Intro
"ไหว้พี่เขาสิหนูอิม"
"สวัสดีค่ะพี่..." หนูน้อยมองหน้าคุณลุงที่บอกให้เธอไหว้ผู้ชายตรงหน้า แต่กลับไม่บอกชื่อให้เธอเรียก
"พี่เขาชื่อ อินทรี" ธนากรยิ้มขำที่เด็กน้อยตรงหน้าช่างใสซื่อเหมือนแม่เธอจริง ๆ
"สวัสดีค่ะพี่อินทรี หนูชื่ออิมเมจนะคะ" เด็กน้อยอิมเมจยิ้มร่าให้กับคนที่ตัวเองเรียกพี่
อิเมจเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน แต่ข้างบ้านเธอมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุห่างกันแค่ 2-3 ปี มาคอยเล่นด้วย พอมาเห็นอินทรีที่ดูโตกว่าเลยค่อนข้างสนใจพี่ชายคนนี้เป็นพิเศษ
พี่เขาตัวสูงจัง เมื่อไหร่อิมเมจจะโตเท่านี้นะ เด็กน้อยคิดในใจพร้อมมองพี่ชายที่ว่าตั้งแต่หัวจดเท้า เท้าจดหัว ใบหน้าคมคายดูหล่อเหลาตั้งแต่วัยรุ่น
"เธอเป็นใคร" พี่ชายที่เด็กน้อยอิมเมจทักทายถามขึ้นห้วน ๆ ใบหน้าเขาไม่มีความดีใจหรือตื่นเต้นใด ๆ เลยที่มีสาวน้อยมาเรียกตัวเองว่าพี่แบบนี้
"พี่อินทรีหน้าดุ ดุเหมือนนกอินทรีไหมคะคุณพ่อ" เด็กน้อยอิมเมจหันไปถามคนข้างหลัง สรรพนามที่เธอเรียกธนากรไม่มีใครสอนใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่ว่าเธอชินกับการเอ่ยคำนี้มาตลอดเท่านั้นเอง
"พ่อ? เธอเป็นลูกเมียน้อย"
"อินทรี ใครสอนลูกพูดแบบนั้น" ธนากรตวาดลูกชายเสียงดุ
แค่คำว่า 'ลูกเมียน้อย' ทำไมเด็กอายุ 14 ปีจะไม่รู้จักกันล่ะ ดีไม่ดีเขาชินกับคำนี้เสียตั้งแต่ 7 ขวบด้วยซ้ำ
ก็มีแม่พรรธนาคอยพร่ำบอกเสมอว่าเวลาพ่อออกไปข้างนอกจะไปนอนกกเมียน้อย และสักวันเมียน้อยก็จะมีลูกมาคอยผลาญสมบัติครอบครัวเขาอีกคน
"ลูกเมียน้อยคืออะไรคะ" เด็กน้อยอิมเมจถามด้วยใบหน้าสงสัยปนอยากรู้ด้วยความไร้เดียงสา
"คือ..." ธนากรไม่อยากจะอธิบายคำนี้ให้เธอรู้เลยจริง ๆ
"หมายความว่า แม่เธอเป็นผู้หญิงที่อยากได้ผู้ชายคนอื่นยังไงล่ะ"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะอินทรี!" ธนากรตวาดลูกชายเสียงลั่นห้องโถงใหญ่ ก่อนเสียงสะอื้นจากร่างสูงเพียงร้อยสิบสี่เซนฯ จะดังขึ้น
"ฮึก ฮือ ๆ แม่อิมไม่ได้แย่งพ่อ ไม่ได้แย่ง พะ พ่อนะ" เด็กน้อยอิมเมจร้องไห้โยเย ยกสองมือขยี้ตาไปมา ไหนจะน้ำมูกที่ไหลออกมาเพราะเธอร้องหนักเข้าไปทุกทีเมื่อคิดถึงแม่
"โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะลูกนะ" ธนากรนั่งยอง ๆ ข้างกายเล็ก โอบกอดร่างน้อยเข้ามากอดปลอบ
"เพราะแบบนี้ใช่ไหม วันที่แม่ตายพ่อเลยไม่มางานศพแม่เลย" อินทรีถามผู้เป็นพ่อเสียงแข็ง
