บท
ตั้งค่า

บทนำ จุดเริ่มต้น 25 ปีก่อน

บทนำ

จุดเริ่มต้น 25 ปีก่อน

“ไม่ได้! ไม่ว่ายังไงทั้งสองก็จะรักกันไม่ได้” เสียงกร้าวดุดันดังขึ้น ภายในห้องโถงใหญ่ของบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ บ้านสีขาว มีรั้วรอบขอบชิด มีสนามหญ้าและสระว่ายน้ำภายในรั้วบ้าน บ่งบอกว่าเป็นบ้านที่มีฐานะค่อนข้างดี และต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมาก

เสียงดังกร้าวดุดันนั้นมาจากชายวัยเกือบชราอายุราวๆ 50ปี ผมสั้นเกรียนทรงข้าราชการนายตำรวจผู้ใกล้เกษียณอย่างเขา ‘ชัยยศ’ ผมดอกสีเลาที่บ่งบอกช่วงวัย ใบหน้าเหี่ยวเฉาตามวัย เขาพูดด้วยสีหน้าโกรธ และตะโกนคัดค้านออกมา เมื่อลูกสาวคนเดียวของบ้านอย่าง ‘วีณา’ เดินเข้ามาสารภาพกับเขาตรงๆ ว่าเธอมีความรัก เธอมีคนรักและมีแฟน เขาจะไม่บังคับหรือกีดกันเธอเลย ถ้าหากคนรักของเธอ ไม่ใช่...มาเฟีย

เขาเป็นตำรวจที่ขึ้นชื่อ มีชื่อเสียงด้านความซื่อตรงและรักความยุติธรรม รักความถูกต้อง จึงไม่อาจจะทำใจยอมรับมาเฟีย พวกทำธุรกิจสีดำและสีเทาได้ลง

“แต่พ่อคะ พวกเรารักกัน” วีณาแย้งผู้เป็นพ่อ เธอตัดสินใจบอกเรื่องความรักของเขาและเธอ เธอไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไปและเธอคิดว่า พ่อของเธอรักเธอมากพอที่จะคิดว่า ถึงเขาจะเป็นมาเฟีย แต่เขาก็ดูแลลูกสาวของพ่อได้

“รักกัน แต่มันกินไม่ได้! ฉันเป็นตำรวจ แล้วลูกสาวของฉันจะแต่งงานกับมาเฟียไม่ได้” ชัยยศยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง เขาจะไม่โอนอ่อนให้ลูกสาวที่เขาตามใจมาตลอดอีกแล้ว เขายอมลูกสาวได้ทุกเรื่อง เลี้ยงดูอย่างดี ตั้งแต่ภรรยาป่วยตายไปเมื่อหลายปีก่อน มีเพียงเรื่องนี้ที่เขานั้นยอมให้ไม่ได้

“แต่ยศตำรวจพ่อ ชื่อเสียงพ่อมันก็กินไม่ได้!” วีณาโต้แย้งกลับอย่างไม่ยอม เธอพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป

ชัยยศ เดินมาหยุดที่ห้องห้องหนึ่ง ห้องที่เขาเอาไว้นั่งเล่น นั่งสมาธิ ห้องที่มีรูปและกระดูกของภรรยาสุดที่รักตั้งอยู่ เขายืนหยุดอยู่หน้ารูปภรรยา

“พี่จะทำยังไงดี...บอกพี่ทีสินัดดา” เขาเอ่ยกับรูปภรรยา แม้จะไม่ได้คำตอบกลับมาแต่เขาก็อยากหาทางออกให้กับเรื่องนี้โดยที่ไม่ทำร้ายจิตใจใครเลย

แต่เขาก็ไม่อยากปล่อยให้ลูกสาวคนเดียวเข้าไปพัวพันอยู่กับสังคมเหล่านั้น เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หากยังปล่อยให้ลูกสาวยังอยู่ที่นี่ เหล่ามาเฟียก็ยังคงตามไม่เลิกไปตลอด มันคงจะมีแค่วิธีนั้นเท่านั้น…

ก็อก ก็อก ก๊อก

ชัยยศเคาะประตูห้องของวีณา แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับ หรือเสียงอนุญาตให้เข้าห้องเหมือนเช่นที่เธอเคยทำ เพราะเวลานี้ เขารู้ดีว่าลูกสาวยังคงโกรธเขาเรื่องของเธอและคนรัก

“พ่อขอเข้าไปคุยหน่อย” เขาเอ่ยบอก แต่ก็ยังไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา มีเพียงแค่เสียงปลดกลอนประตูห้อง เป็นเชิงอนุญาตให้เข้ามาเท่านั้น

“พ่อรู้ว่า เรารักกัน” เขาเริ่มเรื่อง วีณายังคงนั่งฟังนิ่งบนเตียงหนา ใบหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ

“แต่พ่อไม่อยากให้เราไปเสี่ยงอยู่ในสังคมแบบนั้น สังคมที่ฆ่ากันได้เป็นว่าเล่น สังคมที่ทำแต่ธุรกิจผิดกฎหมาย พ่อเป็นตำรวจ พ่อไม่อยากจับลูกเขยและลูกสาวตัวเองเวลาทำผิด หากมีหลาน แล้วพ่อกับแม่มันถูกจับหรือถูกฆ่าจะเป็นยังไง พ่อจะบอกหลานว่ายังไง” เขาอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจ

“เรารักกัน เขาดูแลลูกได้ ลูกมั่นใจ” วีณาเอ่ย

“แต่พ่อไม่มั่นใจ!” เขาตอบกลับแบบทันที

“ลูกจะไม่เป็นอะไร...”

“ไปเรียนต่างประเทศซะ!” ชัยยศเอ่ยขึ้นในที่สุด

วีณาตกใจในคำพูดของผู้เป็นพ่อ พ่อของเธอจะให้เธอไปจากที่นี่ ไปอยู่ที่อื่น ไปจากประเทศไทย เพียงเพราะไม่อยากให้เธอแต่งงานกับแฟนของเธอ ก่อนหน้านี้ก่อนที่เธอจะรู้จักกับ ‘ธันวา’ เธอขอไปเรียนต่างประเทศ

พ่อเธอกลับปฏิเสธมาตลอด เหตุผลเพียงเพราะว่ามันไกลหูไกลตาเขา แต่ทำไมมาตอนนี้ถึงผลักไสไล่ส่งเธอได้ง่ายดายนัก

“พ่อ...” วีณาน้ำตาคลอเบ้า มองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาผิดหวัง คิดว่าพ่อไม่รักเธอ ไม่ยอมเห็นเธอมีความสุข ไม่ให้โอกาสเธอได้เลือกชีวิตรักของตัวเอง

“ไปอยู่ต่างประเทศซะ ไปเรียนอยู่ที่นั่น ที่นี่มันอันตราย แล้วพ่อจะไปเยี่ยมบ่อยๆ พอพ่อเกษียณพ่อก็จะไปอยู่ที่นั่นเหมือนกัน” เขาตัดสินใจบอกลูก เขามีเหตุผลของเขา เธอก็มีเหตุผลของเธอ เพียงแค่เหตุผลของทั้งสองมันไม่ได้ไปในทำนองเดียวกันแค่นั้นเอง

“ลูกไม่ไป!” วีณาปฏิเสธทั้งน้ำตา

“ไปเรียนสัก 2-3ปี หาก2-3ปีนี้ แฟนของแกยังไม่แต่งงานใหม่ แล้วมีรักมั่นคง พ่อจะยอมให้แต่งงานกัน” เขาบอกกับวีณา

“จ…จริงเหรอคะ” วีณาทำเสียงดีใจ เธอเริ่มมีความหวัง เธอมั่นใจว่าถ้าเธอบอกให้เขารอ เขารอแน่นอน

“จริง! แต่มีเงื่อนไข...”

“เงื่อนไขอะไรคะ” วีณาหวั่นใจในเงื่อนไขของพ่อ มันต้องเป็นเงื่อนไขที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ

“แกต้องห้ามบอกเรื่องนี้กับมัน ห้ามติดต่อกัน”

“ทำไมละคะ ทำไมไม่ให้บอก ไม่บอกเขาจะรู้เหรอคะ เขาก็คิดว่าหนูทิ้งเขาไปน่ะสิ” วีณาเริ่มทำหน้าเสีย

