บทที่ 1 นรกบนดิน
เพี้ยะ!!เพี้ยะ!!
“อย่าหลบ!! อีเด็กเนรคุณ”
“ฮือออ ป้า!! พอแล้ว หนูเจ็บ ฮือออ”
“เจ็บงั้นหรอ! หนังด้านอย่างมึงไม่เจ็บหรอก ยืดตัวให้กูฟาดเดี๋ยวนี้!!”
“ฮือออ ไม่เอาแล้วป้า! พอแล้ว ฮือออ หนูขอโทษ หนูขอโทษ”
เด็กสาวตัวเล็กหวีดเสียงสั่น ยกมือพนมไหว้ขอโทษซ้ำๆ ในความผิดที่ไม่ได้ก่อ หญิงวัยกลางคนที่โมโหจนหน้ามืดตาบอดไม่รอฟังคำอ้อนวอนใดๆ ฟาดไม้เรียวลงกลางแผ่นหลังซ้ำๆ จนเลือดชุ่มเสื้อ พลางกระทืบเท้าใส่ร่างเด็กสาวที่งอตัวด้วยความเจ็บปวดอย่างไร้ความปราณี
ตุ้บ! ตุ้บ!
“แอ้ก อย่าทำหนู ฮืออออ หนูขอโทษ หนูขอโทษ“
เด็กสาวร้องไห้แทบขาดใจ หมอบคลาน กราบเท้าคนเป็นป้า ให้หยุดการกระทำที่ป่าเถื่อน
“อย่ามาแตะกู อีสันดาน! เลี้ยงเสียข้าวสุก มึงกล้าดียังไงมาอ่อยผัวกู”
“ฮืออ หนูไม่ได้ทำ ฮึก หนูไม่ได้ทำจริงๆ นะป้า ฮืออออ”
“กางเกงในมึงอยู่ในห้องผัวกู ยังจะแถอีกหรอ! มานี่!!”
“กรี้ดดดด !! ป้า หนูเจ็บ ฮือออออ”
มือหยาบคว้าทึ้งเส้นผมเด็กสาว แล้วลากไปตามทางเดินในบ้าน เธอพยายามดิ้นสู้ แต่ร่างอันบอบช้ำนั้นเหลือแรงเพียงเพื่อหายใจเท่านั้น
ผู้เป็นป้าเหวี่ยงตัวเธอให้ตกตามชั้นของบันไดใต้ดิน พลางมองด้วยสายตาแห่งความอาคาต แค้นเคือง ไม่สนว่าเด็กสาวตัวเล็กๆ จะอยู่หรือตาย
พลั้ก พลั้ก พลั้ก พลั้ก
ตุ้บ!
ร่างที่แทบจะไร้แรง กระแทกกับพื้นบันไดในขั้นสุดท้าย เสียงโหยหวนที่แทบขาดใจเงียบไป ภาพตรงหน้าขาวโพลน น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลไม่ขาดสาย ของเหลวกลิ่นคาว สีแดงฉานค่อยๆ ซึมออกจากศรีษะ
“ไม่ต้องแดกข้าว! สำนึกอยู่ใต้ดินไปซะมึง”
ปั้ง!!!!
‘....นี่คือนรกบนดิน ที่ฉันต้องจำยอมโดนกระทำอยู่บ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ’
“ใบหวาน” เด็กสาวที่เคยเป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงาม บอบบางและน่าทะนุถนอมของพ่อแม่ ต้องรับกรรมตกอยู่ในขุมนรกอย่างเลือกไม่ได้
ฉันเสียพ่อแม่จากเหตุระเบิดในโรงงานที่ประเทศไทย ด้วยที่ฉันอายุเพียง 16 ปี ไม่มีญาติในไทยคนไหนอยากรับเลี้ยง ส่งเสียเด็กที่ไม่ใช่ลูกในไส้ของตัวเอง จะลาออกจากโรงเรียน ไปหางานทำก็ทำไม่ได้ เพราะฉันยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่สามารถตัดสินใจหรือทำธุรกรรมอะไรได้ทั้งนั้น
และนี่คือสาเหตุให้ป้าห่างๆ ที่อยู่เมืองนอกกับสามีของเขา แสดงตัวอุปการะฉัน แลกกับการมีที่ซุกหัวนอน มีข้าวกิน มีค่าแรงเล็กๆ น้อยๆ ฉันต้องย้ายมาอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ช่วยงานในร้านอาหารของพวกเขา
ตอนแรกฉันมีความหวัง ว่าคงไม่ต้องร่อนเร่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีใครต้องการแล้ว หลังย้ายมา ป้าดีกับฉันได้ไม่นาน งานที่มอบหมายเริ่มมากขึ้นและหนักขึ้นจนเหมือนเป็นการถูกบังคับใช้แรงงาน ไม่ใช่เพียงต้องทำงานที่ร้านอาหาร หลังเลิกงานต้องกลับมาทำงานบ้านด้วย และนั่นหมายถึงงานทุกอย่าง …ทุกอย่างเลยจริงๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งซักกางเกงในให้ลุงกับป้า
‘ด้วยเพราะถูกปลูกฝังให้รู้จักทดแทนบุญคุณคน’
ฉันไม่เคยเกี่ยงงานหรือออกปากบ่นเลยสักคำ กลับทำหน้าที่ตัวเองอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะเหนื่อยจนต้องแอบร้องไห้ทุกคืนก็ตาม และแล้วนรกก็เริ่มแง้มประตูรับฉัน…
ลุงฝรั่ง ที่ฉันเคยเคารพและไว้ใจ เริ่มมองแทะโลมร่างกายฉัน พยายามแตะเนื้อต้องตัวในมุมลับ เคยพยายามงัดประตูมาหาฉันในห้องนอน และปีนหลังบ้านเพื่อแอบดูฉันอาบน้ำ โดยอ้างว่า เมา
ป้ารับรู้เหตุการณ์แต่ก็ไม่เคยโทษลุงเลยสักครั้ง กลับเป็นฉัน …ที่ถูกโยนความผิดว่า ไปอ่อยสามีเขา การลงโทษรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่แค่ทำงานห้ามพัก อดข้าวหลายมื้อ ไปจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ กักขังที่ชั้นใต้ดินของบ้านเล็กๆ แห่งนี้
และเหตุการณ์นรกที่ฉันเผชิญอยู่ คือ ลุงแอบขโมยกางเกงในฉันไป ป้าคิดว่าฉันจงใจจะทำให้เขาแตกแยกกับสามี จึงลงไม้ลงมือกับฉันอย่างหนักจนแทบจะตายคาเท้า
ฉันพยายามแล้ว… พยายามหลบเลี่ยงทุกปัญหา และเคยคิดจะหนีหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ถูกสยบด้วย....ความกลัว
ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปใช้ชีวิตข้างนอก ในที่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีผู้คนที่ฉันรู้จักหรือไว้ใจ ภาษาไม่แข็งแรง ที่สำคัญด้วยอายุที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อให้หนีไปหาตำรวจ … เขาก็ต้องส่งฉันกลับมาหาผู้ปกครองอย่างป้าอีกแน่นอน
ทางเดียวที่ฉันทำได้ คือ ‘ต้องรอ’ ให้ตัวเองบรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย จึงจะสามารถหนีจากนรกแห่งนี้ได้ เท่านั้น
“ฮึก พ่อจ๋า แม่จ๋า ทำไมไม่เอาใบไปด้วย ฮือออ ใบไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว”
เสียงครวญครางเบาๆ ดังขึ้นในความมืด ร่างบางที่นอนแนบพื้นดินชื้นใต้บ้าน พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง กลิ่นอับตุของโคลน หนูและแมลงร้องผสานเสียงจนน่าขนลุก กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเต็มตัว แผลปวดร้าวจนหาที่เปรียบไม่ได้