ตอนที่ 3
“แน่นอนครับ”
ร่างท้วมใหญ่ขยับลงจากเตียง เพราะรู้ว่านัดลูกสาวเอาไว้ เย็นนี้จะออกไปกินข้าวนอกบ้านด้วยกัน แค่นี้ปั้นหยาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขืนชักช้ากว่านี้มีหวังว่าคุณหนูโวยวายบ้านแตกแน่ๆ
ในเวลาต่อมา
“หยาไม่ชอบอีป้าชบาคู่ขาคุณพ่อ... ต่อไปคุณพ่ออย่าให้มันมาที่บ้านอีกนะคะ”
ในขณะกำลังนั่งมาด้วยกันในรถ หญิงสาวกล่าวกับเสี่ยโชคผู้เป็นบิดาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด หน้าบูดหน้าบึ้งให้รู้ว่าโกรธ
“คุณชบาเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรให้หนูนี่นา... มาไม่นานเดี๋ยวเค้าก็กลับ”
เสี่ยโชคกล่าวขณะมือสาวพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้ามาจอดในลานจอดรถของร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งย่านชานเมือง
“น้อยไปสิคะ... ลับหลังคุณพ่อมันคงแอบด่าหยา มันคงอยากเข้ามาเป็นเมียคุณพ่อ”
ลูกหวงพ่อคิดกังวลไปไกล
“โธ่... เค้าจะด่าหนูทำไม ทุกครั้งที่มาน้าชบาก็ไม่ได้เข้ามายุ่มย่ามอะไรกับลูกนี่นา”
“ไม่รู้แหละ... หยาไม่ชอบหน้าอีป้าคนนี้ แล้วไม่ต้องให้หยาเรียกมันว่าน้า... เพราะว่าหย่าไม่เคยมีญาติแบบนี้”
เวลาโกรธ ปั้นหยามักจะปากร้ายอย่างที่เห็น เสี่ยโชคมองหน้าลูกสาวของตัวเองอย่างเข้าใจ ที่ผ่านๆ มาเขาตามใจลูกสาวคนนี้สารพัด เลี้ยงดูอย่างเด็กที่เติบโตมาอย่างไม่มีแม่ ด้วยแม่ของปั้นหยาเสียชีวิตไปนานแล้ว ตั้งแต่หล่อนยังเล็กๆ
“ดูทำหน้าเข้าสิ แล้วทำไมไปเรียกน้าชบาเค้าอย่างนั้น... ไม่น่ารักเลยลูก”
“ไม่รู้... หยาพอใจจะเรียกแบบนี้ใครจะทำไม คุณพ่ออย่าหวังเชียวนะว่าหยาจะยอมให้นังป้าบ้ากามนั่นมาแทนที่คุณแม่ของหยา”
ลูกหวงพ่อรีบสกัดเอาไว้ก่อน
“พ่อก็ไม่ได้คิดอย่างนั้น สำหรับพ่อไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน... ก็จะไม่มีใครเข้ามาแทนที่แม่ของลูกได้... อันที่จริงกับชบาพ่อก็แค่สนุกไปวันๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรนักหรอก”
“ให้มันจริงเถอะค่ะคุณพ่อ... หยารู้นะคะว่าคุณพ่อชอบผู้หญิงขาวอวบนมใหญ่แบบนั้น”
ปั้นหยารู้เพราะว่าคู่ขาคนก่อนของบิดาก็หุ่นแบบนี้ เนื้อนมไข่ นมใหญ่ สะโพกดินระเบิด
“แกนี่รู้ทันพ่อไปซะทุกอย่าง”
เสี่ยโชคกล่าวเขินๆ
“รู้สิคะ... ชอบนักนะพวกผู้หญิงนมใหญ่สะโพกใหญ่แต่สมองน้อยกว่าเม็ดถั่ว”
“อุ๊ย... ยัยหนู ทำไมเดี๋ยวนี้ปากร้ายจัง ไปได้ยินมาจากไหนนี่”
เสี่ยโชคตกใจ
“หยาได้ยินป้าช้อยด่าลุงยอดค่ะ”
เสี่ยโชคส่ายหน้าระอาใจ ที่แท้ก็จดจำมาจากคนในบ้าน ปั้นหยาปรายตามองหน้าบิดาแล้วเบะปากใส่
อีกชั่วโมงต่อมา
เวลาเกือบห้าโมงเย็น ขณะที่ ‘ไทเกอร์’ หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันรูปร่างสูงใหญ่กำยำ กำลังเดินอยู่ริมฟุตบาทอาบไปด้วยน้ำฝน โปรยปรายลงมาตั้งแต่ช่วงบ่าย จนป่านนี้ก็ยังไม่หยุด
“ลงมือเลย”
ขณะชายหนุ่มเดินผ่านรถมอเตร์ไซค์คันหนึ่ง จอดหลบอยู่ตรงมุมปากซอยเล็กๆ ไทเกอร์ได้ยินเสียงคนที่นั่งอยู่บนรถพูดคุยกัน เหมือนกำลังจะก่อเหตุร้ายอะไรสักอย่าง
ไทเกอร์เหลือบมองไปยังถนนอีกฟาก และพลันนั้นเอง สายตาคมกริบปะทะเข้ากับร่างท้วมใหญ่ของเสี่ยโชค กำลังจูงมือหญิงสาวหุ่นดี ทรวดทรงองเอวของหล่อนช่างอะร้าอร่ามสะดุดตา พากันเดินออกมาจากร้านอาหาร เพื่อจะข้ามมายังอีกฟากถนนที่แลเห็นรถเบนซ์คันหรูจอดอยู่ชิดฟุตบาท
ทว่าในทันทีที่เดินมาถึงรถ สองพ่อลูกยังไม่ทันจะเอื้อมมือเปิดประตูรถ จู่ๆ รถมอเตอร์ไซค์ปริศนาน่าสงสัยคันนั้น ก็บิดเร่งเครื่อง พุ่งเข้ามาทางด้านหลังหญิงชายต่างวัยด้วยความเร็วสูง
ไทเกอร์เดินเข้ามาใกล้เหตุการณ์โดยไม่ตั้งใจ เสียงปิดเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์เหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้าย พุ่งทะยานเข้าหาเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ด้วยทุกภาพเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในนาทีนี้ ล้วนตกอยู่ในสายตาของไทเกอร์ที่ผ่านมาเห็นเข้าโดยบังเอิญ หรืออาจเป็นเพราะโชคชะตาลิขิต ให้เขาต้องกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทุกอย่างไม่ได้ผิดไปจากสิ่งที่ไทเกอร์คาดคิดเอาไว้ มอเตอร์ไซค์คันนั้นเฉียดเข้ามาใกล้หญิงสาวเดินอยู่ใกล้บิดา ไอ้คนที่นั่งซ้อนอยู่เบาะหลังเอื้อมมือกระชากกระเป๋าสตางค์ในมือของหล่อน
“ว้าย... ชะ... ช่วยด้วย”