“ถ้าบอกมัน มันก็ต้องรอ แต่ถ้าไม่บอก มันไม่รู้ ถ้ามันรักแกจริงๆ มันจะต้องรอของมันได้ด้วยความมั่นคงในความรักของมันเอง พ่อจะพิสูจน์มันด้วย ว่ามันรักแกจริงๆ หรือเปล่า” เขาอธิบายให้ลูกสาวฟัง ทำเอาวีณานั่งเงียบครุ่นคิดอย่างหนัก จนกระทั่งเธอตัดสินใจได้

“ก็ได้ค่ะ ลูกตกลง! ลูกมั่นใจในตัวเขา พ่อเป็นตำรวจพูดแล้วห้ามคืนคำนะ” วีณาย้ำกับผู้เป็นพ่อ

“ไม่คืน! ไปเก็บข้าวของ เตรียมออกเดินทางพรุ่งนี้ พ่อจองตั๋วให้แล้ว” พูดจบเขาก็เดินออกห้องไป

ชัยยศเดินออกจากห้องวีณาด้วยใบหน้าเจ็บปวด น้ำตาลูกผู้ชายอาบสองแก้ม เขาต้องตัดสินใจห่างจากลูก เพื่อความปลอดภัยของลูกสาว เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปเหมือนแม่ของเธออีกแล้ว แม้จะต้องปวดใจและทรมาน แต่นี่มันคือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว...

1 สัปดาห์ ต่อมา

หลังจากที่ชัยยศส่งลูกสาวไปต่างประเทศอย่างเงียบๆ แล้ว เขาก็กลับมาจัดการทำหลุมฝังศพขึ้นมายังที่ดินว่างเปล่าที่เขาซื้อไว้ เอาไว้ฝังเถ้ากระดูกส่วนหนึ่งของภรรยา และเขาก็ตั้งใจไว้ว่า หากเขาตายไป ก็จะให้เอาเถ้ามาไว้ที่นี่เช่นเดียวกัน

เขาทำหลุมศพขึ้นมาหนึ่งหลุมข้างๆ กับหลุมของนัดดา ติดรูปของวีณา และชื่อของเธอไว้ มันคือหลุมฝังศพปลอม ที่เขาตั้งใจทำขึ้น เพื่อหลอกเหล่ามาเฟียว่า วีณาตายไปแล้ว ฆ่าตัวตายไปแล้ว เขาน้ำตาไหลออกมา ไม่ใช่เสียใจที่วีณาตาย แต่เขานึกเสียใจที่ต้องทำเรื่องเช่นนี้ เพราะความที่เขาไม่อยากให้ลูกสาวเขาต้องเป็นอันตรายและอาจจะตายในภายภาคหน้า

สักพักมีรถคันสีดำแล่นมาจอดยังพื้นที่ใกล้เคียง ธันวาก้าวเดินลงจากรถ มีบอดี้การ์ดและลูกน้องหลายสิบคนเดินตามมา ธันวายกมือขึ้นห้าม เป็นคำสั่งว่าไม่ต้องตามเขามา เขาจะเข้าไปเพียงคนเดียว แม้ว่าจะยังไม่รู้เรื่องราวอะไร รู้แค่เพียงว่า วันนี้ชัยยศพ่อของสาวคนรักนัดเขามา เขาคิดว่าคงนัดมาคุยเรื่องวีณา และก็เป็นเรื่องวีณาจริงๆ

ธันวาเดินเข้าไปใกล้ๆ ช้าๆ หัวใจแกร่งเต้นโครมคราม ความหวาดกลัวในใจ ขออย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิดแต่ก็คงไม่ทันเสียแล้ว เพราะเมื่อเขาก้าวเข้าไปยืนเคียงข้างชัยยศที่สายตาทอดยาวไปยังหลุมศพเบื้องหน้า โดยไม่หันมามองเขาแม้แต่หางตาด้วยซ้ำ สายตาของธันวาจดจ้องมองไปยังหลุมศพเบื้องหน้าตามสายตาชัยยศ หัวใจแทบหยุดเต้น จุกอยู่ในอก เมื่อเห็นรูปและชื่อหน้าหลุมศพนั้น

“ทะ…ทำไม...ตั้งแต่เมื่อไร เพราะอะไร...” ธันวาเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงขาดหายเป็นช่วงๆ คล้ายว่าเสียงของเขาถูกพัดหายไปกับสายลม

“ยัยณามาบอกฉัน...เรื่องของเธอกับยัยณา” เขาเอ่ยตอบ น้ำเสียงเรียบเบา แต่สายตายังคงจ้องไปยังหลุมศพ

“ฉันปฏิเสธ! เพราะฉันคือตำรวจ...” เขาเล่าต่อ

“เธอคือมาเฟีย ยัยณาคงเสียใจมาก เช้ามาก็ผูกคอตัวเองตายอยู่ในห้อง...หากฉันไม่ห้าม หากฉันยอมรับ…” ชัยยศเอ่ยพร้อมน้ำตา เขาไม่ได้ร้องไห้เพราะต้องแสดงละครให้ธันวาเห็น แต่เขาเสียใจที่ต้องโกหกแบบนี้

“ฮือออ วีณา!!” ธันวาร้องไห้โฮออกมา ชัยยศนึกสงสารผู้ชายคนนี้จับใจ นึกคิดในใจ เขาคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่นะที่ทำแบบนี้…

หลายเดือนต่อมา ชัยยศในวัยเกษียณมาทำความสะอาดหลุมศพทั้งสอง อย่างเช่นทุกๆ วัน เขาโทรหาวีณา ลูกสาวของเขาในทันทีที่จะบอกข่าวบางอย่าง

“เอ้ออ เป็นไงบ้างล่ะอยู่ที่โน่น” เขาพูดขึ้นทันทีที่ปลายสายกดรับ

‘สบายดีค่ะพ่อ พ่อทำอะไรอยู่ เกษียณแล้วนี่นา’

“พ่อก็หาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อย”

‘มาหาลูกได้แล้ว ว่างก็มาเลย’ วีณาอ้อน เธออยู่ที่โน่นคนเดียว รู้สึกเหงา แต่ก็อยู่ได้

“เดี๋ยวพ่อไป เอ่อ...พ่อมีเรื่องจะบอก...” ชัยยศตัดสินใจเอ่ยขึ้น เขาคิดอยู่หลายวัน จะบอกดีไหม หากบอกแล้ววีณาเผลอทำอะไรไป โดยที่เขาไม่ได้อยู่ด้วยจะทำยังไง แต่เขาคิดว่าลูกของเขาคงไม่ทำแบบนั้น เธอไม่ใช่คนอ่อนแอ หากรู้เรื่องอาจจะเปลี่ยนเป็นเกลียดชังก็ได้

‘อะไรคะ อย่าบอกนะว่า...จะมาอยู่กับลูกแล้ว’ วีณาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“ไม่ใช่ๆ พ่อจะบอกว่า ธันวา…แต่งงานแล้วนะ...” เขาเอ่ยขึ้นในที่สุด แล้วเงียบเสียงฟังปลายสาย

‘...’ เสียงปลายสายเงียบไป ไม่มีแม้เสียงสดใสเหมือนเช่นเมื่อสักครู่

“วีณา...” ชัยยศเอ่ยเรียกลูกสาว เขาเองก็ใจคอไม่ค่อยดี

‘เมื่อไรคะ’ เสียงหวานนิ่งเรียบถามออกมา

“เมื่ออาทิตย์ก่อนกับลูกสาวมาเฟียด้วยกัน” ชัยยศบอก

‘เขาไม่ได้รักลูกจริงๆ สินะ สุดท้ายเขาก็ไม่ได้รอ..’ วีณาเอ่ยเสียงเบารำพึงกับตัวเอง

ชัยยศรู้ดี ว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่อย่างที่ลูกสาวเขาคิด จริงๆ แล้วธันวาตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงที่ครอบครัวเลือกให้ทั้งๆ ที่ไม่ได้รัก เขาจะไม่แต่งหากรู้ว่าวีณายังมีชีวิตอยู่ แต่ที่เขาแต่งเพราะในใจของเขา คนรักของเขาไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว

ชัยยศไม่สามารถบอกความจริงให้ลูกสาวเขาได้ เขามาไกลเกินกว่าจะบอกความจริงทั้งหมดแล้ว ปล่อยให้ธันวาเริ่มต้นชีวิตใหม่ และปล่อยให้ลูกสาวเขาได้เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่เหมือนกัน และเขาก็จะปล่อยให้ความลับของเขาตายไปกับเขาด้วยเช่นกัน...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel