บท
ตั้งค่า

Dangerous 2 (2): ผนึก

“ของขวัญให้พี่หมอคีย์ไง” ฉันแสยะยิ้มร้าย

“ถ้าบอกของขวัญ กูสยองแทน” ไอ้ป๊อกทำท่าลูบตามขนแขนของตัวเอง

“สยองอะไร มาดูถูกของขวัญที่หนูจีนอุตส่าห์อดหลับอดนอนทำให้พี่หมอคีย์ได้ยังไง” ฉันตั้งท่าจะกัดเพื่อน

“แต่ก่อนอาจจะใช่ ของขวัญทุกชิ้นที่มึงทำ ล้วนทำด้วยใจ แต่เดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ที่รอยสักเริ่มเกิดขึ้นทีละรูป ทีละรูป จิลลาคนนั้นก็ค่อย ๆ หายไปพร้อมกับการเกิดใหญ่ของรอยสักตามร่างกายมึง” นี่เสียงของไอ้ปลื้ม ผู้ชายขี้บ่นที่สุดในกลุ่ม

“หยุด!!! หยุดค่ะไอ้คุณปลื้ม เลิกบ่น แล้วไปช่วยแม่มึงขายขนมจีนที่ตลาดกัน”

“ฮึ” เพื่อนชายทั้งห้าของฉันเค้นเสียงขำในลำคอพร้อมกัน

ไม่มีเพื่อนคนไหนกล้าขัดฉัน อาจจะเพราะว่าฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม หรืออาจจะเป็นเพราะการที่เหล่าเพื่อนห้า ป. รับฉันเข้ากลุ่ม เป็นเพราะพี่ทิวต้องการให้ปกป้องฉัน

แล้วคือไอ้เปรย ไอ้ป๊อก และไอ้ปลื้มมัน 3 คนไม่ใช่พี่น้องกัน แต่ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันแล้วชื่อ ป. ปลาเหมือนกัน ก็เพราะการรวมตัวสุดแปลก ด้วยความคิดของพี่ชายคนโตของฉัน

ซึ่งก็ไม่รู้พี่ทิวเจอพวกนี้ได้ยังไง ฉันไม่เคยถามสักครั้ง

‘นี่คือเพื่อนของจีน พวกนี้จะดูแลจีนระหว่างที่พี่ไม่อยู่ จะไม่มีใครทำร้ายจีนได้’

มันเป็นคำพูดของพี่ทิว เมื่อ 4 ปีก่อน พี่ทิวพาผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉันมาแนะนำให้ฉันรู้จัก จะมีที่ห่างกันก็คือปอง แต่เพราะปองเรียนเก่ง ปองจึงเรียนเทียบเท่ากับพวกฉัน

พี่ทิวบอกว่านี่คือเพื่อนที่ไว้ใจได้มากที่สุด และจะเรียนกับฉันไปตลอด ไม่ว่าฉันจะตัดสินใจเรียนที่ไหน

ปัจจุบันพวกนี้ก็เลยเป็นเพื่อนฉัน เกือบ 5 ปีได้แล้วมั้ง

เพื่อนที่ดี เพื่อนแบบที่ฉันไม่เคยมีมาในชีวิต

เมื่อ 3 ปีก่อนฉันเคยสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย ถามน้าจา หรือตายาย พ่อแม่ ปู่ย่า หรือแม้กระทั่งพี่ชายทั้งสอง ทั้งพี่เคลิ้ม และพี่ทิว ถามทุกคนก็ไม่มีใครตอบฉันได้

แต่แล้วความสงสัยของฉันก็ถูกคลี่คลายด้วยตัวของฉันเองเมื่อปีก่อน

ตั้งแต่นั้นมารอยสักก็เริ่มผุดขึ้นตามร่างกายของฉันทีละรูป ทีละรูป

และรูปกลางหลังคือรูปใหญ่สุด

และแน่นอนว่ามันคือผลงานที่ฉันภูมิใจมากๆ

ฉันอายุ 20 ปี เรียนวาดรูปที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตอนที่เข้าฉันแค่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร ก็เลยเลือกวาดรูป ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่วาดออกมาตามจินตนาการของฉัน

ฉันอยากจะเรียนอะไร ครอบครัวของฉันไม่เคยห้าม ฉันเคยสงสัยว่าทำไมไม่ห้าม แต่ก็ไม่เคยคิดถาม เพราะคิดว่าถามไปก็ไม่มีทางได้คำตอบ

แล้วการเรียนวาดรูปของฉัน ก็ได้ทำประโยชน์ให้ฉันจนได้

ความทรงจำเลวร้ายที่ถูกผนึกไว้ หวนกลับเข้ามาหาฉันทีละนิด ทีละนิด จนครบทุกอย่าง เหมือนภาพจิกซอว์ค่อย ๆ ถูกถ่ายทอดจากความทรงจำสู่การวาดลงบนแผ่นกระดาษมากมาย

บอกตามตรงว่าเจ็บปวด และเกลียดตัวเองในอดีตมาก

สิ่งที่เยียวยาความเจ็บปวดของฉันได้คือทำให้ร่างกายที่น่ารังเกียจนี้เจ็บปวด

การสักจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เมื่อไหร่ที่ผนึกความทรงจำถูกเปิด ฉันก็จะสร้างรอยสักบนร่างกาย มันเป็นแบบนั้นมาตลอดหนึ่งปี

กระทั่งความทรงจำถูกปล่อยออกมาจนครบ

และการเปลี่ยนไปของฉันทำให้ครอบครัวพากันแตกตื่น จะมีก็เพียงพี่ชายทั้งสองที่ยิ้มรับ และบอกว่า ‘ตามใจจีนเลย น้องอยากทำอะไรก็ทำ’

มันคือคำพูดของพี่ทิว และพี่เคลิ้มพี่ชายแท้ ๆ ของฉัน

ฉันจึงใส่เต็มที่ ไม่คิดเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น

อ้อ!!! หนึ่งเรื่องที่น่าจะสำคัญ และฉันคงลืมบอกไป

ฉันมีคู่หมั้น คู่หมั้นที่เพอร์เฟค เพียบพร้อม เหมาะสมกับคุณหนูจิลลา ศิวะวานนท์

เขาใจดี น่ารัก และฉันตกหลุมรักเขา ตั้งแต่เขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า และบอกว่าเป็นคู่หมั้นของฉัน

แต่โลกนี้ ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์เพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง

เพราะคู่หมั้นของฉันไม่ได้รักฉัน ไม่เคยรักฉัน

ที่ทำดีก็แค่หน้าที่เท่านั้น

หน้าที่ของคำว่าคู่หมั้น น่าเจ็บใจชะมัดที่ฉันรักคนใจด้านชาแบบนั้น

[End Jinla]

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel