(6) ไม่ได้พิศวาท
เพี้ยะ! ฝ่ามือบางของเฟรญายกขึ้นฟาดใส่หน้าหล่อเหลาของผู้ชายตรงหน้าอย่างแรงจนใบหน้าหล่อร้ายนั่นหันไปตามแรงตบ ร่างสูงใช้ลิ้นดุนแก้มรับรสชาติของเลือดที่แตกออกมามุมปากแล้วหันกลับมามองคนกระทำด้วยมุมปากที่แสยะยิ้มบางเบาดูยะเยือกเย็น
“ที่แท้ทุกอย่างก็เป็นฝีมือพี่เองสินะ!” น้ำเสียงเยือกเย็นของเฟรญาดังขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ ว่าเบื้องหลังความวุ่นวายของชีวิตเธอก็มาจากผู้ชายคนนี้
คนที่ถ้าไม่เห็นกับตาและให้คิดเองเธอก็ไม่มีทางนึกถึงเขาได้เลย
และดูเหมือนเขาไม่รู้สึกผิดอะไรเลยสักนิดเมื่อ...
หมับ!
“อึก!” เฟรญาร้องขึ้นในลำคอหลังจากถูกฝ่ามือใหญ่บีบเข้าที่คอระหงอย่างไม่ได้ตั้งตัว บีบแบบไม่เบามือเลยสักนิดแม้จะไม่ได้ทำให้เธอถึงกับหายใจไม่ออกเลยในทันทีก็ตาม
“เฟย์!...” แฟรงค์เห็นแบบนั้นก็เรียกขึ้นอย่างเป็นห่วงด้วยความลืมตัว แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นคนรักของเฟรญาทำไมทั้งสองถึงดูเหมือนเกลียดกันมากกว่า แล้วทำไมถึงได้ทำรุนแรงแบบนี้
แต่กลับไม่มีใครมีเวลาสนใจแฟรงค์ในตอนนี้
“เป็นใครเหรอ ถึงกล้าตบฉัน!” น้ำเสียงเยือกเย็นถามเธอขึ้นราบเรียบราวกับไม่ได้โกรธกับการกระทำของเธอ ซึ่งแตกต่างจากฝ่ามือใหญ่ที่ควบคุมคอระหงไว้ราวกับกำลังจะพรากลมหายใจของเธอเมื่อไหร่ก็ได้
“แล้วพี่เป็นใคร...ถึงมาทำแบบนี้กับเฟย์!” เฟรญาเค้นเสียงออกมาทางลำคอย้อนถามกลับไปอย่างโกรธแค้นเกลียดชัง ทั้งเรื่องในอดีตและการกระทำในปัจจุบันของเขา
“อ๋อ จำฉันไม่ได้สินะ...”
“งั้นเดี๋ยวฉันทวนความจำให้” มิล หรือ รามิล พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบราวกับไม่เข้าใจคำถามของเธอ พูดจบก็ก้มลงไปบดขยี้ริมฝีปากอิ่มเอิบของเธอต่อหน้าลูกน้องหลายคนรวมถึงแฟรงค์อย่างไม่สนใจ
บดจูบอย่างหยาบคายและรุนแรง
“อื้ออ!” เฟรญาร้องท้วงกับการกระทำป่าเถื่อนและไร้มารยาทของเขา พยายามผลักดันไหล่แกร่งให้เขาออกห่างจากตัว แต่เรี่ยวแรงของเธอไม่เคยทำอะไรเขาได้เลยสักครั้ง
“ไม่จำเป็นต้องต่อต้านขนาดนั้น ฉันไม่ได้พิศวาทเธอเลยสักนิด” รามิลผละออกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะสะบัดเธอออกจากมือเข้ากับผนังตึกจนเกือบล้ม
เฟรญาสำลักไอออกมาพร้อมกับยกมือจับลำคอของตัวเองที่ปวดร้าวไม่น้อย ช้อนสายตามองคนกระทำป่าเถื่อนด้วยความไม่พอใจแต่กลับมากไปด้วยคำถาม
“.....” เขาปรายตามองเธออย่างไม่แยแสก่อนจะก้าวผ่านเธอไปตามความตั้งใจเดิม
“ทำแบบนี้ทำไม!” เฟรญารีบเค้นเสียงถามออกมาอย่างไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามายุ่งในชีวิตเธอทำไม สร้างความวุ่นวายให้กับเธอไปเพื่ออะไร
รามิลที่พึ่งก้าวผ่านเธอได้เพียงสองก้าวหยุดลงและเอี้ยวใบหน้าหล่อร้ายหันกลับมามองเธออีกครั้ง ก่อนจะตอบออกมาพร้อมกับรอยยิ้มแสยะที่ส่งให้เธอ
“เตรียมตัวไว้ก็พอ ฉันยังจะเล่นสนุกกับเธอมากกว่านี้” นอกจากไม่ได้คำตอบแล้วยังได้คำเตือนกลับมาแทน เตือนเสร็จเขาก็หมุนตัวเพื่อเดินจากไปทันที
แต่เฟรญากลับรู้สึกโกรธเกลียดเขาเกินกว่าจะปล่อยไปแบบนี้ง่ายๆ เธอก้มลงหยิบเศษอิฐแถวนั้นพร้อมกับโยนมันใส่ร่างสูงอย่างไม่เกรงกลัวเลยว่าจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บมากเพียงใด
“นายระวัง!” ลูกน้องของรามิลร้องขึ้นเตือนทำให้รามิลไหวตัวได้ทันหลบก้อนหนักๆ นั้นไปจนมันกระแทกใส่ต้นแขนเขาไม่แรงมากนัก
“.....” รามิลหันกลับมามองจ้องเฟรญาด้วยสายตาเรียบนิ่งดุดันกว่าเดิม จากที่เขาจะไปเฉยๆ แต่กลับก้าวตรงมาหาเธอด้วยขายาวๆ ก้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอและก้มลงอุ้มเธอพาดบ่าในทันที
“ปล่อยนะ! บอกให้ปล่อยไง!” เฟรญาร้องท้วงพร้อมกับทุบหลังแกร่งอย่างแรงไม่หยุด
และผลตอบแทนจากเขาก็คือฝ่ามือใหญ่ที่บีบน่องของเธออย่างแรง เป็นการบีบราวกับจะให้มันแหลกคามือเลยก็ว่าได้
“เจ็บนะ!...ปล่อยเฟย์เดี๋ยวนี้!” เฟรญาร้องขึ้นอย่างไม่พอใจ ทำได้เพียงดิ้นต่อต้านและสู้เขาไม่หยุดที่เขาทำเธอเจ็บและยังไม่ปล่อยเธอ
มันเป็นการต่อสู้ที่เธอเองก็เจ็บตัวไม่แพ้กัน แม้แต่ตอนที่เขาเดินมาถึงรถของตัวเองแล้ววางเธอลงพื้นเปิดประตูผลักเธอเข้าไปจนหัวชนกับขอบประตูก็ไม่ได้ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปได้เลย
“ทะ...ทำอะไรน่ะ!...”
“หยุดนะ!” เฟรญาร้องขึ้นอย่างหวาดกลัวเมื่อรามิลตามเข้ามาที่เบาะหลังแล้วปิดประตูลงก่อนจะปลดตะขอกางเกงยีนส์ของเขา
เธอพลิกตัวเพื่อจะหนีออกไปยังประตูอีกฝั่งแต่กลับเหมือนหันให้ท่าเขาอย่างพอดิบพอดี เอวบางถูกรั้งไว้พร้อมกับมือใหญ่ที่เลื่อนมาปลดตะขอกางเกงของเธอพร้อมรูดซิปแล้วดึงมันลงทั้งตัวนอกตัวใน
มือบางพยายามสู้กับเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เขาก็ยิ่งรุนแรงจนทำให้กางเกงบาดรัดผิวกายของเธอไปไม่น้อยอย่างที่เขาไม่คิดจะหยุดเลยสักนิด ทำจนกระทั่งกางเกงตัวนอกและตัวในมันถูกดึงจนพ้นสะโพกกลมของเธอลงไปกองอยู่เหนือข้อพับขา
“บอกให้หยุดไงไอ้เลว! ไหนบอกไม่พิศวาทไง!” เฟรญายังคงพยายามปัดป่ายมือของเขาอย่างสุดแรง พยายามดิ้นหาทางหนีแต่กลับถูกเขากดทับและสัมผัสด้วยความป่าเถื่อนเพื่อบีบบังคับเธอ
แผ่นหลังของเธอถูกกดลงอย่างแรงทำให้หน้าเธอทิ่มลงไปกับเบาะ สะโพกผายโด่งแอ่นให้ท่าเขาอย่างคิดหนีไม่ได้เมื่อเขายื่นฝ่ามือมาบีบกดท้ายทอยเธอไว้ให้อยู่กับที่จนสะโพกของเธอสัมผัสกับกลางกายของเขาที่ใช้มือเดียวกำลังประคองมันสัมผัสกับร่างกายของเธอ
“ก็แค่เสียบให้น้ำแตกไม่ต้องใช้ความพิศวาทอะไร” น้ำเสียงราบเรียบของเขาตอบกลับมาพร้อมกับมือที่ว่างบังคับแกนเนื้อจ่อไปยังรอยแยกตรงหน้า แล้วถูไถมันไปมาเพื่อความเสียวจนเริ่มแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ
“บอกให้หยุดไง! อย่ามาทำตัวน่าขยะแขยงแบบนี้นะ!” เฟรญารับรู้ว่าเขากำลังทำอะไร พยายามบิดสะโพกหลบแต่เขากลับกดตัวเข้ามาแนบชิดกว่าเดิม ไหนจะท้ายทอยที่เธอถูกบีบกดไว้กับที่จนหนีไปไหนไม่ได้นอกจากพยายามยกขาทืบใช้มือข่วนแขนของเขา
พรึ่บ!
“อ๊ะ!” ท้ายทายเล็กถูกบีบกระชากขึ้นมาทำให้ใบหน้าของเธอกับเขาอยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อย พร้อมกับน้ำเสียงเยือกเย็นของรามิลดังขึ้นเตือนเธอ
“ถ้ายังทำให้ฉันเจ็บตัวไม่หยุด ฉันเปิดประตูเอากับเธอต่อหน้าลูกน้องฉันแน่!” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นเตือนการกระทำของเธอที่ทำให้เขาเลือดตกยางออกไปหลายที่แล้ว
“ขาดความอบอุ่นหรือไงถึงทำตัวสารเลวแบบนี้!” เฟรญาโกรธมากกว่าเดิมกับคำขู่นั้น นั่นทำให้เธอด่าเขาออกไปอย่างห้ามปากไม่ได้
“หึ!” เสียงเยือกเย็นแค่นขึ้นกับคำพูดของเธอที่ไม่ใช่การด่า แต่เป็นการตอกย้ำกับอดีตที่เธอรู้ไม่น้อย
ตุบ! ใบหน้าสวยกระแทกเข้ากับเบาะรถอีกครั้งจากการกดลงด้วยมือของรามิล เขาไม่รอช้าที่จะจ่อแกนเนื้อร้อนของตัวเองไปยังร่องของเธออีกรอบ ถูไถสองสามครั้งจนมันแข็งตัวเต็มที่และไม่รอช้าจะกดดันมันเข้าไปอย่างหยาบโลนในร่องรักแห้งผาก
สวบบ!
“อื้อ! อย่า!” เธอร้องขึ้นอย่างต่อต้านพยายามจะเดินเข่าหนีแต่กลับขยับไปไหนไม่ได้ พยายามบิดสะโพกหลบแต่กลับถูกขาแกร่งข้างหนึ่งดันขาของเธอขึ้นข้างหนึ่งทำให้ตอนนี้เธอยืนเข่าเพียงข้างเดียว
เข่าข้างเดียวแบกรับน้ำหนักทั้งร่าง หัวถูกกดอยู่กับที่ สะโพกที่ยังพอขยับหนีได้แต่กลับแค่ในพื้นที่แคบๆ จนหลบหลีกไปไหนไม่พ้น
สุดท้ายก็ถูกความแข็งเขื่องนั่นกดส่วนหัวเข้ามาแล้วกระแทกส่งอย่างไม่สนใจสิ่งใดเลย
สวบบ!!!
“กรี๊ดด!!!”