บทที่ 06 อดีตที่เจ็บปวด
"เออไอคีย์ทำไมมึงเงียบไปวะ" เฮียพร้อมพูดขึ้นแล้วหันไปทางเขา ทุกสายตากำลังจับจ้องเขาหมด เว้นแต่ฉันที่เบือนหน้าหนี ไม่อยากมองและไม่อยากสนทนาด้วย
"เปล่า…" เขาตอบเสียงนิ่ง ฉันสัมผัสได้ว่าเขากำลังมองมาทางฉัน แต่เรื่องของเขายังไงฉันไม่สนใจเขาอยู่ดี
"เห็นแต่ก่อนมึงกับพายสนิทกันจะตาย ทำไมไม่เห็นคุยกันเลย" พี่ไลอ้อนพูดขึ้นกับเขา
"แล้วพี่จะไปยุ่งเรื่องเขาทำไมเล่า มาๆ กินกันดีกว่าค่ะ" เกรซพูดเพื่อเปลี่ยนประเด็นเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของฉัน ทำดีมากเพื่อนรัก…ช่วยต่อชีวิตฉันได้เยอะเลย
"พาย…น้ำฟ้าไม่ดื่มเหรอ?" พี่ธาวินพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันยกดื่มแต่แก้วน้ำเปล่ามาชนแก้ว เช่นเดียวกับน้ำฟ้าที่ดื่มน้ำเปล่าตามกันโดยไม่แตะแอลกอฮอล์เลย
"ไม่ล่ะค่ะ พรุ่งนี้พายต้องไปทำงาน" พรุ่งนี้ฉันต้องเข้าบริษัท ขืนฉันดื่มไปนะ ไม่เป็นอันทำงานแน่นอน
"ฟ้าก็เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวบอสจะดุเอา" น้ำฟ้าพูดแล้วหันไปทำตาขวางใส่เฮียพร้อม
"พายขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" ว่าจบฉันก็รีบลุกจากที่นั่งอยู่ รู้สึกถึงความอึดอัดของสายตาที่กำลังมองอยู่ตลอดเวลา
ไม่รู้จะมองอะไรนักหนา!
"ครับ ตรงไปทางนั้นแล้วเลี้ยวขวานะครับ" พี่ธาวินชี้ทางให้ฉันเข้าไปในคฤหาสน์ใหญ่โตของเขา ฉันก็พยักหน้าเข้าใจแล้วรีบเดินหนีไปเลย
ฉันยืนทำใจหน้ากระจกนานสองนาน ไม่อยากเดินกลับเข้าไปในงานเลย ฉันไม่อยากอยู่มองหน้าเขา ความรู้สึกเดิมๆ กำลังไล่เข้ามาในหัวเป็นฉากๆ
ใช่…ฉันไม่มีวันลืมเขาเลย
ใช้เวลาหนีไปเรียนต่อเกือบห้าปี สุดท้ายความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ช่วยให้ใจฉันดีขึ้นเลยสักนิด
จนเวลาผ่านไปสักพักฉันจึงตัดสินใจจะตามน้ำฟ้าแล้วรีบกลับบ้านเลย อ้างอะไรก็ได้ที่พี่ธาวินยอมปล่อยให้ฉันกลับ จนคิดออกแล้วเท้าของฉันก็รีบก้าวออกจากห้องน้ำ
แต่แล้ว…
"ไม่คิดจะทักกันหน่อยเหรอ?" เสียงทุ้มดังขึ้นในขณะที่ยืนพิงผนังล้วงกระเป๋ากางเกงหันมามองฉัน
"พี่คีริน…" ฉันพึมพำเรียกชื่อเขาเบาๆ เม้มปากแน่นแล้วหันไปทางอื่นทันที
"สวัสดีค่ะ" อยากให้ทักฉันก็ทัก ทันทีที่พูดจบฉันก็รีบหมุนตัวจะเดินออกไป ทว่า…
พรึ่บ!
มือบางฉันกลับถูกรั้งไว้ จนฉันชะงักนิ่งปรายตามามอง
"พะพายทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้" เขาพูดขึ้นแล้วปล่อยแขนฉันให้เป็นอิสระ ในขณะที่ฉันกระตุกยิ้มมองเขาอย่างตลกในคำถามของเขา
"เปลี่ยนไปยังไงเหรอคะ?"
