเหม่อไปอีกทางหนึ่ง
“ก็...ดีกว่าลำบากมั้งเจ้าขา เห็นใครๆ ก็ชอบหาแฟนรวย ยิ่งสวยๆ ก็ยิ่งคบแต่คนรวย แต่มันก็ไม่เสมอไปหรอกเนอะ ฉันก็แค่แซวเล่นๆ อยากให้แกอารมณ์ดีอ่ะ อย่าคิดมากนะ”
“อื้อ ไม่ได้คิดมากหรอก แค่อยากรู้ว่าผู้ชายที่รวยมากๆ เขาจะรักผู้หญิงที่ฐานะด้อยกว่ามากๆ จริงรึเปล่า เพราะที่เคยเจอมาไม่เห็นมีเลย ไม่รักเลยแม้แต่ลูกของตัวเอง...” ฉันพูดจบก็โผกอดคะนิ้งอีกรอบบ ครั้งนี้มีแค่น้ำตาที่ไหลออกมาเงียบๆ คะนิ้งเองก็เงียบไปเหมือนกัน มีแค่มือของเพื่อนรักที่ลูบหลังปลอบฉันอยู่ตลอดเวลา
ฉันชื่อเจ้าขาค่ะ เรียนอยู่ปี 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐบาล ส่วนชีวิตของฉันถ้าจะให้เล่าก็คงต้องบอกว่ามันน้ำเน่าเหลือเกิน ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวฐานะกลางๆ ค่อนไปทางยากจน ไม่สิเรียกได้ว่ายากจนเลยก็ได้ ฉันอยู่กับแม่สองคน ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยรู้จักญาติพี่น้อง ไม่เคยรู้จักแม้แต่พ่อหรือชื่อของท่านเลยด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าพ่อเป็นคนที่รวยมาก เป็นคนชื่อดังในสังคมไฮโซแตกต่างจากแม่ที่เป็นแค่พนักงานในบริษัทเล็กๆ
พ่อตามจีบแม่มาเป็นปีจนแม่ยอมคบเป็นแฟน แล้วก็พลาดมีฉันขึ้นมา แต่แม่ก็มารู้ความจริงว่าพ่อมีผู้หญิงอีกหลายคนไม่ได้มีแค่แม่คนเดียว ผู้หญิงทุกคนของพ่อสวยพอๆ กับแม่ ฐานะดีบ้างไม่ดีบ้างแต่นั่นไม่ได้สำคัญสำหรับพ่อ เพราะท่านพอใจแค่รูปร่างหน้าตาของผู้หญิงที่ท่านควงทุกคน ท่านสนใจแค่นั้นจริงๆ
แม่ตัดสินใจบอกเรื่องท้องเพราะแม่หวังว่าพ่อจะยอมเลิกรากับทุกคนแล้วหันมารับผิดชอบแม่กับฉัน สร้างครอบครัวไปพร้อมกับแม่ แต่สิ่งที่ได้รับคือเงินก้อนใหญ่เป็นค่าทำแท้งแล้วก็ค่าทำขวัญ แค่นั้นจริงๆ ก่อนที่พ่อจะหายไปจากชีวิตของแม่ แต่หายไปแค่อาทิตย์เดียวแม่ก็เห็นข่าวบันเทิงว่าพ่อตามจีบดาราชื่อดังขอยุคนั้น ตามจีบแล้วก็แสดงความรักจนคนอิจฉากันไปทั่ว พ่อไม่เคยมาหาแม่อีกเลยมีแค่ให้คนของท่านมาหาแม่แล้วก็ถามว่าจัดการเด็กในท้องเรียบร้อยรึยังเพราะท่านไม่อยากให้มีปัญหาทีหลัง แม่ถึงต้องหอบท้องพาฉันหนีไปอยู่ต่างจังหวัดเพราะกลัวท่านรู้ว่าฉันยังไม่ตาย แม่กลัวพ่อตามมาสั่งให้แม่ฆ่าลูกตัวเองอีกครั้ง!
นี่ล่ะค่ะคือที่มาของคำถามที่ฉันถามคะนิ้ง ฉันไม่ได้ดูถูกหัวใจคนรวย ฉันไม่ได้เกลียดพวกเขา คนเราอาจจะไม่ได้นิสัยเหมือนกันทุกคน แต่บังเอิญว่าฉันดันได้รับประสบการณ์ตรงจากคนรวยที่เป็นผู้ให้กำเนิดฉัน คนรวยน่ะเขามีรักจริงอยู่แล้วล่ะค่ะ คนเราเกิดมาไม่ว่าจะรวยหรือจนก็ต้องมีความรักให้ใครสักคน และก็คงมีอยู่แล้วคนที่ได้เป็นเหมือนซินเดอเรลล่าที่ได้แต่งงานกับเจ้าชายอย่างที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน
แต่สำหรับฉันคงไม่ขอยุ่งเกี่ยว ไม่ขอรอความรักจากเจ้าชายเหมือนในนิยายที่ไม่รู้ว่าต้องพยายามแค่ไหนถึงจะได้พบเจ้าชายตัวจริง ไม่ขอเอาตัวเองไปเสี่ยงเพื่อให้ใครเหยียบย่ำแล้วก็ใช้แค่เศษเงินฟาดหัวเพื่อให้กำจัดก้อนเลือดหนึ่งก้อนที่กำลังจะมีชีวิต ต่อให้เงินก้อนนั้นมันจะมากมายจนฉันมั่นใจว่าทั้งชีวิตก็ไม่มีทางหาได้ก็ตามเถอะ แต่คนๆ หนึ่งที่กำลังจะเกิดมาจากความต้องการที่มักมากของเขาก็ไม่ควรต้องมาตายไม่ใช่เหรอคะ เงินมากมายเท่าไหร่มันก็ใช้ซื้อหรือกำจัดชีวิตใครไม่ได้ไม่ใช่รึไง!
...มันมีอยู่แล้วล่ะค่ะผู้ชายฐานะเพียบพร้อมที่เข้ามาจีบฉัน มีเยอะเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันไม่กล้าเอาตัวเองที่ต่ำต้อยไปรักหรือสนิทกับคนที่มีพร้อมทั้งที่รู้ดีว่าไม่มีอะไรที่คู่ควร ฉันกลัว...กลัวจะเป็นเหมือนแม่ กลัวจะมีคนที่เกิดมาโชคร้ายเหมือนฉันอีกคน!