ปลอมรัก บทที่ 4 : คุณสมบัติว่าที่คู่หมั้น 2/2
(ควีนนาเดีย)
หลายวันต่อมา
ภายในห้องปิดทึบ และทำทุกอย่างให้เป็นความลับ หญิงสาวผู้มีอำนาจการตัดสินใจสูงสุด กำลังสนใจไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ตรงหน้า หูก็คอยฟังผู้ดูแลบอกเล่าถึงประวัติของหญิงสาว ทายาทคนใหญ่คนโตมากมายในประเทศ แต่ไม่ว่าจะกี่คนก็ไม่มีใครถูกใจสักคน
เพราะผู้เป็นแม่ย่อมรู้ดีกว่าใครว่าลูกชายต้องการอะไร แล้วยิ่งอีวานถึงจะดูเป็นผู้ชายใจดีกว่าน้อง แต่ความจริงสองพี่น้องไม่ได้ต่างกันสักเท่าไร การที่จะหาผู้หญิงที่เหมาะสม และทนแรงกดดันได้เป็นอย่างดีเข้ามามันก็ยากพอสมควร
อำนาจของตำแหน่งสูงสุดภายในประเทศนี้ มันหอมหวานซะจนแปรเปลี่ยนมาเป็นความอันตรายต่อประชาชนถ้าหากเธอมองพลาด ส่วนคนที่เหมาะสมและถูกใจที่สุด ก็ออกไปจากประเทศเมื่อ 6 ปีก่อน
คาริสม่าเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อีวานคบ และเปิดเผยต่อประชาชนว่าคือคนรัก น่าเสียดายที่คนที่เหมาะสม และคิดว่ารับมือกับลูกชายของเธอได้ดีที่สุดไม่สามารถเข้ามาอยู่ในลิสต์รายชื่อได้ เพราะทุกคนคงไม่มีใครกล้าเอาประวัติของเธอเข้ามา
ตัวเองจะระบุออกไปชัดเจนก็ดูจะไม่เหมาะสม ตอนนี้ก็ทำได้เพียงมองภาพหญิงสาวบนจอด้วยสีหน้าเรียบเฉย ภายในใจภาวนาต่อสิ่งรอบตัวว่า ถ้าเธอปรากฏขึ้นบนจอจะเลือกเด็กคนนั้นอย่างไม่ลังเล
“คนต่อไป” สิ้นเสียงคำสั่งของผู้เป็นควีน ภาพสไลด์บนหน้าจอก็ถูกฉายเป็นใบหน้าหญิงคุ้นตา ผู้หญิงที่เป็นถึงอดีตคนรักเพียงคนเดียวของลูกชายคนโต
“เอริก้า ทริกซี่ค่ะ บุตรสาวคนโตตระกูลทริกซี่ อายุยี่สิบเก้าปี การศึกษะ!”
“หยุด” ทุกอย่างภายในห้องหยุดนิ่ง
“....” ทุกสายตาหันมามองที่ควีน
“ใครเอาประวัติของเธอใส่เข้ามา” คำถามที่ทำให้ทุกคนต่างหันมองหน้ากัน
“ทีมตรวจสอบมีทั้งหมดสิบคนค่ะ อาจจะมีใครบางคนที่ไม่รู้ว่าไม่ควรนำชื่อเธอเข้ามา ดิฉันขอประทานอภัยค่ะควีนที่ไม่ตรวจสอบให้ดี” หัวหน้าผู้ดูแลในเรื่องนี้พูดด้วยน้ำเสียงสั่น เพราะเธอไม่ได้ตรวจสอบก่อนอย่างที่พูดจริง ๆ
“แจ้งไปที่ตระกูลทริกซี่ ลูกสาวคนโตจะต้องเป็นพระคู่หมั้นเจ้าชายอีวาน” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทันที เหมือนกับว่าพระเจ้าอวยพรให้แก่เธอได้คนที่ต้องการเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ตามพรที่ขอ
“ค่ะควีน!”