"ก็แต่ก่อนพายไม่ได้เป็นแบบนี้" หึ…เพราะแต่ก่อนฉันมันคนโง่น่ะสิ แต่ฉันจะไม่ยอมโง่ไปตลอดหรอก
"หยุดพูดเรื่องอดีตเถอะค่ะ พายไม่อยากฟัง" ฉันพูดจบแล้วเดินออกมาเลย ทิ้งให้คนอย่างเขายืนทวนคำถามของตัวเองที่กำลังใจข้องใจในตัวฉัน
ห้าปีที่แล้ว
ฉันกับพี่คีรินเราสนิทกันมาก เพราะพ่อกับแม่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วตอนเด็กพี่คีรินก็ชอบตามพ่อกับแม่เขามาที่บ้านจนสนิทกับฉันและเฮียพร้อม พอหลังๆ มาเขามักจะมาหาฉันบ่อยๆ พาฉันไปนู้นไปนี่ตามใจฉันทุกอย่างมากกว่าที่เฮียพร้อมตามใจฉันอีก ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ฉันมีให้เขามันมากกว่าพี่ชายไปตอนไหน
ตอนนั้นฉันอยู่ปีหนึ่ง ฉันตัดสินใจว่าจะบอกชอบเขา เพราะฉันทนเก็บความรู้สึกต่อไปไม่ไหว ฉันนัดเขามาเจอแล้วตัดสินใจพูดทุกอย่างที่ฉันคิดกับเขา แต่สุดท้ายยัยพะพายก็โดนปฏิเสธ เขาบอกว่าเห็นฉันเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย
แต่ความพยายามของพะพายก็ตื้อเขาไม่เลิก ฉันขอร้องอ้อนวอนขอให้เขาลองเปิดใจให้ฉันบ้าง ลองเปิดใจมองฉันมากกว่าน้องสาว ซึ่งคำตอบที่ได้มาคือเขาโอเคยอมฉัน บอกว่าจะลองดู ให้ความหวังจนฉันดีใจมีความสุขมาก
ตอนนั้นฉันยังแต่งตัวไม่เก่ง แต่งหน้าไม่เป็น เป็นเด็กกะโปโลปีหนึ่งใสๆ เราคบกันแบบไม่มีใครรู้แม้กระทั่งเฮียพร้อม ยกเว้นเพื่อนสนิทของฉันที่ฉันเล่าทุกอย่าง
เราคบกันได้หลายเดือนก็ถึงวันเกิดเขา ฉันตัดสินใจว่าจะไปเซอร์ไพรส์เขาที่ห้อง แต่ฉันกลับโดนเขาเซอร์ไพรส์กลับโดยการที่เห็นเขากำลังมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น
ฉันอึ้งจนของที่อยู่ในมือฉันร่วงไปอยู่ที่พื้น น้ำตาใสๆ เริ่มไหลจากดวงตา สะอึกสะอื้นตัวโยนหลังจากที่เห็นเขามีอะไรกับคนอื่นต่อหน้าต่อตา จนเขาหันมาเห็นฉันแล้วตกใจรีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วบอกให้ฉันไปรอนอกห้อง ตอนนั้นฉันคิดอย่างเดียวคือฉันต้องได้รับคำอธิบาย ฉันจึงอยู่รอจนเขาเปิดประตูออกมาพร้อมผู้หญิงคนนั้น
"พี่ไม่เคยรักพายมากกว่าน้องสาว พายกลับไปเถอะ" ฉันจำประโยคนี้ของเขาได้ดี ฉันคงผิดเองที่ตื้อให้เขาลองเปิดใจให้ ฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะทำกับฉันได้ขนาดนี้
"คีย์เขาไม่ชอบเด็กจืดชืดแบบเธอหรอก" ผู้หญิงคนนั้นพูดตอกหน้าใส่ ฉันจำได้ดี ฉันกลับมาบ้านฉันตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศในทันที ความจริงป๊าให้ฉันไปตั้งแต่ฉันจะขึ้นมหาลัยปีหนึ่ง แต่ฉันก็ปฏิเสธป๊าทุกครั้งเพราะฉันอยากอยู่ใกล้ๆ เขา แต่เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันเปลี่ยนใจบินไปเรียนต่อ โดยให้เหตุผลว่าฉันอยากเรียนต่อแบบเฉพาะทาง เลยไม่มีใครสงสัยในตัวฉัน ไม่มีใครรู้ว่าตอนนั้นหัวใจฉันมันพังแหลกเหลวมากแค่ไหน
ฉันเปลี่ยนเป็นคนละคนหลังจากที่ได้เปิดโลกที่ต่างประเทศ การแต่งตัวการแต่งหน้าของฉันดีมากเพราะเพื่อนที่นู้นพากันแนะนำ ฉันเปลี่ยนเป็นพะพายคนใหม่ ในเวอร์ชั่นที่พ่อแม่ฉันยังตกใจ
แต่แล้วยังไง…สุดท้ายฉันก็เปลี่ยนได้แค่ภายนอก สุดท้ายหัวใจฉันก็ไม่รักดี ไม่เคยลืมแม้แต่ใบหน้าของเขาเลย
"กูเห็นพี่คีรินเดินตามมึงไป มึงได้คุยกับเขาหรือเปล่า" เกรซกระซิบกับฉันเบาๆ หลังจากที่ฉันเดินมานั่ง ฉันพยักหน้าให้เพื่อนแล้วนั่งนิ่งโดยที่ไม่คุยกับใครอีก
"แล้วมึงโอเคไหม?" เกรซถามฉันต่อ ฉันก็ให้พยักหน้าให้มันต่อ
แล้วพี่คีรินก็เดินกลับมานั่งที่ของเขา มองหน้าฉันนิ่งๆ จนฉันอึดอัดไม่อยากนั่งรวมโต๊ะด้วย
"น้ำฟ้าเรากลับกันเถอะ" สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจลุกจากที่นั่ง น้ำฟ้าเงยหน้ามามองฉัน เมื่อเห็นสีหน้าฉันไม่โอเคเธอก็รีบลุกขึ้นทันที
"ดีเหมือนกัน ฟ้าง่วงแล้ว"
"พี่ๆ คะ พายกับน้ำฟ้ากลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้พายต้องเข้าบริษัทแต่เช้า สวัสดีค่ะ พวกมึงกูกลับละ" ฉันรวบทุกคำพูดระรัวโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้พูดแทรก ก่อนที่จะจับมือน้ำฟ้าแล้วเดินออกมาจากวงนั้นสับเท้าเดินไปขึ้นรถทันที
"พายโอเคไหม?" ฉันส่ายหน้า
ฉันตอบไปความจริง ยิ่งฉันคิดถึงอดีตที่แสนจะเจ็บปวด ยิ่งตอกย้ำให้ฉันต้องลืมเขาให้ได้
แต่ตอนนี้หัวใจฉันมันไม่ไหวเหลือเกิน ทำไมฉันยังทำใจลืมเรื่องบ้าๆ นั้นไม่ได้สักที
"มีอะไรบอกฟ้าได้นะ" น้ำฟ้าจับมือฉันแล้วยิ้มให้ ฉันก็ยิ้มกลับให้เพื่อนแล้วขับรถไปส่งเธอไปถึงบ้านด้วยการฝืนร่างกายตัวเองตลอดทาง จนใช้เวลาไม่นานก็พาตัวเองกลับมาคอนโดจนได้
ตอนเช้า
"วันนี้คุณพายไม่มีนัดสำคัญอะไรนะคะ" พี่นุ่นเข้ามารายงานตารางงานฉันเหมือนกับทุกวัน ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วเคลียร์เอกสารบนโต๊ะตัวเองทำงานตามปกติ
จนกระทั่ง…
ก็อก ๆ
"คุณพายคะมีผู้ถือหุ้นมาขอพบค่ะ" ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกพี่นุ่นก็รีบสาวเท้าเดินมาบอก จนฉันวางปากกาแล้วมองหน้าเลขาตัวเองด้วยความงงเล็กน้อย
"วันนี้ไม่มีนัดไม่ใช่เหรอคะ?"
"เขาเพิ่งแจ้งพี่มาเมื่อกี้เองค่ะ"
"ให้เข้ามาเลยค่ะ" ด้วยความไม่ได้คิดอะไรฉันก็จัดการเก็บเอกสาร พร้อมกับรอผู้ถือหุ้นที่ขอพบฉันแบบเร่งด่วน
ครืดดดด ~
ประตูถูกออกพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่สวมใส่สูทสีดำเดินเข้ามาในห้องฉัน ตามด้วยเลขาฉันที่เดินตาม ฉันนิ่งไปกับคนที่เห็น เขาคือพี่คีรินอดีตที่ไม่ดีของฉันที่กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองฉันนิ่ง
"ผมขอคุยธุระกับเจ้านายของคุณ" ในขณะที่ฉันนิ่ง เขาก็หันไปบอกกับพี่นุ่น จนเลขาสาวฉันรีบก้มหัวรับแล้วเดินออกไปทันที
"มีธุระอะไรคะ?" ฉันรีบดึงสติให้กลับมาปกติ ก่อนที่จะเปิดประเด็นถามโดยไม่มีการทักทายและเชิญให้นั่งใดๆ
"พี่แค่แวะมาหาพาย" พี่คีรินลงมานั่งเก้าอี้ตรงข้าม จดจ้องใบหน้าฉันนิ่งไม่ต่างกัน
"ขอบคุณที่มาหาค่ะ แต่ถ้าไม่มีธุระอะไรขอเชิญให้ออกจากห้องนะคะ ฉันต้องทำงาน" ฉันพูดแล้วผายมือไปยังประตูห้องเพื่อกดดันให้เขาออกไป จากนั้นฉันก็ก้มหน้าดูเอกสารตรงหน้าต่อ โดยที่ไม่ได้สนใจเขาอีกเลย
"พะพาย..." พี่คีรินยังนั่งอยู่ที่เดิม เอ่ยเรียกจนฉันเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง
"เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ไม่มีเวลามาคุยไร้สาระ" ฉันกดเสียงต่ำไล่เขาอีกรอบ ใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มทำเอาอีกคนถอนหายใจ
"เลิกคุยกับมัน" เขาเอ่ยสั้นๆ มองหน้าฉัน
"หมายถึงอะไร?"
"คนที่กำลังคุย เลิกติดต่อมัน" พี่คีรินพูดจบแค่นั้นก็เดินออกไป ทิ้งให้ฉันนั่งงงมองตามแผ่นหลังกว้าง แต่ฉันก็ไม่คิดจะถามอะไร เขาจะพูดอะไรก็ช่าง ฉันไม่อยากสนใจ