ตอนที่ 2
เพื่อนแม่เกือบทุกคนที่รวยกันได้นี่ก็เพราะขายยาเสพติดกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ เปิดบ่อนการพนันก็มี แต่แม่ก็ไม่เห็นจะรังเกียจพวกเขาเลย
อ๋อ...ลืมไปว่ารวย ขอแค่รวยอะไรๆ มันก็ดีไปหมด
“แต่ไอซ์คือเพื่อนโซ” เพื่อน ยังไงก็ต้องปกป้องเพื่อนกันเป็นธรรมดา ฉันไม่ผิดนะที่เถียงแม่ออกไปแบบนั้น และดูจากสีหน้าของท่านแล้ว แม่เองก็เริ่มไม่พอใจฉันแล้วล่ะ ท่านเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ดวงตาของแม่มองจ้องฉันเขม็งจนฉันรู้สึกเกร็งและหวาดกลัวไปหมด
“หึ! เพื่อนเหรอ ฉันนึกว่าแกเป็นเมียของมันแล้วซะอีก เห็นตัวติดกันตลอด เสนอหน้าไปหามันที่บ้านเลยไม่ใช่หรือไง” ใครจะคิด ว่าแม่แท้ๆ จะดูถูกลูกตัวเองได้ถึงเพียงนี้ แม่คนอื่นอาจจะไม่ทำ แต่สำหรับแม่ฉันแล้ว...แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ เรื่องพูดจาตอกย้ำและซ้ำเติม ต้องยกให้แม่ฉันเป็นที่หนึ่งเลยล่ะ
“แม่จะดูถูกโซมากเกินไปแล้วนะคะ! ไม่มีใครคิดอะไรได้แบบแม่หรอก!!” ฉันพูดขึ้นเสียงอย่างหงุดหงิด อารมณ์โทสะเริ่มปะทุออกมาทีละนิด จะบาปหรือเปล่าไม่รู้ แต่ฉันก็ไม่ชอบหรอกนะถ้าแม่จะดูถูกฉันได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่ความเชื่อใจแม่ยังไม่มีให้ฉันเลย
นี่ฉันยังเป็นลูกแม่อยู่หรือเปล่า
เพียะ!!
“แกกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ นังลูกสารเลว!!” ฝ่ามือของแม่ฟาดลงมากระทบที่ข้างแก้มของฉันอย่างแรง ความเจ็บแปล๊บแล่นไปทั่วใบหน้าจนน้ำตาคลอ ฉันยกมือขึ้นลูบแก้มของตัวเองเบาๆ แล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับแม่อีกครั้ง
“นิสัยโซก็เหมือนแม่นั่นแหละค่ะ แต่แม่น่าจะหนักกว่า เห็นเงินดีกว่าทุกอย่างแบบนี้ระวังจะถูกคนพวกนั้นแทงข้างหลังเข้านะคะ ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะค่ะไม่ต้องมาเป็นห่วงโซ เรื่องของโซ โซจัดการเองได้ แม่อย่ามายุ่งเลยดีกว่า”
“นี่แก!!” แม่ตะคอกออกมาเสียงดังลั่น ท่านทำท่าจะพุ่งตัวเข้าหาฉันอีกครั้ง มือของแม่ที่ง้างขึ้นกลางอากาศมันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บโดยที่ฝ่ามือนั้นยังไม่ทันได้ทำอะไร
เจ็บกายไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บใจนี่สิหนักกว่า
“แค่โซพูดแค่นี้แม่ยังรับไม่ได้เลย ถ้างั้นแม่ก็ช่วยเอากลับไปคิดด้วยนะคะ ว่าคำพูดของแม่มันก็ทำให้โซรับไม่ได้เหมือนกัน” ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง และขยับถอยห่างออกมาจากแม่ ร่างบางของท่านกำลังสั่นได้ที่เลยล่ะ ฉันรู้ตัวว่ากำลังทำให้แม่โกรธ แต่ถ้าหากฉันไม่พูดอะไรออกมาแล้วแม่จะเข้าใจฉันได้ยังไง
“ถ้าด่าจนพอใจแล้ว งั้นโซขึ้นไปบนห้องก่อนนะคะ”
ฉันชิ่งหนีออกมาจากตรงนั้น ขืนอยู่ต่อมีหวังพรุ่งนี้ฉันได้หน้าบวมไปเรียนแน่
“ระวังจะท้องไม่มีพ่อละกัน!!” ฉันทำเป็นไม่สนใจเสียงแม่ที่ตะโกนไล่หลังมา
แกร๊ก!
เมื่อเดินมาถึงชั้นบนฉันก็เปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วล็อกมันเอาไว้ สองขาก้าวเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง แล้วก้มฟุบหน้าลงกับฝ่ามือ ฉันรู้สึกถึงหยดน้ำตาร้อนๆ ที่มันเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของฉัน
“ฮึก...” เสียงสะอื้นที่ดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่กำลังขบเม้ม ทำให้ฉันรู้ว่าในเวลานี้ตัวเองกำลังอ่อนแอถึงขีดสุด
ฉันไม่ใช่คนที่จะร้องไห้กับอะไรง่ายๆ เรียกได้ว่าเป็นคนที่เข้มแข็งในระดับหนึ่ง แต่ก็เป็นเพราะแม่ของฉันเองนี่แหละที่ทำให้กำแพงความเข้มแข็งของฉันมันพังทลายลง
ฉันเงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำและยืนมองกระจกที่สะท้อนเงาของผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง
ซึ่งก็คือฉันเอง...
ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเอง ทำไมชีวิตของฉันมันถึงได้บัดซบได้ขนาดนี้ อยากจะออกจากบ้านไปให้พ้นๆ ไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว แต่...ฉันก็ไปไม่ได้
ต่อให้หนีไปไกลแค่ไหนยังไงแม่ก็ตามฉันเจออยู่ดี เพราะฉันเคยทำมันมาแล้ว แม่รู้จักผู้คนมากมาย ท่านก็คงจะวานให้พวกนั้นช่วยตามหาฉันอีกแรง
ที่ตามหาฉัน นี่ก็ใช่ว่าจะเป็นห่วง ท่านตามเพราะอยากจะนำตัวฉันมาตบตีสั่งสอนมากกว่า และวันนั้นฉันก็โดนไปชุดใหญ่เลยล่ะ
“เธอต้องเข้มแข็งนะโซดา ไม่มีใครที่จะปกป้องเธอได้นอกจากตัวเธอเอง” ฉันยืนพูดอยู่หน้ากระจก พลางมองจ้องสบตากับตัวเอง ถึงแม้ว่าจะพูดปลุกใจตัวเองขนาดนี้ แต่ในแววตาคู่นั้นของฉันมันก็ยังคงสั่นไหว
ประโยคนี้ฉันมักจะพูดบอกตัวเองทุกครั้ง พูดออกมาซ้ำๆ ในวันที่ตัวเองรู้สึกแย่แทบทนไม่ไหว
ซ่า...
ฉันเอื้อมมือไปเปิดก๊อกน้ำ แล้วโน้มหน้าลงไปชำระล้างคราบน้ำตาของตัวเองที่เปรอะเปื้อนบนใบหน้า พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีภาพเงาสะท้อนในตอนนี้มันก็ยังดูดีขึ้นมาหน่อย
เมื่อจัดการกับสภาพตัวเองให้กลับมาดูเป็นคนอีกครั้งฉันก็เดินออกจากห้องน้ำ แล้วมาล้มตัวนอนบนเตียง แค่หลับตาทุกอย่างมันก็รู้สึกดีขึ้น แต่พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งอะไรแย่ๆ มันก็หวนกลับเข้ามา
ถ้าเป็นแบบนี้ฉันควรจะระบายให้ใครฟังหรือเปล่า บางทีถ้าได้เล่าให้ใครสักคนฟังฉันอาจจะรู้สึกโล่งมากกว่านี้
คนที่ฉันต้องการมากที่สุดในเวลานี้ก็ไม่พ้นไอซ์เหมือนเดิม
ฉันลุกขึ้นจากเตียงแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือพร้อมกระเป๋าตังค์ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง
ขณะที่เดินลงบันไดมาภายในบ้านก็ยังคงเงียบกริบ ซึ่งมันก็ดีแล้วล่ะที่ไม่บังเอิญเจอกับแม่เข้า ไม่อย่างนั้นเราสองคนคงได้ทะเลาะกันอีกรอบแน่ และฉันอาจจะกลายเป็นบ้าไปเลยก็ได้
แค่นี้ฉันก็ปวดประสาทจะแย่อยู่แล้ว
