ตอนที่ 3
แสงจันทร์นวลใยในคืนข้างขึ้นสาดกระทบลอนคลื่น ดวงไฟของเรือประมงหาปลาหลายลำลอยล่องส่องแสงเรืองไสวอยู่ไกลๆ ดูราวกับเหล่าหิ่งห้อย ส่องประกายระยิบระยับเหนือลอนคลื่นกระเพื่อมพลิ้ว กลิ่นไอทะเลโชยมากระทบจมูก
‘เหงา... ’
ความรู้สึกในใจฟ้องว่าอย่างนั้น ลีนาเอื้อมมือคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาว สวมคลุมลาดไหล่สล้างที่มีเพียงสายบางๆ ของชุดนอนเกี่ยวเอาไว้ ในยามสายลมสาดเข้ามาปะทะเรือนกาย ชุดนอนพลิ้วบางแนบเน้นสรีระสาว เห็นทรวงอกอวบใหญ่ อวดสองเต้าตึงเต่งอะร้าอร่าม รับกับเอวคอดส่งมาถึงสะโพกผาย รัดรึดตึงเต็มอยู่ในชุดนอนบางแนบเนื้อ
ตามกำหนดการ ลีนาจะต้องพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ห้าวันแล้วเดินทางกลับเมื่อเปิดเทอม
“น่าเบื่อที่สุด... ปิดเทอมทีไรเป็นแบบนี้ทุกที”
มันคงเป็นห้าวันที่น่าเบื่อหน่ายที่สุด สาวน้อยที่ชินกับการใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในเมืองใหญ่ตั้งแต่เรียนประถมจนถึงมหาวิทยาลัย บ่นรำพึงไปกับสายลมและเสียงคลื่น เพราะว่าทุกครั้งที่ปิดเทอม เสี่ยชัชผู้เป็นบิดาก็สั่งให้หล่อนเดินทางกลับมาอยู่บ้านพักตากอากาศริมทะเล ปลูกสร้างอยู่บนเนื้อที่หลายสิบไร่ ใกล้ชายหาดสามร้อยยอดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จากชั้นสองของบ้าน ลีนากวาดสายตาแลสำรวจไปรอบๆ อาณาบริเวณบ้าน นานแล้วที่หล่อนไม่ได้กลับมาเยือน
สภาพแวดล้อมโดยรวมของบ้านยังคงเหมือนเดิม ที่แปลกตาออกไปก็คือแสงไฟที่สาดลอดออกมาจากกระท่อมหลังน้อยท้ายสวน ใกล้กับไร่สัปปะรด ทอดยาวไปถึงชายเขาด้านหลัง เป็นไร่ที่เสี่ยชัชบิดาของหล่อนกว้านซื้อที่ดินมาจากชาวบ้านละแวกนี้
“คุณหนูคะ... ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงแหลมของป้าฉวี แม่บ้านและแม่ครัวที่อยู่ทำงานรับใช้ในบ้านหลังนี้มานานหลายปี
“มีอะไรคะป้า... ”
บานประตูถูกผลักออกมา เสียงใสเอ่ยถามสตรีผู้สูงวัยกว่า
“ป้าเห็นไฟในห้องนอนคุณหนูเปิดอยู่... ก็เลยชงโอวัลตินมาให้ค่ะ”
ป้าฉวีก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับแก้วโอวัลตินในมือ วางลงบนโต๊ะทำงานเล็กๆ ที่มุมห้อง เป็นโต๊ะที่ลีนาใช้นั่งทำงานและอ่านหนังสือ
“ขอบคุณค่ะป้า”
ลีนายิ้มขอบคุณป้าฉวี
“ป้าคะ... กระท่อมที่เห็นอยู่ไกลๆ โน่นใครอยู่คะ”
ลีนาชี้มือไปยังแสงไฟดวงเทียนสีเหลืองนวล สาดลอดออกมาจากกระท่อมท้ายบ้าน ติดกับไร่สัปปะรด
“อ๋อ... กระท่อมลุงเข้ม”
ป้าฉวีตอบ
“ลุงเข้มเป็นใครคะ”
ลีนาซักต่อด้วยความสงสัย เพราะว่าเมื่อปีก่อนที่หล่อนมาเยือนบ้านหลังนี้ในช่วงปิดเทอม ก็ไม่เห็นว่ามีกระท่อมหลังนี้ ‘ลุงเข้ม’ ที่ป้าฉวีเอ่ยถึงเป็นใครกันนะ?
“ลุงเข้มมีชื่อจริงว่า ‘เขมฤทธิ์’ เมื่อก่อนคนในบ้านก็เรียกว่า ‘ลุงเขม’ แต่หลังๆ ไม่รู้ว่าเพี้ยนมาเป็นลุงเข้มได้ยังไง
ป้าฉวีตอบขำๆ เล่าถึงที่มาของเขมฤทธิ์ คนสวนที่อาศัยอยู่ในกระท่อมด้านหลัง
“แล้วลุงเข้มคนนี้เข้มสมชื่อไหมคะ”
ลีนายังสงสัย หล่อนนึกวาดภาพคนที่ป้าฉวีเอ่ยถึง
“เข้มจ้ะ... เข้มมากด้วย”
ไม่ทันได้เล่าเรื่องลุงเข้มมากไปกว่านี้ เสียงแตรและแสงไฟหน้ารถที่สาดเข้ามาปะทะประตูรั้วอัลลอยด์หน้าบ้านทำให้ป้าฉวีต้องรีบขอตัวออกมาจากห้อง เสี่ยชัชนายใหญ่ของบ้านกลับมาแล้ว
วันที่ 2 เดือนมกราคม พุทธศักราช 2561
เช้าตรู่ ที่ศาลาไม้ริมสระน้ำ ใกล้บึงบัวสาย อวดดอกหลากสีสัน เบ่งบานตระการตาอยู่ในบ่อน้ำโอบล้อมศาลาไม้ไว้ตรงกลาง บนเตียงยาวมีร่างเอิบอิ่มของลีนานั่งพิงหมอน อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเอนกาย ถือหนังสือนิยายอีโรติกไว้ในมือ อ่านไปเขินไป บางทีก็เผลออายม้วน ปลายเท้าทั้งสองข้างจิกเกร็งถีบถูผืนเสื่อยับยู่ วารีดำเนินไปกับเรื่องราวรักใคร่สุดเร่าร้อนระทึกอารมณ์ในหนังสือนิยายที่ตัวเองกำลังเปิดอ่าน
ขณะที่กำลังอ่านนิยายเพลินๆ จู่ๆ เสียงดังอันเกิดจากปลายเสียมกระทบดินของคนตัวใหญ่ที่เดินเข้ามานั่งยองๆ ขุดดินอยู่ไม่ไกลก็แว่วเข้ามาในหู
ลีนาลดหนังสือลง สายตาเหลือบมองไปตามทิศทางที่มาของเสียง และพลันนั้นเอง ภาพเรือนกายกำยำไปด้วยมัดกล้ามของผู้ชายตัวใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในคลองสายตา