บทย่อ
KIRIN (คีริน) คีริน คิมหันต์ มาเฟียหนุ่มรูปหล่อ ที่ทำทั้งธุรกิจมืด เทา และขาว ไม่เคยทำร้ายใคร ถ้าคนนั้นไม่ทำเขาก่อน สถานะโสด แต่รอผู้หญิงเพียงคนเดียวในใจ PAPEI (พะพาย) พะพาย ธัญญารัตน์ ลูกสาวนักธุรกิจ สวย เปรี้ยว เพราะความรักทำให้เธอต้องเปลี่ยนตัวเอง บินไปเรียนไกลถึงต่างประเทศ แต่ต้องกลับมาเพราะต้องสานต่อธุรกิจครอบครัว หนีความจริงไม่พ้น "ตอนนั้นกูยังไม่รู้ใจตัวเอง กูไม่รู้ว่ากูรักพะพายตอนไหนด้วยซ้ำ กูเข้าใจว่าตัวเองรักพะพายเหมือนกับน้องสาวคนหนึ่งมาตลอด แต่วันที่พะพายหนีไป กูกลับอยู่ไม่ได้ มันทำให้กูรู้ใจตัวเองมากขึ้นว่ากูไม่ได้รักพะพายเหมือนน้องสาว" "ถึงมึงจะไม่ให้โอกาส กูก็ไม่สน เพราะยังไงกูก็จะตามพะพายอยู่อย่างนั้น" "คนเฮี้ยๆ อย่างมึงเหรอจะรักน้องสาวกูจริงๆ" "ใช่กูเคย แต่ตอนนี้กูเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้น กูไม่เคยมีใคร กูรอแค่พะพายมาตลอด กูให้มึงฆ่ากูให้ตายก็ได้ถ้ามึงคิดว่าสิ่งที่กูพูดไม่ใช่ความจริง" "..." "พะพาย..." "ไม่ต้องเรียกชื่อน้องกู!"
บทที่ 01 พะพาย
Episode
พะพาย ธัญญารัตน์ คือชื่อฉันเอง ลูกสาวอดีตผู้บริหารนักธุรกิจอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ตอนนี้วางมือให้ลูกชายคนโตบริหารต่อ และรอให้ฉันเข้ารับตำแหน่งรองประธานบริษัทหลังจากที่ฉันเรียนจบ และใช่…ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้ว จบมาได้เกือบครึ่งปีแล้วด้วย
"เฮีย…" ฉันลากเสียงหวานเรียกเฮียพร้อมหรือพี่ชายของฉันเองที่อายุห่างกันเกือบห้าปี ในขณะที่มือบางถอดแว่นตากันแดดออกแล้วรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาพี่ชาย
"หมวย กลับมาไม่บอกเฮียเลย" ฉันพุ่งเข้าไปกอดเฮียที่ไม่ได้เจอกันนานมากตั้งแต่วันที่ฉันไปเรียน ก็ไม่ได้เจอกันเลย มีแค่คุยผ่านโทรศัพท์เท่านั้น
"หมวยกลับมากับป๊าหม่าม้า" วันนี้เป็นวันแรกของการกลับประเทศตัวเอง และเหตุผลที่ฉันต้องกลับก็เพราะป๊ากับหม่าม้าฉันน่ะบินไปตามฉันถึงที่ ถึงถิ่นจนฉันหนีไม่ได้ เพราะฉันใช้เวลาเที่ยวเตร็ดเตร่ต่างประเทศไม่ยอมกลับ อยู่นานไปหน่อย ก็เลยต้องถูกบินตามกลับบ้านตามระเบียบ
"หื้ม…ไม่เห็นป๊ากับหม่าม้าบอกเฮียเลย" เฮียพร้อมเลิกคิ้วหันไปหาหม่าม้าที่พึ่งเดินเข้ามายังตัวบ้าน
"แกกลับมาให้ฉันเห็นหน้าด้วยหรือไง" หม่าม้าตอบกลับเฮีย จนเจ้าตัวยิ้มแห้งๆ ออกมา ท่าทียอมรับแบบนี้แสดงว่าหม่าม้าพูดจริงสินะ
"เฮียไม่คิดถึงหมวยเลยหรือไง ไม่เคยมาหาหมวยสักครั้งเลย" ฉันกอดอกแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ก่อนหน้านี้เห็นห่วงฉันนักห่วงฉันหนา แต่ไม่เคยไปหาฉันเลยสักครั้งเดียว
"คิดถึงสิ แต่เฮียงานยุ่งมากเลย หมวยก็เห็น หม่าม้าเลยต้องไปตามหมวยมาช่วยเฮียไง"
"แล้วงานสำคัญกว่าหมวยหรือไง" ฉันไม่ยอมหรอก เห็นงานสำคัญกว่าฉันได้ยังไงกัน แบบนี้ต้องงอนนานๆ
"เอ้…งั้นคนงอนแถวนี้คงไม่อยากได้รถที่เฮียซื้อให้แล้วสิ" เฮียพร้อมพูดพร้อมกับควงกุญแจรถยนต์เล่น ทำเอาฉันรีบหันขวับกลับมา
แล้ว…
พรึ่บ…รีบคว้ากุญแจที่เฮียควงไว้ทันที
"หายงอนแล้วค่า" ฉันพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้เฮีย โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ค่อยงอนทีหลังก็ได้ คนอย่างพะพายเงินซื้อไม่ได้
ถ้าไม่มากพอ…
"ทีแบบนี้ล่ะเร็วขึ้นมาเชียวนะครับ" เฮียพร้อมพูดแล้วขยี้หัวฉัน
"เฮีย…หัวยุ่งหมดแล้ว" มือบางรีบปัดออก จัดผมให้เข้าที่แล้วทำหน้ายู่ใส่พี่ชาย
"เฮียไปซื้อมาตอนไหนอะ" ฉันเอ่ยถาม เมื่อกี้ยังบอกเลยว่าไม่รู้ว่าฉันจะกลับ
"หม่าม้าบอกเฮียก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงเอง เฮียเลยรีบซื้อเพราะรู้ว่ามีคนจะงอน" ช่างรู้ใจฉันจริงๆ เลย
"แล้วรถอยู่ไหนอะ" ฉันหันไปถามเฮีย ตื่นเต้นสุดๆ จะได้นั่งรถคันใหม่คันแรกในการกลับไทยของฉันแล้ว
"อยู่หน้าบ้านคันสีขาวอะ" ไม่รอช้าที่เรียวขาจะรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านทันทีที่เฮียพูดจบ เมื่อกี้ฉันไม่เห็นได้ยังไงนะ สงสัยรีบเดินเข้ามาหน่อยเลยไม่ทันสังเกตว่ามีรถหรูสีขาวคันใหม่เอี่ยมถูกผูกโบว์สีแดงรอเจ้าของอยู่แล้ว
"ว้าว…เฟอร์รารี่รุ่นใหม่ล่าสุด" สายตาฉันเป็นประกายจดจ้องรถที่อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะรีบเข้าไปเชยชมใกล้ๆ ลูบไปมาด้วยความเห่อของใหม่จนพอใจ
"ไงเรา ยิ้มหน้าบานมาเชียว" ไม่วายที่ทันทีที่เข้ามาในบ้านก็ถูกผู้เป็นบิดาพูดแซว ตวัดสายตาออกจากหนังสือพิมพ์มามองฉันยิ้มๆ
"แน่อยู่แล้วป๊า รถใหม่ถูกใจพายสุดๆ ขอบคุณนะคะเฮียพร้อม" ฉันยักคิ้วกวนใส่ป๊า แล้วเดินไปนั่งใกล้เฮียพร้อม พร้อมกับหอมแก้มสำหรับของขวัญหนึ่งที ถูกใจพะพายสุดๆ เลย
ฉันจะแทนตัวเองว่าหมวยแค่กับเฮีย เพราะเฮียเป็นคนเดียวที่เรียกฉันว่าหมวย ส่วนกับป๊าหม่าม้าก็พายบ้างหนูบ้างแล้วแต่โอกาส
"โห่ ถ้ารู้ว่าซื้อแล้วโดนหอมแก้มแบบนั้นนะ ป๊าซื้อให้ดีกว่า" พ่อเอ่ย
"ป๊า…อย่าอิจฉาดิ" เฮียพร้อมบอกป๊าพร้อมกับยิ้มอย่างผู้ชนะ
"ไม่ซื้อก็หอมแก้มให้ค่า" ฉันพูดพร้อมกับเดินไปหอมแก้มป๊าทั้งสองข้าง
"ให้สองข้างไปเลย แต่ขอเป็นคอนโดหนึ่งห้องนะคะ" ก่อนที่จะพูดต่อจนป๊าหันมามองหน้าฉัน
แน่นนอนว่าคนอย่างพะพายทำอะไรหวังผลอยู่แล้ว การหอมแก้มแลกกับที่พักฟรีรถฟรี ถือว่าคุ้ม
"ทำดีหวังผลเหรอ?"
"ไม่คิดจะอยู่ติดบ้านทั้งลูกชายแล้วก็ลูกสาวเลยหรือไง" แต่ไม่ทันจะตอบเสียงหวานของผู้หญิงอีกคนในบ้านก็พูดแทรก จะเป็นใครไม่ได้นอกจากพระมารดาที่หน้าหงิกหน้างอไม่ยอมให้ฉันหนีไปมีคอนโดอยู่แยก
"หม่าม้าขา…ยังไงหนูก็กลับบ้านบ่อยๆ อยู่แล้วค่า" ฉันรีบเดินไปอ้อนหญิงวัยกลางคน นาทีนี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับหม่าม้าเท่านั้นแหละ ฉันจะออกหรือไม่ได้ออกไปอยู่นอกบ้าน คำอนุญาตต้องมาจากคนนี้เท่านั้น ป๊าใหญ่สู้หม่าม้าไม่ได้หรอก
"แล้วแต่หนูละกัน แต่ต้องกลับมาหาหม่าม้าบ่อยๆ นะ" เป็นไปตามคาด บ้านนี้อ้อนนิดหน่อยก็ยอมแล้ว
"รับทราบค่ะ"
"พร้อมจัดการให้ป๊าด้วย" ฉันยิ้มแฉ่งเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ
"ครับป๊า"
"พรุ่งนี้เฮียฝากคีย์การ์ดไว้กับหม่าม้าก็ได้ เดี๋ยวหมวยไปเอง" ฉันบอกเฮียพร้อม เพราะพรุ่งนี้เฮียน่าจะต้องไปทำงาน ส่วนฉันขอพักที่บ้านให้หายเจ็คแลคก่อนแล้วค่อยเริ่มทำงานเริ่มย้ายที่อยู่แล้วกัน
"ได้ครับ งั้นเฮียไปก่อนนะ ป๊าม้าสวัสดีครับ" ว่าจบร่างสูงก็เดินออกจากบ้าน ในขณะที่ฉันก็ขอตัวจากพ่อแม่ขึ้นไปพักชั้นบนบ้าง ที่เป็นห้องของตัวเอง
ยังเหมือนเดิมทุกอย่างเลย…ภายในห้องของฉันยังมีข้าวของของฉันตั้งไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนที่ สะอาดตลอดเพราะหม่าม้าคอยให้แม่บ้านดูแลอยู่ตลอดเวลา
สังเกตห้องของตัวเองเสร็จก็รีบล้มตัวนอนบนเตียงกว้าง ก่อนที่จะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเปิดเข้าไปในแอปพลิเคชั่นสีเขียวเพื่อทักทายคนที่ฉันคิดถึงไม่ต่างกัน
LINE สี่สาวสุดสวย(4)
ฉัน : ฮายค่าเพื่อนๆ พะพายกลับบ้านแล้วน่า
น้ำฟ้า : จริงเหรอพาย จะกลับไม่บอกกันเลย
ฉัน : หม่าม้าบินไปตามพายถึงนู้นเลย พายเลยต้องกลับ
เกรซ : แหม่ ก็เล่นเที่ยวไม่กลับบ้านกลับช่องเลยยัยพาย
เพียงขวัญ : จริง ว่าแต่มีของฝากพวกกูปะ
ฉัน : เรียนจบก็ต้องลั้ลลาหน่อยสิคะ ของฝากอะมีอยู่แล้วค่าา
เพียงขวัญ : ดีมากค่าคุณเพื่อน พรุ่งนี้เจอกันหน่อยไหมล่าา คิดถึงมึงว่ะอีพาย
เกรซ : เห็นด้วยค่า
ฉัน : โอเคหลังพวกมึงเลิกงานนะ น้ำฟ้าว่างหรือเปล่า
น้ำฟ้า : ว่างๆ
ฉัน : โอเค งั้นเย็นๆ เจอกันที่ห้าง kk นะคะเพื่อนๆ
ฉันนัดแนะอะไรกับเพื่อนๆ เสร็จก็ไปอาบน้ำนอน ตอนนี้เริ่มรู้สึกปวดหัวแล้วน่าจะเกิดจากอาการเจ็ทแลค ฉันเลยตั้งใจจะรีบเข้านอน
แต่พยายามข่มตานอนมากแค่ไหนสุดท้ายดวงตากลมก็ไม่ยอมหลับให้ฉัน เพราะสมองมันคอยสั่งการให้ฉันคิดเรื่องบางอย่างอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ที่แทรกเข้ามาในหัวเกี่ยวกับอดีตที่เจ็บปวดจนฉันไม่สามารถนอนหลับได้ลง
ถ้าเราเจอกันอีก ฉันจะทำยังไง?
คำถามวนๆ ซ้ำๆ ในหัวยิ่งทำให้ใจฉันเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง จนไม่นานความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทางในวันนี้ก็ทำให้ฉันหลับลงได้ในที่สุด
ตอนเช้า
"ตื่นซะสายเลยนะพาย" เสียงหวานพูดขึ้นจนฉันก้มดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้อย่างเรียกว่าเช้าเลย เรียกว่าเที่ยงแล้วจะดีกว่า เพราะกว่าฉันจะตื่นได้ก็ปาไปสิบเอ็ดโมงเสียแล้ว
"เจ็ทแลคค่ะม้า นอนไม่ค่อยหลับ"
"แล้วเป็นยังไงบ้าง ยังปวดหัวหรือเปล่า"
"ไม่ปวดแล้วค่ะ"
"ป๊าม้า…หนูไปดูคอนโดนะคะ แล้วเลยไปเจอเพื่อนที่ห้างด้วยค่ะ"
"ให้ลุงร่วมไปส่งก่อนไหม เรายังไม่ชำนาญทางหนิ"
"ไม่เป็นไรค่ะ พายสำรองเวลาไว้แล้ว ขับรถเองจะได้ศึกษาเส้นทางด้วย พายไปนะคะ" ว่าจบฉันก็รีบเดินออกจากบ้าน เปิดประตูรถป้ายแดงเข้าไปนั่งพร้อมใช้งานวันแรกด้วยความตื่นเต้น แต่ที่ตื่นเต้นมากกว่าคือฉันจะได้เจอหน้าสี่สาวสุดสวยเพื่อนสมัยมัธยมแล้ว ไม่ได้เจอกันนานมากมีเรื่องร้อยแปดพันเก้าที่ต้องเมาท์แน่นอน
แต่ก่อนไปต้องไปตรวจเช็คคอนโดก่อน ฉันรีบเปิดเส้นทางไปคอนโดที่เฮียพร้อมส่ง เห็นว่าเป็นคอนโดของเพื่อนสนิทที่เคลมไว้ว่าหรูหราถูกใจฉันแน่นอน
ซึ่งฉันจะเชื่อก็ต่อเมื่อได้เห็นกับตาเท่านั้นแหละ รีบมุ่งตรงขับรถตามเส้นทางที่สุดแสนจะงุนงง ใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วโมงทั้งที่ในแอปบอกแค่สามสิบนาที
หลงไปตามระเบียบ
ความหัวเสียทำให้ฉันรีบกดลิฟต์ขึ้นไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ถ้ารู้ว่ารถจะติดและขับยากขนาดนี้ฉันให้คนขับรถมาด้วยดีกว่า หงุดหงิดชะมัดเลย…
ไม่นานลิฟต์หรูก็พาฉันมาถึงชั้นสูงสุดของคอนโด ความหงุดหงิดใจของฉันหายไปทันทีที่เห็นห้องของฉันสวยมากๆ ฉันรีบเปิดม่านเชยชมวิวทิวทัศน์ที่เห็นทั่วกรุงเทพ เฟอร์นิเจอร์ในห้องครบคัน ตกแต่งหรูหราพร้อมอยู่ชอบใจฉันมาก
แถมชั้นนี้ยังมีแค่ห้องเพียงสองห้องเท่านั้น และดูเหมือนว่าห้องข้างๆ ฉันจะใหญ่กว่าเพราะระเบียงที่ติดกันกว้างกว่าห้องฉันอีก แถมยังมีต้นไม้ตกแต่งสวยงามจนฉันอยากอยู่ห้องนั้นแทน
ฉันชะโงกพยายามมองเข้าไปอีกห้องเผื่อจะเห็นเจ้าของเพื่อทำความรู้จักสร้างมิตรภาพ ฉันมั่นใจว่ามีคนอยู่เพราะต้นไม้ดูได้รับการดูแลมาอย่างดี
จนฉันพยายามมองก็เหมือนว่าตอนนี้เจ้าของห้องจะไม่อยู่ ฉันเลยเลิกพยายามแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องตัวเอง ค่อยทักทายเอาวันหลัง…