บทที่ 05 บีบคั้น
"เอ่อ...มีอะไรให้ช่วยไหมครับ"
"อะ...อ้าวคุณพัฒน์ บังเอิญจังนะคะ" ว่าแล้วรุ่นพี่ผู้จัดการก็เอ่ยทักทายคนที่มาใหม่ด้วยรอยยิ้มหวานที่ปรากฏบนใบหน้าแล้วเอ่ยตอบด้วยท่าทีที่เป็นมิตร
"ครับ ผมมาร้านนี้บ่อย" เสียงทุ้มของลูกค้าที่เคยว่าจ้างเธอเมื่อรอบที่แล้วเอ่ยด้วยท่าทีสุภาพนอบน้อมก่อนที่สายตาจะเบือนไปทางหญิงสาวร่างบางที่ยืนโอนเอนไม่ได้สติ
"อะ...อ้อ ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ เดี๋ยวแฟนฉันคงมาแล้วไม่รบกวนคุณพัฒน์ดีกว่าค่ะ" มิกิตอบด้วยท่าทางเกรงใจก่อนที่จะยิ้มแห้งๆ ปฏิเสธเขาไป
"ครายอะเจ๊...รู้จักกานเหรอ" แล้วคนเมาที่ยืนเงียบไร้สติอยู่นานก็พูดขึ้นก่อนที่จะพยุงร่างของตัวเองเข้าใกล้เจ้าของร่างสูงโปร่งหรี่ตามองจนใบหน้าเรียวนั้นชิดใกล้กับชายหนุ่มร่างสูงแค่ไม่กี่คืบ
"ขะ...ขอโทษด้วยนะคะ พอดีเวลานางเมาแล้วพูดมากแบบนี้แหละค่ะ" มิกิที่ตกใจในการกระทำของร่างบางในตอนแรกรีบยื่นมือดึงอีกคนเข้าหาตัวทันทีไม่วายที่จะขอโทษขอโพยลูกค้ายกใหญ่
"ไม่เป็นไรครับ" ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ สำหรับเขาแล้วกลับรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าน่ารักมีเสน่ห์เสียมากกว่า
ครืดดดด
"งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ" ก่อนที่โทรศัพท์ของผู้จัดการสาวจะดังขึ้นโดยที่ชื่อบนหน้าจอนั้นแผ่หราเป็นชื่อของแฟนเธอ มิกิที่เห็นดังนั้นก็เอ่ยพร้อมกับพยายามดื้อดึงร่างบางให้เดินตามเธอออกมาทันที ท่ามกลางสายตาของชายหนุ่มอีกคนที่กำลังมองมายังโต๊ะของเธอ
อีกด้าน
เจ้าของร่างสูงโปร่งดวงตาคมเอาแต่จ้องมองไปยังร่างของสองคนที่หนึ่งในนั้นเป็นคู่หมั้นของเขาที่ยืนด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยจะไหว กับอีกผู้ชายหนึ่งคนที่กำลังคุยกับผู้หญิงอีกคนที่เขาไม่รู้จักแต่ก็พอจะเห็นหน้าอยู่บ่อยครั้ง
"มึงมองอะไรวะ?" พร้อมถามเพื่อนก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะหันไปมองตาม
"คู่หมั้น?"
"กำลังจะเป็นอดีตคู่หมั้น" เสียงทุ้มตอบเพื่อนแต่สายตาก็ยังคงจ้องมองไปที่โต๊ะนั้นของเธอด้วยอารมณ์ที่ผู้คนรอบข้างก็ไม่อาจที่จะคาดเดาได้
"แม่มึงยอมแล้ว?" คีรินถาม
"ไม่ยอม และกูก็ไม่ยอมเหมือนกัน"
"อย่างมึงเนี่ยนะ จะขัดแม่มึงได้ หึ!...ไม่อยากจะเชื่อ" คีรินเอ่ยพลางแสยะยิ้มมุมปากอย่างรู้เท่าทันในความคิดของเพื่อน ชายหนุ่มที่มักจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครเว้นแต่แม่เขาคนเดียวที่จะสามารถบังคับเขาได้ ซึ่งข้อนี้เพื่อนสนิทของเขาทุกคนมักจะรู้ดี
"เออ คราวนี้กูจะไม่ยอมแม่แล้ว พวกมึงคอยดูเถอะ" เขาตอบเพื่อนแล้วมือหนาก็โอบเอวเรียวของหญิงสาวหุ่นดีที่นั่งอยู่ข้างๆ
"จะคอยดู..." มาเฟียหนุ่มเย็นชาอย่างธาวินเปล่งพูดพร้อมกับแสยะยิ้มร้ายให้เขา
"ยิ้มแบบนี้คืออะไรวะ"
"เปล่า..." แล้วชายหนุ่มร่างสูงก็ยักไหล่ไม่สนใจเพื่อนก่อนที่จะหันไปนัวเนียกับหญิงสาวข้างๆ แทน
"กูไปละ" จนผ่านไปไม่นานเขาก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งทำให้เพื่อนสนิทอีกสามคนหันมามองอย่างเข้าใจโดยที่ไม่ต้องถามอะไร แล้วมือหนาก็โอบเอวบางของหญิงสาวเดินออกไปทันที
สามวันผ่านไป
"คุณโก้โทรมายกเลิก" มิกิผู้จัดการสาวหันมาบอกร่างบางด้วยสีหน้าไม่สู้ดีหลังจากที่งานถ่ายแบบโฆษณาของเธอนั้นถูกยกเลิกคิวถ่ายไปแล้วเป็นงานที่สามของวันนี้
"พ่อ!..." ร่างบางที่นั่งอยู่บนโซฟากว้างเอ่ยชื่อเจ้าของต้นเหตุด้วยความโกรธเคือง แน่นอนว่าเธอรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือพ่อของเธอที่พยายามจะบีบคั้นเพื่อให้เธอทำตามคำสั่งของเขา
