ex-boyfriend 2 : นอส × เวย์
[Vela Talk]
“ว่าไงครับ คุณเวฬาคิดว่านอสน่ารักมั้ย” นายแว่นนี่อยากจะเอาคำตอบให้ได้เลยหรือไงกัน
“ก็น่ารักดี ซื่อบื้อ ๆ ดูเชื่อง ๆ เหมือนมารีของฉัน” มารีคือหมาที่ฉันแอบเก็บมาเลี้ยง แล้วสุดท้ายมันก็โดนเอาไปปล่อย เพราะมันกัดคนในบ้าน เพียงเพื่อปกป้องฉัน วันนั้นฉันเสียใจมาก แต่ด้วยสถานะอย่างฉันจึงพูดอะไรไม่ได้ ที่ทำได้คือร้องไห้พร้อมมองสายตาเศร้า ๆ ของมารีจนกระทั่งหายวับไป
“มารีคือเพื่อนเหรอครับ” นายแว่นทำหน้าสงสัย ระหว่างที่ฉันจุ่มสำลีลงที่เบตาดีน ถามว่ามารีคือเพื่อนไหม ก็ต้องใช่อยู่แล้ว เพื่อนสี่ขาของฉัน
“ใช่ เพื่อนที่สำคัญที่สุด และดีที่สุดในชีวิตฉัน” ฉันนำสำลีที่ชุบเบตาดีมาแตะที่บาดแผลของเขา ฉันจ้องมองบาดแผล แต่เขาน่ะจ้องมองหน้าฉัน
“งั้นนอสก็เป็นคนสำคัญของคุณเวฬาเหมือนกันใช่มั้ยครับ” นายแว่นจับมือฉันให้หยุดทำแผล
“ทำไมนายถามอะไรตลกแบบนี้ นายจะสำคัญกับฉันได้ยังไง” ฉันดึงมือออกแล้วทำแผลต่อ
“ก็คุณเวฬาบอกว่านอสเชื่องเหมือนคุณมารีเพื่อนที่สำคัญของคุณเวฬาไงครับ ถ้าเหมือนกันก็แสดงว่าสถานะก็เหมือนกันด้วย นอสเข้าใจถูกใช่มั้ยครับ” นายแว่นนี่ไม่รู้เรื่องหรือว่าขี้ตู่โมมะโมเมกันแน่
“นายอย่ามาแกล้งตีเนียนนอส แล้วก็นะ…” ฉันโน้มหน้าเข้าใกล้นายแว่นมากกว่าเดิม หวังจะแกล้งให้นายแว่นนี่เสียงสั่น
“อะไรครับ” แทนที่จะขยับหน้าหนี แต่นายแว่นนี่กลับยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ กลายเป็นฉันที่ต้องขยับถอยออกแทน
“เลิกเรียกฉันว่าคุณทีเถอะ ฟังแล้วจักจี้ยังไงไม่รู้”
“ไม่ได้หรอกครับ เพราะนอสชอบแล้ว” นายแว่นนี่พูดแล้วยิ้ม
“ชอบอะไรของนาย”
“ก็ชอบ…”
ดื่อดือดือ ดือดื่อ ดือดื้อดื่อ ดือดื้อดือดื่อ…
“เวรแล้วไง คาบนารีรัตน์แล้วนอส ไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน” ฉันหุนหันลุกขึ้นเก็บอุปกรณ์ทำแผลให้เรียบร้อย จากนั้นก็รีบเลยล่ะ วิชาอื่นหาข้ออ้างได้ แต่วิชาที่มีครูเป็นเพื่อนกับผู้ปกครอง ฉันจะไม่ตั้งใจเรียนไม่ได้
ฉันชื่อ ‘เวฬา’ ชื่อนี้ได้มายังไงไม่รู้ ฉันเรียนโรงเรียนดังที่เด็กหลายคนใฝ่ฝัน ตอนนี้ฉันอยู่ ม.4 อายุ 16 ปี เรียนที่นี่ตั้งแต่ ป.2 ครอบครัวของฉันเป็นผู้ดีมีเงิน เวลาโรงเรียนต้องการงบ ต้องการการบริจาค ครอบครัวของฉันจะบริจาคด้วยเงินที่มากมายเสมอ ประมาณว่าหน้าใหญ่ใจโตอะไรเทือกนั้น
ที่กำลังวิ่งอยู่ข้างฉันในตอนนี้ก็นายแว่นนักเรียนหน้าห้อง ผู้ชายซื่อบื้อ ฉันเข้าเรียนป.2 ก็มีเขานั่งอยู่หน้าห้องเรียนเป็นประจำ เราได้อยู่ห้องเดียวกันตลอด และเราไม่เคยคุยกันเกินสิบครั้งต่อวัน บางวันก็ไม่ได้คุยกัน
แต่จู่ ๆ นายแว่นนี่ก็โดนเพื่อนรีดไถเงิน จากที่ฉันเจอคือ 4 ครั้ง นับจากผ้าเช็ดหน้าที่ฉันเอาให้เขาเช็ดบาดแผลอะนะ ซึ่งไม่รู้ว่าที่ฉันไม่เจอจะโดนกี่ครั้ง
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงชอบรังแกคนไม่มีทางสู้ ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้เอาซะเลย มันไม่ยุติธรรม
“ฉิวเฉียด นี่ถ้าเข้าไม่ทันฉันจะให้นายรับผิดชอบนะนอส โอ๊ย… เหนื่อย” ฉันขึ้นบันไดมาถึงชั้น 5 ของตึก 6 ด้วยอาการเหนื่อยหอบ วิ่งมาตั้งแต่ ตึก 3 เพราะห้องพยาบาลอยู่ติดตึก 3 ระยะทางจากตึก 3 ถึงตึก 6 ไม่ใช่ใกล้ ๆ
“เหงื่อแตกเลยครับคุณเวฬา” นายแว่นนี่ยื่นมือมาเช็ดเหงื่อที่ไหลตามใบหน้าให้ฉัน
“ฉันทำเองได้” ฉันปัดมือออกอย่างเร็วไว คือฉันเป็นโรคแตะตัวคนอื่นได้ แต่ถ้าคนอื่นมาแตะตัวจะสะดุ้ง
“ขอโทษครับ” นายแว่นนี่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ซะงั้น ท่าทางเหมือนมารีเวลาโดนฉันดุเพราะชอบเอากิ๊ฟหนีบผมของฉันมากัด
“คือไม่ใช่ความผิดนาย คือฉันแค่ตกใจเวลาที่คนแตะตัวแบบไม่ทันตั้งตัวน่ะ นายอย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้สิ ฉันใจไม่ดี” ทำไมฉันต้องรีบอธิบายอะไรแบบนี้ด้วยนะ อาจจะเพราะนายแว่นนี่เหมือนมารีของฉันจริง ๆ แหละมั้ง “เข้าห้องเรียนเถอะ เดี๋ยวนารีรัตน์มาถึงก่อน” ฉันพยักหน้าให้นายแว่นที่กำลังยิ้มให้ฉัน นายนี่ปกติดีไหมนะ เมื่อกี้ทำหน้าจะร้องไห้อยู่เลย
“เดี๋ยวครับ” ฉันที่กำลังจะก้าวเดินต่อต้องชะงักเมื่อชายเสื้อนักเรียนโดนดึงไว้
“อะไร”
“เราเป็นเพื่อนกันใช่มั้ยครับ”
“ก็ใช่ไง เราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ป.2 แล้วมั้ย”
“นอสหมายถึงเพื่อนคนสำคัญ มากกว่าเพื่อนร่วมห้องคนอื่น หรือคุณเวฬาไม่อยากเป็นคนสำคัญกับนอสเหรอครับ” นายแว่นนี่ทำหน้าจะร้องไห้อีกแล้ว แววตาเหมือนตอนที่มารีกำลังโดนแยกจากฉันครั้งสุดท้ายเลย
“ก็ได้ ก็ได้ ฉันให้นายสำคัญเหมือนมารีก็ได้ แล้วก็เรียกฉันว่า ‘เวย์’ แทนเวฬาด้วย นี่นายควรดีใจนะ เพราะมารีไม่เคยเรียกฉันแบบนี้ ฉันให้นายมากกว่ามารีอีกนะเนี่ย” มารีจะเรียกได้ไงล่ะ ในเมื่อมารีพูดไม่ได้ มีแค่ฉันที่แทนตัวว่าเวย์เวลาพูดกับมารี
“จริงเหรอครับ” นายแว่นทำหน้าดีใจเกินหน้าเกินตาเลยล่ะ
“ใช่น่ะสิ จะเข้าเรียนได้ยังอะ เดี๋ยวนารีรัตน์ก็มาถึงก่อนพอดี ชวนฉันคุยอยู่ได้”
“ครับ เข้าเลยครับ”
“อืม ก็เดินดิ นายจะยิ้มอะไรนัก”
“ก็นอสดีใจไงครับ ดีใจก็แค่ยิ้ม” แต่เศร้าใจก็ต้องยิ้มเหมือนกันนั่นแหละ เรื่องปกติของโลกใบนี้
“นี่ ๆ นายไม่ถามหน่อยเหรอว่ามารีคือใคร” ระหว่างทางเดินไปห้องเรียนนั้นฉันก็ถามขึ้น เพราะนายนี่ดูจะไม่สนใจว่าใครคือมารี
“ไม่ครับ เพราะตอนนี้นอสสำคัญกว่าคุณมารี คุณเวฬาให้นอสเรียกว่าคุณเวย์ แสดงว่านอสสำคัญกว่าใคร ๆ เพราะเพื่อนในห้องไม่มีใครเรียกคุณเวย์แบบนี้ คุณเวย์ของนอส” นายแว่นนี่ดูจะพอใจเอามาก ๆ
“ถ้าเอาคำว่า ‘คุณ’ ออก ให้เหลือแค่ ‘เวย์’ จะดีมาก ๆ เลยนะนอส”
“จริงเหรอครับเวย์” ยิ้มให้ฉันอีกแล้ว
“อื้ม แล้วก็นะ…” ฉันหยุดยืนและมองหน้านายแว่น ฉันยิ้มให้เขา ก่อนจะบอกว่า “มารีคือหมาของฉัน”
“…” สีหน้าตอนนี้ของนายแว่นคือตลกมาก ๆ ฉันปล่อยนายนั่นไว้ตรงนั้น แล้วเดินต่อ กระทั่งถึงหน้าห้องเรียน นายแว่นก็ยังไม่ตามมา ฉันจึงหันกลับไปมอง ได้เห็นว่านายแว่นยืนมองฉันอยู่ที่เดิม
“นอส มาเร็วเดี๋ยวไม่ทัน” เป็นฉันที่ต้องกวักมือเรียก นายแว่นส่งยิ้มให้ฉันแล้วรีบวิ่งมา
บางทีนายแว่นก็เหมือนมารีซะจริง ๆ
[End Vela]