บทที่ 04 นักธุรกิจไฟแรง
ฉันทำงานล่วงเลยมาจนถึงเวลาหนึ่งทุ่ม อ่า…นี่แค่วันแรกก็เหนื่อยสุดๆ แล้วแฮะ บิดไล่ความเหนื่อยล้าชั่วครู่ก็รีบเก็บของใส่กระเป๋ากลับคอนโด วันนี้อารมณ์อยากทำอาหารง่ายๆ ทานเองก็มา ยัยพะพายเลยต้องแปลงโฉมจากผู้บริหารสุดเฟียต เป็นแม่บ้านแม่เรือนสะแล้วสิ
ฉันเดินเลือกซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตราวกับคนจะทานด้วยกันสิบคน การทำอาหารเหมือนได้ระบายความเครียดเลย ยิ่งเวลาได้ช็อปปิ้ง เพลินจนลืมความทุกข์ในตอนเช้าไปเลย
ครืดดดดด!
ในระหว่างที่กำลังทานข้าวอยู่ๆ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น ฉันรีบเปิดมาดูเล่น ขมวดคิ้วเล่นน้อยกับชื่อไลน์ที่ฉันไม่ค่อยคุ้นชื่อ
LINE(NANONT)
คุณนนท์ : วันนี้ไม่มาทานข้าวเย็นที่ร้านเหรอครับ?
รูปโปรไฟล์และข้อความทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าเขาคือใคร เจ้าของร้านอาหารคนนั้น
ฉัน : วันนี้คงไม่แล้วค่ะ พอดีฉันพึ่งเลิกงาน
คุณนนท์ : วันนี้ผมคงรอเก้อเลยนะครับ
ฉัน : คุณนนท์รอฉันเหรอคะ?
คุณนนท์ : ครับ
ฉัน : ไว้โอกาสหน้าฉันจะไม่พลาดค่ะ
คุณนนท์ : ได้ครับ เจอกันครับ
ฉันกดออกจากห้องสนทนาของคุณนนท์ นี่เขาดูชัดเจนมากเลยว่าจะจีบฉัน ส่วนฉันอาการตื่นเต้นที่ได้เห็นข้อความจากเขากลับไม่มีเลย แตกต่างจากเขาคนนั้นที่แค่เห็นหน้าใจฉันก็เต้นตึกตึกระรัว
ตอนเช้า
เช้าวันสดใสวันที่สองที่ฉันจะต้องไปทำงาน แต่ก่อนไปอาบน้ำขอออกไปยืนรับลมจากระเบียงก่อนแล้วกัน ฉันยืนบิดขี้เกียจแล้วสูดอากาศข้างนอกลงปอด ดวงตามองไปทางท้องถนนที่เห็นการจราจรติดขัดในกรุงเทพความรู้สึกสดชื่นก็หายไปในทันที
เฮ้อ…ชีวิตในกรุงน่าเบื่อจัง
บ่นไปก็เท่านั้นสุดท้ายก็ต้องไปทำงานอยู่ดี ฉันที่กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องนอนชะงักกับระเบียงห้องที่อยู่ตรงข้าม เห็นแก้วกาแฟวางไว้บนโต๊ะข้างนอกสงสัยเขาคงจะออกมารับลมเหมือนกัน อยากอยู่รอทักทายนะ แต่ถ้าช้ากว่านี้ฉันอาจจะไปทำงานสายได้
"วันนี้มีออกไปพบลูกค้าเวลาสิบเอ็ดโมงแล้วก็ต้องเซ็นเอกสารนิดหน่อยค่ะ" พี่นุ่นรายงานตารางวันนี้ให้ฉันฟัง ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วก้มลงอ่านรายละเอียดที่ต้องไปคุยกับลูกค้า บริษัทฉันเป็นบริษัทเกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องเพชร พลอย อัญมณีต่างๆ ฉันต้องศึกษาไว้มากๆ เพราะลูกค้ารายใหญ่ไม่ใช่ย่อยเลย
.
.
"ทางเรายินดีที่ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ อย่างคุณพะพายนะคะ" การเจรจาธุรกิจกับลูกค้าลุล่วงไปอย่างไม่น่าเชื่อ ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ฉันคาด เพราะฉันมั่นใจว่าฉันศึกษาลูกค้าคนนี้มาเยอะพอสมควร งานแรกฉันไม่ควรพลาด
"ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจบริษัทเรา" ฉันก้มหัวเล็กน้อยเพื่อขอบคุณลูกค้า แล้วหันไปยิ้มให้พี่นุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ พี่นุ่นก็ยิ้มกลับให้ จากนั้นเราก็ทานอาหารด้วยกันแล้วกลับมาทำงานต่อ
.
.
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กับการทำงาน และแล้ววันนี้ก็เป็นวันหยุดของฉัน ฉันนอนกลิ้งอยู่บนที่นอนอย่างสบายใจเฉิ่ม ไม่ได้นอนตื่นสายมาหนึ่งสัปดาห์เต็มแล้ว มันสบายแบบนี้นี่เอง
แต่ตามตารางวันนี้ฉันนัดเพื่อนไว้ ต้องรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะเรานัดกันจะไปร้านน้ำฟ้า ตั้งแต่เพื่อนเปิดร้านยังไม่ได้ไปแสดงความยินดีเลย
@ร้านคาเฟ่ 'สายน้ำ'
"อ้าว…พะพายมาแล้วเหรอ มานั่งๆ" น้ำฟ้าเดินมาทางฉัน แล้วลากมือให้ฉันลงนั่งที่เก้าอี้ของร้าน ฉันกวาดสายตามองบรรยากาศการตกแต่งร้านโทนสบายตา สวยมากสมกับเป็นร้านในฝันของเธอเลย
"ร้านสวยจังน้ำฟ้า" ฉันเอ่ยชมน้ำฟ้า ที่แววตาดูมีความสุขมากเมื่อมองดูร้านตัวเอง
"ขอบคุณนะ พะพายทานอะไรเดี๋ยวน้ำฟ้าไปทำให้"
"เอาสตอเบอร์รี่ปั่นกับเค้กชาเขียว" ว่าจบเพื่อนตัวเล็กก็รีบเดินไป ตามด้วยเสียงอันเสียงดังของเพื่อนที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะเสียงดังก่อนเจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก
"ฮายค่า…คุณเพื่อน" ยัยเกรซคนดีคนเดิม มาพร้อมกับเพียงขวัญที่กลอกตาใส่ด้วยความเอือมระอา
"มึงเบาๆ หน่อยได้ไหมเกรซ เดี๋ยวลูกค้าร้านน้ำฟ้าก็หายหมดหรอก" ทันทีที่เกรซนั่งลงข้างๆ ฉันก็พูดขึ้นทันที
"เวอร์ไปพาย น้ำฟ้าอะ"
"นู้น…ทำน้ำให้กูอยู่ มึงเดินไปสั่งดิ" ฉันชี้ไปทางน้ำฟ้าที่กำลังทำน้ำสตอเบอร์รี่ปั่นให้ พร้อมกับลูกน้องในร้านสองสามคน
"มึงน้องว่าน้องน้ำฟ้าหล่อปะ" ยัยเกรซพูดขึ้น แต่สายตายังคงจับจ้องน้องน้ำหนาวอยู่
"ให้น้องเขาไปมีอนาคตที่ดีเหอะเกรซ" เพียงขวัญพูดขัดขึ้นทำให้ยัยเกรซหันขวับมามองแล้วทำตาขวางใส่เพียงขวัญเลย
"ฮ่าๆ…เออกูเห็นด้วย" แล้วฉันกับเพียงขวัญก็หัวเราะออกมาโดยที่มียัยเกรซคอยทำตาขวางใส่พวกเราไม่เลิก แต่ฉันกับเพียงขวัญก็ทำเป็นไม่สนใจ
พวกเรานั่งเม้ามอย ถ่ายรูปกันสักพัก โดยที่น้ำฟ้าเดินมาคุยบ้างเป็นบางช่วง สลับกับรับลูกค้าบ้าง แล้วแยกย้ายกันกลับ ฉันว่าจะกลับไปหาม้าสักหน่อย รับปากไว้ว่าจะกลับบ่อยๆ ถ้าไม่โผล่หน้าคงด่าเจ็ดวันแปดวัน
"เป็นไงคะลูกสาว ทำงานได้ไหม" ผู้เป็นแม่เดินมานั่งด้านข้างแล้วลูบหัวถาม
"ได้ค่ะม้า ลูกสาวม้าอะเก่งอยู่แล้ว" ฉันบอกม้าพร้อมกับยิ้มตาหยีให้
"ดีแล้วแหละ งั้นวันนี้อยู่ทานข้าวเเย็นกับม้านะ" พูดจบม้าก็เดินเข้าไปในครัว ส่วนฉันก็เล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลาสลับกับเดินเข้าไปช่วยในครัวบ้างเป็นบางครั้ง
"ทำงานเป็นยังไงบ้างพะพาย ช่วงนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" หัวโต๊ะพูดเสียงเข้มแล้วปรายตามองฉันในระหว่างทานข้าว
"ไม่มีค่ะป๊า"
"เอ่อ…ป๊าคะ"
"??"
"บริษัทเรามีผู้ถือหุ้นคนใหม่เหรอคะ?" ฉันตัดสินใจถามในสิ่งที่ยังค้างคาในใจ แล้วอยากรู้คำตอบด้วยว่าเขาเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
"อืม คุณคมสันพึ่งขายหุ้นเพราะธุรกิจล้มละลาย ป๊าตั้งใจจะซื้อต่อ แต่ก็มีคนมาตกลงซื้อก่อนป๊า นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงไว้ใจได้ แถมเรายังรู้จักเขาอย่างดี ก็เลยไม่ได้ขัดอะไร ลูกมีอะไรหรือเปล่า?"
"เปล่าค่ะ"
ฉันคิดถึงเรื่องนี้มาตลอดทาง ถ้าเป็นผู้ถือหุ้นจริงจังงั้นแสดงว่าฉันต้องเจอกันตลอดงั้นเหรอ?
ครืดดดดดด!
LINE(NANONT)
พี่นนท์ : วันนี้เหงาแย่เลย พายไม่มาทานข้าวที่ร้าน
ฉัน : เดี่ยวพรุ่งนี้เข้าไปค่า
พี่นนท์ : โอเคครับ งั้นเราไปนอนเถอะ ฝันดีครับ
ฉัน : ฝันดีค่ะ