พรรธนาจากพวกเขาทั้งคู่ไปได้ครึ่งปีแล้ว แถมวันที่แม่เสียจวบจนวันเผาศพ ธนากรยังไม่มาร่วมงานอีก แต่ใครจะบอกได้ล่ะ ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้มาร่วมงานในวันนั้น
ในเมื่อพรรธนาตระเตรียมทุกอย่างให้เขากลายเป็นคนผิดตั้งแต่แรกแล้ว วันที่พรรธนาให้หมอฉีดยาเพื่อให้เธอจากไปอย่างสงบด้วยโรคร้าย
เขาสั่งลูกน้องคนสนิทจับตัวธนากรไปขังไว้ให้ไกลจากที่นี่ และให้ปล่อยตัวเขามาหลังจากเสร็จสิ้นงานศพเธอไปแล้วสองวัน แค่นี้ก็ลงล็อกทุกอย่าง ธนากรกลายเป็นสามีที่เลวในสายตาญาติสนิทมิตรสหาย ไหนเลยจะกลายเป็นพ่อที่ไม่ดีในสายตาลูกชายอีก
"มันไม่ใช่อย่างที่ลูกคิด" ธนากรกลายเป็นคนน้ำท่วมปาก
จะบอกความจริงก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากให้อินทรีมองแม่ตัวเองเป็นคนไม่ดี
แต่ครั้นดื้อดึงจะเก็บเงียบไว้เขาก็มีแต่กลายเป็นคนผิดอยู่แบบนี้ไปตลอดในสายตาลูกชายเช่นกัน
"แล้วแบบไหนล่ะ ผมรอคำแก้ตัวจากพ่อมาครึ่งปีแล้วนะ"
อินทรีจ้องพ่อด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์ความรู้สึก
เขาเกลียดผู้ชายตรงหน้า แต่ก็ต้องการความอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
"พ่อว่าเราเลิกคุยเรื่องนี้เถอะ เดี๋ยวอิมเมจจะมาอยู่ที่นี่กับเราตั้งแต่วันนี้"
ธนากรยอมแบกรับความเข้าใจผิดนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว ก่อนจะอุ้มหนูน้อยอิมเมจที่ร้องไห้จนหลับไปในอ้อมกอดเขาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ขึ้นไปยังชั้นบน
"เป็นแบบที่แม่บอกผมเลย สักวันหนึ่งลูกเมียน้อยของพ่อต้องกลับมาทวงทุกอย่างของเราไป"
อินทรีมองตามหลังผู้เป็นพ่อที่เดินหนีเขาไปพร้อมเด็กผู้หญิงที่เขาเข้าใจว่าเป็นลูกสาวอีกคนของพ่อตนเอง แถมยังมีศักดิ์เป็นน้องคนละแม่กับเขาอีกต่างหากด้วยสายตาเกลียดชังคนทั้งคู่
เขาเกลียดพ่อ... ที่ไม่ดูดำดูดีทำให้แม่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจจวบจนวินาทีสุดท้าย
เขาเกลียดเธอ... ที่เข้ามาทำลายชีวิตครอบครัวเขาจนย่อยยับ
และเขาสาบาน... นับตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป เขาจะเอาคืนเธอแทนแม่ที่จากไปอย่างสาสม จะให้เธอชดใช้บาปที่แม่เธอแย่งเสาหลักครอบครัวเขาไปอย่างไม่ให้อภัย
"ตอนนี้ฉันจะยอมเรียกเธอว่าน้อง แต่เมื่อฉันทำเธอท้อง จะขยี้เธอด้วยคำว่า 'เมียน้อย' "
นั่นคือสิ่งที่อินทรีให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง