ตอนที่ 3 ความซวย
ตอนที่ 3 ความซวย
@ร้านชาบู
“สมายด์ทางนี้”
เสียงกลุ่มเพื่อนโบกไม้โบกมือเรียกสมายด์ที่เพิ่งรถจากวินมอเตอร์ไซด์ หลังจากที่เธอเรียกวินให้มาส่งที่ร้านชาบูหน้ามอ. แต่กระนั้นทันทีที่มาถึงจนเจอกลุ่มเพื่อนเธอก็ยังไม่เลิกสั่น หัวใจดวงเล็กยังเต้นโครมครามจนต้องเอามือมากุมไว้ที่อก
-นี่ถ้าคนเป็นโรคหัวใจนะได้ช็อคตายไปตั้งแต่ตอนอยู่ในห้องน้ำไปแล้ว-
“ทำไมแกมาช้านักวะสมายด์ โทรไปก็ไม่รับ จะกดตัดสายเพื่อ…”
“ฉะ ฉัน คือ ฉัน”
เพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งเจอมาแบบสด ๆ ร้อน ๆ ร้อนชนิดร้อนฉ่าที่เจอมา ทำให้สมองของสมายด์ยังประมวลผลไม่ถูก และไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าตัวเองควรจะเล่าอะไรให้เพื่อนฟังก่อนดี ระหว่างเรื่องคนมีอะไรกันในห้องน้ำ หรือ เรื่องที่โดนผู้ชายคนนั้นหมายหัวไปแล้ว
แต่ก่อนที่สมายด์จะพูดอะไรต่อ สองมือก็ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายผ้าของเธอจนทั่ว
“เชี่ยละ” สมายด์หน้าตื่น
“อะไรของแก”
“โทรศัพท์ล่ะ โทรศัพท์ฉันล่ะ พวกแกเห็นโทรศัพท์ฉันไหม”
“บ้าเปล่าเนี่ย แกมาถามหาโทรศัพท์กับพวกฉัน ทั้งที่แกเพิ่งมาถึงอะนะ”
“งานเข้าแน่…” สมายด์พึมพำหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เพราะเพิ่งจะนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองกำเอาไว้ในมือตอนที่อยู่ในห้องน้ำ และถ้าให้เดามันก็คงหล่นไปตอนนั้น
-แง ไอโฟน 14 promax ที่แม่เพิ่งซื้อให้เอาเมื่อวันเกิด อย่าบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนเก็บได้ไปนะ-
“มานี่ฉันลองโทรให้เผื่อมีคนเก็บโทรศัพท์ของแกได้”
“ยะ อย่า…” สมายด์ร้องห้าม เรื่องอะไรจะให้โทรหาคนที่เธอเพิ่งจะวิ่งหนีมา แต่ก็นะ…ไม่ทันแล้ว สิ้นเสียงของร้องห้ามของสมายด์ มิยาเพื่อนรักก็กดเบอร์ไปที่มือถือของสมายด์ทันที
“เห้ยแก ติดด้วยว่ะ รับแล้วด้วย เงียบก่อน” มิยาทำปากจุ๊ให้สมายด์เงียบเสียง ช่างไม่ได้สังเกตสีหน้าของสมายด์เลยว่า ตอนนี้เธอกำลังทำสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ก็ไม่ปาน
“สวัสดีค่า คุณเป็นคนที่เก็บโทรศัพท์ของเพื่อนฉันได้ใช่ไหมคะ”
(อือฮึ ใช่)
“อ่อโชคดีจัง คืองี้คะ คุณช่วยเอาโทรศัพท์มาคืนเพื่อนของฉันได้ไหมคะ”
(ได้สิ ผมกำลังตามตัวอยู่พอดี พวกคุณอยู่ไหนล่ะ)
“ตอนนี้พวกเราอยู่ที่หน้าร้านชาบูหน้ามอ.”
(เค งั้นห้านาทีเจอกัน ผมขับรถมาจะถึงหน้ามอ. พอดี)
“อะเคค้า เดี๋ยวเพื่อนฉันเลี้ยงชาบูเป็นการตอบแทน เจอกันนะคะ”
มิยากดตัดสาย ก่อนจะหันมายิ้มให้สมายด์ แต่เหมือนสีหน้าของเพื่อนรักจะไม่ได้ดีใจไปด้วยกับการได้คืนโทรศัพท์
“มิยานี่แกบอกให้ผู้ชายคนนั้น มาหาฉันที่นี่เหรอ ละ แล้วแกจะให้ฉันเลี้ยงชาบูหมอนั่นเนี่ยอะนะ”
“เอ้า ไม่ให้บอกมานี่จะไปเอาโทรศัพท์คืนที่ไหน หรือแกไม่อยากได้โทรศัพท์คืน เครื่องหนึ่งตั้งสี่ซ้าห้าหมื่น เขายอมเอามาคืนก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“แต่แก…คือ…” คือ คืออะไรดีล่ะ จะให้สมายด์พูดอะไรออกไปได้ในเมื่อน้ำมันท่วมปากขนาดนี้