(3) หรือว่าถูกใครบงการ
F.Frank: ทำอะไรอยู่
F.Frank: ไปกินข้าวกันไหม
Faye.raya: ดูซีรีย์น่ะ ไปกี่โมงล่ะ
เฟรญาหยิบโทรศัพท์ที่มีเสียงร้องแจ้งเตือนขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอก็กดเข้าไปตอบอีกฝ่ายอย่างไม่รีรอเหมือนทุกครั้งตั้งแต่แลกช่องทางโซเชียลมิเดียกับเขาไปเพื่อติดต่อกัน
ตอนนี้ก็เข้าอาทิตย์ที่สองแล้วที่เธอคุยกับแฟรงค์ชายหนุ่มต่างมหาลัยฯ ซึ่งเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนต่างมหาลัยแบบนี้จะยังถูกทำร้ายเมื่อคุยกับเธอ หรือจะถูกคนบงการเบื้องหลังจ้างให้เข้ามาเพื่อสร้างปัญหาให้เธอหรือเปล่า
แน่นอนว่าเหตุผลที่เฟรญายอมพูดคุยกับอีกฝ่ายแม้จะไม่อยากคุยกับใครอีกแล้วหลังเกิดเรื่องสองคนติด แต่หากเธอยังหาคำตอบด้วยตัวเองต่อไปมันก็คงไม่มีทางได้อะไรเหมือนที่ผ่านมา ในเมื่อปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจะเป็นผู้ชายที่เธอคุย งั้นเธอก็ต้องหาคนคุยใหม่เพื่อรอดูว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกไหม แล้วถ้าใช่เธอจะต้องหาทางดึงตัวการออกมาให้ได้
F.Frank: หกโมงเย็นเดี๋ยวเราไปรับโอเคไหม
Faye.raya ได้ งั้นเดี๋ยวเราแชร์โลเคชั่นไปให้แล้วกัน
เฟรญานัดแนะกับอีกฝ่ายเรียบร้อยก็เก็บโทรศัพท์ลงพร้อมกับเริ่มคิดแผนการในหัวว่าเธอจะทำยังไงต่อไปเพื่อให้รับรู้การเคลื่อนไหวของแฟรงค์ เผื่อเกิดอะไรขึ้นเธอจะได้ไปหาความจริงได้ หรือหากอีกฝ่ายเป็นหมากของใครจริงเธอก็จะได้รู้ว่าเขาติดต่อกับใครกันแน่
เธอลองค้นหาวิธีในอินเตอร์เน็ตและได้เจอวิธีที่ง่ายที่สุดแม้จะดูเสียมารยาทอย่างที่เธอไม่เคยทำมาก่อน นั่นก็คือการติดตั้งแอปพลิเคชั่นเพื่อติดตามกันและกัน แต่ความน่ากังวลอย่างหนึ่งคือเธอยังตอบไม่ได้ว่าผู้ชายที่เข้าหาเธอเป็นแค่คนที่อยากรู้จักเธอหรือว่าถูกใครบงการกันแน่ หากเธอไปทำให้อีกฝ่ายจับได้นั่นก็เท่ากับว่าเธอแหวกหญ้าให้งูตื่น แล้วคนๆ นั้นก็จะระวังตัวมากขึ้น
“คิดออกแล้ว!” เฟรญาร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อคิดวิธีที่จะไม่ถูกอีกฝ่ายจับได้ขึ้นมา เป็นการติดตามเหมือนกันแต่เป็นการติดตามทางรถของเขาแทน แม้จะไม่ real time เหมือนกับในมือถือ แต่อย่างน้อยก็ระบุตำแหน่งได้เหมือนกัน
หากมีอะไรน่าสงสัยในวันนั้นอย่างน้อยเธอก็คงไปได้ใกล้ที่สุด ไปเผื่อจะมีร่องรอยอะไรให้เธอได้รับรู้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย
เฟรญารีบกดสั่งซื้อเครื่องติดตามในอินเตอร์เน็ตทันที เธอสั่งซื้อด้วยการส่งแมสให้ทันใช้ในวันนี้เลย ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากกับการได้ของทันใช้และรอเวลาใช้ในเย็นวันนี้
18.00 น.
แฟรงค์มาถึงคอนโดของเฟรญาอย่างตรงเวลานัดหมายโดยที่เฟรญาก็ลงมารออยู่แล้ว เธอเดินไปขึ้นรถของอีกฝ่ายทันทีที่เขาลดกระจกแสดงตัวว่าเป็นคนที่มารับเธอ
“รถติดไหม” เฟรญาถามไถ่อย่างมีมารยาทกับการออกนอกสถานที่กับอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก
“เหมือนทุกวันนั่นแหละ” แฟรงค์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มอย่างไม่หงุดหงิดกับการจราจรที่ติดขัดในการมารับสาวงามเลยสักนิด
“รู้งี้เราไปเองดีกว่าแฟรงค์จะได้ไม่เสียเวลา” เฟรญาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ
“เสียเวลาอะไรกัน แบบนี้ดีกว่าอีกขับรถไปได้คุยกันไป” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างไม่ได้เสียใจกับการไปๆ มาๆ แบบนี้เลย อย่างน้อยก็ได้เสียเวลาอยู่กับสาวงามบนรถสองต่อสอง ได้พูดคุยทำความรู้จักกันต่อหน้า
“แล้ววันนี้จะพาเราไปกินอะไรเหรอ” เฟรญาชวนคุยระหว่างอีกฝ่ายทำหน้าที่ขับรถอย่างดี
“เฟย์อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”
“เราได้หมด กินได้ทุกอย่างเลย”
“งั้นเราจะพาไปร้านประจำของเรานะ” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิมและทำหน้าที่เป็นพลขับ โดยระหว่างทางทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเรื่อยๆ สลับกันถามสลับกันตอบเหมือนกับหลายๆ คู่ที่พูดคุยเรียนรู้ก่อนคบกันว่าจะเข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน
กระทั่งถึงร้านอาหารเป้าหมายทุกคนก็เตรียมตัวลงจากรถโดยเฟรญาเลือกจะทำอะไรช้ากว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย เมื่ออีกฝ่ายลงจากรถไปเธอก็ไม่รอช้ารีบหยิบเครื่องติดตามเท่ากับเหรียญสิบบาทแกะกาวด้านหลังแล้วติดเข้าไปที่ช่องด้านล่างของประตูทันที เป็นตำแหน่งที่ง่ายมากหากไม่คลำหาก็จะไม่เจอด้วยสีและขนาดบวกตำแหน่งของมันแล้วน่าจะอยู่ได้อีกนานกว่าเจ้าของรถจะรับรู้
เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยเฟรญาก็ลงจากรถมาไล่ๆ กันอย่างไม่ให้เสียเวลาจนน่าสงสัย และเดินเข้าร้านอาหารกับแฟรงค์ไปเหมือนกับหนุ่มสาวทั่วๆ ไปที่มากินข้าวด้วยกัน
แต่อย่างหนึ่งที่เฟรญาไม่รู้เลยก็คือข้างถนนหน้าร้านที่มีรถจอดอยู่หลายคันพร้อมกับรถที่พึ่งขับเข้ามาจอดใหม่ เป็นรถที่ขับตามเธอออกจากคอนโดมาสักพักแล้ว รถที่กลมกลืนกับรถคันอื่นๆ จนคนถูกตามไม่รู้ตัวเลยสักนิด
และชายคนบนรถก็ไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งรายงานให้กับผู้เป็นเจ้านายของเขาทันที และไม่นานก็ได้รับคำสั่งกลับมาอีกครั้ง คำสั่งที่ทำให้ชายฉกรรจ์บนรถต้องเคลื่อนตัวเองเข้าไปในร้านอาหารที่เฟรญาเข้าไปก่อนหน้านี้
แต่เขาไม่ได้เข้าไปในฐานะลูกค้าก็เท่านั้นเอง