ทุกคนรีบรับคำสั่งทันที เพราะตั้งแต่คนแรกจนผ่านมาเกือบห้าสิบคน ไม่มีใครทำให้ควีนตัดสินใจได้รวดเร็วขนาดนี้ และเมื่อเธอให้แจ้งไปที่ตระกูล นั่นก็หมายความว่าได้ผู้หญิงที่เหมาะสมแล้ว
(เจ้าชายอีวาน)
“มาดามเมย์เลอร์ส่งคำกล่าวขอบคุณแก่เจ้าชายอีวานครับ เนื่องจากการประมูลสัมปทานขุดเจาะน้ำมันเป็นของเธอครับ” บาเอล หัวหน้าทีมผู้ดูแลประจำตัวรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น มาดามเมย์เลอร์ คือแม่ของคาริสม่า
ตั้งแต่ที่คาริสม่าบอกเลิกแล้วหนีไป เขาก็ไม่เคยขาดการติดต่อ และยังให้การช่วยเหลือตระกูลทริกซี่มาตลอด บ่อยครั้งชื่อของเขาถูกเอ่ยขึ้นในฐานะของผู้ถือหุ้นในธุรกิจของตระกูล
ตลอดเวลา 6 ปีที่ผ่าน เขายังคงติดต่อครอบครัวเธอเสมอ มันเหมือนกับการชื้อใจ อาจจะรู้สึกว่ากำลังถูกเอาชื่อไปแอบอ้าง และใช้หาผลประโยชน์ แต่ความจริงก็ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่แรก
ทุกการช่วยเหลือ ย่อมมีราคาค่าตอบแทน และสิ่งมีค่าเดียวที่เขาต้องการจากตระกูลทริกซี่ก็คือ ลูกสาวคนโต
“อือ” เสียงตอบกลับสั้น ๆ ในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังการแสดงของกลุ่มเด็กตรงหน้า ริมฝีปากยกยิ้มบาง ปรบมือหลังเสร็จสิ้นการแสดง
งานประจำปีของเมืองอาร์เมีย เมืองทางการเกษตรและธรรมชาติที่มีต้นไม้หายาก และอายุกว่าร้อยปียังถูกรักษาดูแลเอาไว้อย่างดีอยู่ที่นี่ งานเปิดเทศกาลประจำปีจะถูกจัดขึ้น ซึ่งปีนี้คิดว่าจะเป็นปีสุดท้ายที่เขาจะได้มาเพียงลำพัง
รัชทายาทลำดับที่หนึ่งแห่งจักรวรรดิ กำลังเดินตามหลังเด็กสาวผู้รับหน้าที่ดูแลเขาในวันนี้ เธออธิบายถึงประวัติของงานและเมืองนี้ได้อย่างดี จนกระทั่งเรามาหยุดยืนหน้าต้นไม้ต้นหนึ่ง
“นี่เป็นกุหลาบพันปีหรือเรียกอีกชื่อว่าอาซาเลีย ต้นไม้ที่ถูกกล่าวขานว่าสวยที่สุดในโลกค่ะเจ้าชาย มีอายุกว่าสามร้อยปี” เด็กสาวผายมือไปยังต้นไม้ตรงหน้า
กุหลาบพันปีตรงหน้าเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ดอกของมันมีหลากหลายสีในต้นเดียว ถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้ขนาดกลาง ที่ป้องกันไม่ให้คนเข้าไปรุกล้ำ หรือทำลายความงามของมัน
“สวยมากครับ” เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้เห็นกุหลาบ บุคคลเดียวที่จะคิดถึงมาตลอดก็คือ...แฟนคนเดียวของเขา
“หนูเตรียมเอาไว้สำหรับเจ้าชายค่ะ” ป้ายไม้ขนาดเล็กถูกยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับปากกา
“เอาไว้ทำอะไรเหรอครับ”
“ตำนานกล่าวเอาไว้ว่าเคยมีเจ้าชายกับหญิงสามัญชนคู่หนึ่งต้องแยกจากกัน และไม่สมหวังในความรักค่ะ ทั้งคู่เสียใจอย่างมากและหนีออกจากวัง เจ้าชายถูกไล่ตามและมาแอบที่ใต้ต้นกุหลาบพันปีต้นนี้”
“....” เขาตั้งใจฟังเรื่องเล่าของเด็กสาวตรงหน้า
“พระองค์ขอพรแด่พระเจ้าค่ะ ขอให้หลุดพ้นจากการถูกไล่ตาม และเมื่อกลุ่มคนของพระราชวังมาถึง พวกเขาวิ่งผ่านไปเหมือนกับว่าไม่เห็นเจ้าชายและต้นกุหลาบพันปีต้นนี้ค่ะ”
“....”
“เมื่อเห็นว่าพรที่ขอนั้นสมหวัง พระองค์จึงใช้หินเขียนลงบนดินต่อหน้าต้นกุหลาบพันปี พรที่ขอนั้นก็คือ...ขอให้สมหวังในความรักค่ะ”
“แล้วสมหวังมั้ย” เขาถามออกไปด้วยความอยากรู้ ทำเด็กสาวยิ้มกว้างเมื่อเห็นอีกฝ่ายสนใจสิ่งที่เธอเล่า
“หญิงสาวคนรักเดินร้องไห้ออกมาจากในป่า และทั้งคู่ก็ได้พบกันในรอบหลายเดือนค่ะ พวกเขาหนีไปด้วยกัน ใช้ชีวิตครองคู่ในฐานะของสามีภรรยา”
“....” เขาหันไปมองยังต้นไม้สีสวยตรงหน้า สายลมพัดผ่านทำให้กิ่งของมันพลิ้วไหวตามแรงลม
“แต่ว่าอดีตจนถึงปัจจุบัน ยังไม่อนุญาตให้ใคร เข้าไปขอพรลงกับดินของต้นกุหลาบพันปีได้ค่ะ เจ้าชายเป็นคนแรกและคนเดียวที่จะได้ขอพรกับดินของต้นกุหลาบพันปี เขียนลงบนป้ายไม้สิคะ” เด็กสาวชี้ไปที่ป้ายไม้ในมือของเขา
“เป็นเกียรติมากครับ” เขาส่งยิ้มให้เธอ แล้วดึงปลอกปากกาออก ก่อนจะจรดปากกาเขียนคำขอพรลงไป สิ่งที่เขียนจะมีแค่เขาเท่านั้นที่ได้รับรู้
“เสร็จแล้วเจ้าชายต้องเอาไปปักลงบนดิน ใต้ต้นกุหลาบพันปีค่ะ” เธอชี้ไปที่ดินใต้ต้นไม้ ต้องข้ามรั้วสูงเข้าไปยังข้างในนั้น
“เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ” บาเอลเสนอตัวที่จะเอาป้ายไปปักลงบนดินให้เขา
“ไม่ต้อง” อีวานเดินไปทางต้นไม้ ขายาวก้าวข้ามรั้วได้อย่างง่ายดาย เขาเงยหน้ามองต้นไม้ต้องหน้า กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาให้ได้รับรู้พร้อมกับลมเย็นที่พัดผ่าน
ฉึบ!
ป้ายไม้ในมือถูกปักลงบนพื้นดิน และเขาก็เดินออกมาทันที คำขอพรที่เขียนลงไปจะมีเพียงเขาและต้นกุหลาบพันปีเท่านั้นที่ได้รับรู้
‘ขอให้เราวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ขอให้คาริสม่าอยู่กับเขาตลอดไป’
(คาริสม่า)
(กลับมาที่จักรวรรดิหน่อยสิลูกสาวของแม่) เสียงผู้เป็นแม่ดังมาจากโทรศัพท์ ทำให้ฉันถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“เกิดอะไรขึ้นกับแม่ พูดอะไรแบบนี้กับหนูเป็นด้วย” ตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่เคยได้รับคำเรียกแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
(ก็แม่คิดถึงลูกสาว พ่อก็คิดถึง ทุกคนคิดถึงลูก)
“....” ยิ่งแม่พูดแบบนี้ ยิ่งทำให้ฉันสงสัย
(เจ้าชายก็คิด...)
“แค่นี้นะคะแม่ ติ้ด!” นิ้วเรียวกดวางสายทันที โดยที่แม่ยังพูดไม่ทันจบ ฉันอยู่ได้โดยไม่ต้องการเขามานานแล้ว
(เจ้าชายอีวาน)
“ว่าที่คู่หมั้นของเจ้าชายอีวานคือบุตรสาวคนโตของตระกูลทริกซี่ เอริก้า ทริกซี่ หรือที่เรารู้จักกันก็...คาริสม่า” ควีนนาเดียพูดขึ้นกลางห้องอาหาร ทำทุกคนหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว คนถูกประกาศคู่หมั้นนั่งนิ่งไม่แสดงสีหน้าใดออกมา
“ไม่แสดงสีหน้าดีใจหน่อยหรือไง” ราฟาเอียงตัวมากระซิบถาม
“จำเป็นหรือไง” พูดจบก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์ยกขึ้นดื่ม
“อีวานมีอะไรจะปฏิเสธมั้ย” ท่านปู่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามถามขึ้นพร้อมกับสายตาอันแหลมคมมองมาที่เขา
“ไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้วครับ” ไม่ใช่ไม่มีสิทธิ์ แต่เลือกมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก
เขารู้ดีว่าถ้าคาริสม่าเข้าไปอยู่ในตัวเลือก ต่อให้จะมีผู้หญิงสิบคนที่ถูกเลือกเอาไว้แล้ว แม่ก็สามารถทิ้งทั้งหมดแล้วเลือกเธอ เพราะคาริสม่าคือเด็กสาวที่แม่รักและเอ็นดูมาตลอด
“แบบนี้...ก็ไม่ต้องทำความรู้จักกันให้เหนื่อยแล้วสินะ ก็คนคุ้นเคยกันอยู่ จริงมั้ยเจ้าชายอีวาน” แม่ที่ดูจะอารมณ์ดีมากจากปกติ เอียงหน้าถามเขาพร้อมกับส่งยิ้มกว้าง
“ลืมไปหมดแล้วครับ ไม่ได้คุ้นเคยอะไร” ส้อมแหลมจิ้มลงบนเนื้อก่อนจะนำมันเข้าปาก
6 ปีอาจจะนานไป แต่ความรู้สึกของเขาไม่เคยลดน้อยลง และสิ่งที่วางเอาไว้มันจะลงล็อกทุกอย่างตามที่ต้องการ อะไรที่เป็นของเขากำลังจะกลับคืนมา
เขาเห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจตัวเอง...แต่ถ้าไม่มีคาริสม่า เขาอยู่ไม่ได้