"ใจเย็นๆ ก่อน ยังเหลืออีกตั้งหลายงะ...." ไม่ทันที่รุ่นพี่สาวจะพูดจบคำพูดของเธอก็ถูกชะงักไปเมื่อโทรศัพท์หรูราคาแพงนั้นดังขึ้นเสียก่อน
ครืดดดด
"ค่ะคุณกานดา" ใบหน้าได้รูปของมิกิก็หันมามองยังเธอแวบหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจรับสายของลูกค้าไปด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน
"เอ่อ...ทำไมละคะ ตอนนี้น้องก็เตรียมตัว เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วนะคะ" มิกิเอ่ยตอบปลายสายประโยคของเธอทำให้หญิงสาวหุ่นดีรับรู้ได้เลยว่าปลายสายนั้นพูดถึงเรื่องอะไร
"คุณกานดาคะ คะ...คุณ..." ผู้จัดการรุ่นพี่ก็วางโทรศัพท์ไปหลังจากที่โดนลูกค้าตัดสายไปอย่างไม่มีเหตุผลที่อธิบายคำถามของเธอได้ แล้วเธอก็ต้องส่ายหัวให้หญิงสาวราวกับกำลังบ่งบอกว่าเธอถูกยกเลิกงานมาอีกแล้ว
"ลูกค้าใหม่ก็ไม่มีจ้างมาเลย คนเก่าก็ยกเลิกหมด"
พรึ่บ! ว่าแล้วเจ้าของร่างบางหุ่นดีก็รีบลุกขึ้นพรวดพราดทันที
"แกจะไปไหน!?" มิกิเอ่ยถามรุ่นน้องสาวพลางขยับลุกขึ้นตามเธอ
"ก็ไปหาคนที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้สิ ฉันจะไปคุยให้รู้เรื่อง" ตอนนี้เธอกำลังมีแต่โกรธเคืองผู้เป็นพ่อที่กำลังทำลายอาชีพการงานที่เธอรักบีบคั้นให้เธอทำตามคำสั่งของเขา
"ไปคุยก็ไม่มีประโยชน์ไม่ใช่เหรอ ใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวฉันจะลองวิ่งหางานกับลูกค้าที่ชอบในผลงานแกก่อน น่าจะพอได้สักสองสามงาน"
"ไม่หรอกเจ๊ ฉันรู้จักนิสัยพ่อฉันดี ถ้าเขาต้องการอะไรก็ต้องได้เท่านั้นเขาถึงจะหยุด" ใบหน้าสวยพูดถึงผู้เป็นพ่อสีหน้านิ่งเรียบพลางนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่มักจะโดนผู้เป็นพ่อนั้นบังคับอยู่เสมอ
"หนูไม่อยากเรียนบริหาร หนูไม่ชอบมัน"
"แล้วที่แกจะไปเรียนนิเทศนั้นมันดีแล้วหรือไง"
"ดีสิคะ มันคือความฝันของหนู"
"เลิกเพ้อเจ้อ แล้วเรียนตามที่ฉันสั่งเกวลิน"
"แต่หนูเป็นคนเรียน ไม่ใช่พ่อ!"
"เกวลิน อย่ามาขึ้นเสียงกับฉัน"
สุดท้ายเธอก็ต้องเรียนตามที่ผู้เป็นพ่อสั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ กรบีบรัดเธอทุกทางเพื่อให้เธอหมดสิ้นหนทางแล้วยอมเรียนตามที่เขาสั่งแต่โดยดี ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นมันก็เหมือนที่เธอกำลังเผชิญตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะทนต่อแรงกดดันของผู้เป็นพ่อนานแค่ไหน แต่ยังไงแล้วเธอก็ยังจะสู้ให้ถึงที่สุด
"ฉันไม่ยอมเสียงานที่รักของฉันเด็ดขาด"
"ใจเย็นๆ ยังไงฉันก็อยู่ข้างแกนะ" มิกิดึงร่างเล็กของรุ่นน้องสาวเข้ามากอดรับรู้ได้ว่าอีกคนนั้นกำลังตึงเครียดและเริ่มที่จะอ่อนแอ
"ถึงฉันจะไม่มีเงินให้เจ๊อะนะ" แต่ก็ยังคงแสดงออกถึงความเข้มแข็งและรอยยิ้มฝืนๆ บนใบหน้าเพื่อบดบังความรู้สึกจริงๆ นั้นไว้
"ใช่สิ เผื่อต่อไปแกดังฉันต้องรวยกว่านี้แน่ๆ" ผู้จัดการสาวก็รับรู้ได้ว่าเธอคงไม่อยากแสดงด้านนั้นออกมาเลยเลือกที่จะหยอกล้อไปตามประสาเธอ
"ฮ่าๆ เกือบจะดีอยู่แล้วอะเจ๊" เสียงหัวเราะที่ฟังแล้วดูไม่มีความสุขเอาสักนิดเดียว
"ฉันไม่อยากให้แกเครียด"
"ขอบคุณนะเจ๊" ร่างบางก็ผละออกจากอ้อมกอดของรุ่นพี่ผู้จัดการก่อนที่จะยิ้มให้บางๆ
"แกก็เหมือนน้องฉันนั้นแหละ"
"..." และแล้วภายในคอนโดหรูของเธอก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบงันก่อนที่ปากเล็กได้รูปจะหันไปบอกกับอีกคนหลังจากที่นึกคิดอะไรได้
"เจ๊...ฉันตัดสินใจแล้ว..."