ตอนที่ 6 เมียหลวง
คนตัวโตไม่ฟังเสียงห้ามปราม แทรกตัวเข้าไปในห้อง ถอดรองเท้าวางไว้บนชั้นแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของเธอหน้าตาเฉย เดือดร้อนให้คนตัวบางต้องวิ่งตามไปกางแขนดักหน้าเขาที่กำลังจะล้มตัวลงนอนบนเตียงของเธอ
“พัชร์ พัชร์ ไอ้พัชร์ แกเข้ามาในห้องนอนของฉันทำไม มีอะไรก็ออกไปคุยกันที่โซฟาสิ”
“ฉันง่วง”
เขาถอดหมวกและแมสก์ออก แถมโยนมันทิ้งที่พื้นอย่างไม่สนใจไยดี ทั้งยังถอดเสื้อเชิ้ตตัวสวยทิ้งลงที่พื้นต่อหน้าต่อตาเธออีกต่างหาก
เรือนร่างใหญ่โตขาวผ่องเปลือยท่อนบนปรากฏต่อสายตาเธอ ร่างกายของเขายังดูสวยงามไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม มัดกล้ามเนื้อทุกลูกในร่างกายยังคงขึ้นลอนชัดสวยงาม กล้ามเนื้อวีไลน์แสนเซ็กซี่ของเขายังคงชัดเจนและวิ่งลงลึกหายเข้าไปในขอบกางเกงชวนสยิวเหมือนเดิม
ที่แตกต่างออกไปเห็นจะเป็นรอยสักรูปหัวมังกรดูดุดันที่หน้าอกข้างซ้ายซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมี แต่เธอกลับคิดว่าดวงตาคมกริบกร้าวดุและใบหน้าหล่อร้ายของเขาเข้ากับรอยสักลายมังกรนี้ที่สุด มันทำให้เขาดูเซ็กซี่มีเสน่ห์ขึ้นอีกเป็นกอง
“แกไปสักมาตอนไหน”
ความปากไวทำให้เธอหลุดคำถามที่อยู่ในหัวออกไปจนได้ แม้จะรู้สึกเสียฟอร์มนิดหน่อยที่เห็นแววตาล้อเลียนจากเขา จึงเลือกกลบเกลื่อนด้วยการเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยทำราวกับเธอไม่ได้ตั้งใจจะมองเรือนร่างแสนเพอร์เฟคของเขาเสียหน่อย..แค่มังกรมันสะดุดตา
แต่เขากลับคว้ามือเธอบังคับขึ้นไปลูบไล้หัวมังกรของเขาจนเธอสัมผัสได้ถึงหัวนมที่แข็งตั้งเป็นไตทันทีที่มือน้อยๆ ของเธอลากผ่าน จึงรวมรวมกำลังดึงมือกลับมาจนได้
“ไอ้บ้า”
“หึหึ ก็เห็นจ้องมังกรฉันตาเขม็ง คิดว่าอยากลูบหัวมัน ก็เลยจัดให้ แถมให้ลูบหัวนมฉันฟรีๆ อีก ชอบไหม”
“อี๋ ฉันไม่ได้อยากลูบหัวมัน แล้วก็ไม่ได้อยากลูบหัวนมแก ตอนนี้ฉันก็ไม่อยากรู้แล้วว่าแกไปสักมาตอนไหน”
เธอใช้มือข้างนั้นถูแรงๆ ที่สะโพกอย่างรังเกียจ ส่งผลให้สายคลุมที่มัดโบเอาไว้หลวมๆ คลายตัวหลุด สาปเสื้อจึงแหวกออกจากกันเปิดเผยร่างเย้ายวนในชุดนอนผ้าลูกไม้ซีทรูสีดำแสนเซ็กซี่จนคนตัวโตลอบกลืนน้ำลายลงคออีกใหญ่ ตัวตนที่เคยสงบนิ่งเพราะเพิ่งได้รับการปลดปล่อยขยายตัวอย่างรวดเร็วจนปวดหนึบไปทั้งลำ
ภาพความวาบหวามและความสุขสมเต็มอิ่มในหัวใจวนเวียนกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเขาต้องข่มใจ แล้วกระแอมเรียกสติก่อนจะตอบคำถามของเธอเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง
“ก็ตอนที่เลิกกับเธอไง”
“เราไม่ได้เป็นแฟนกัน แกพูดให้มันดีๆ”
“หึ ไม่ได้เป็นแฟน แต่ฉันได้มาเอาเธอทุกคืนแล้วกัน”
“ไอ้พัชร์ เมาก็กลับห้องไปนอน จะมาหาเรื่องชวนทะเลาะกับฉันอีกทำไม เรื่องเฮงซวยของเรามันจบไปนานแล้วนะ อย่ามารื้อฟื้น”
“เรื่องของเธอกับฉันมันเฮงซวย แต่เรื่องของเธอกับไอ้ผัวไฮโซสำส่อนนั่นมันคงดีมากสินะ รู้หรือเปล่าว่ามันพาผู้หญิงเข้าไปเอากันในห้องวีที่ผับ”
เขาก้าวเข้ามากระชากแขนเธอให้ถลาไปใกล้จนร่างกายของคนทั้งคู่แทบชิด
“ไม่จริง แกอย่ามาใส่ร้ายคุณเอก เขาไม่สำส่อนเหมือนแกหรอก”
“ฉันเห็นกับตา”
“เหรอ เห็นมากับตา คงจะสี่ตาเลยสินะ เพราะเด็กของแกก็คงจะเห็นด้วยใช่ไหม”
“พูดอะไร”
มิตามองซอกคอขาวเนียนที่มีรอยลิปสติกสีแดงเปื้อนเป็นรอยริมฝีปากหลายจุด เธอจิ้มลงไปที่จุดสีแดงเหล่านั้นแรงๆ ด้วยความไม่พอใจ ราวกับต้องการให้เจ้าของลำคอที่สำส่อนไม่เลิกรู้สึกเจ็บ..เหมือนที่เธอรู้สึก
“ไปฟัดกับหมาตัวเมียตัวไหนมาอีกล่ะ อย่าบอกนะว่าแกมีแฟน ฉันไม่เชื่อ แกมันก็สำส่อนไม่ต่างจากคุณเอกนั่นแหละ”
ธพัชร์เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มยุรีจูบที่ซอกคอของเขาบ่อยๆ คงตั้งใจทิ้งรอยลิปสติกไว้เพราะคิดว่าเขาจะมานอนกับผู้หญิงคนอื่นสินะ เห็นหน้าใสๆ นั่นก็แอบร้ายไม่หยอก และเขาเองก็มานอนกับผู้หญิงคนอื่นจริงๆ เสียด้วย
“ฉันไม่ได้มีแฟน”
“ตอนมีแฟนแกก็ทำ อย่ามาทำเป็นพูดดีกว่า”
“แต่ตอนมีเธอ ฉันไม่ได้ทำ ไม่คิดจะทำด้วย”
เธอชะงัก เบิกตามองเขาด้วยความตกใจที่เขาโพล่งออกมาราวกับไม่ยั้งคิด แต่คนฟังอย่างเธอกลับคิดไปไกลจนหัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำ
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระเสียที”
“ทนฟังไม่ได้หรือไง ถ้าเธอหาว่าฉันโกหกก็ไปแต่งตัว ฉันจะพาเธอไปพิสูจน์ความจริงเดี๋ยวนี้”
ไหนว่าไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของชาวบ้าน ให้เธอรู้เรื่องที่แฟนแอบมีกิ๊กนี่ด้วยตัวเองไง สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว เสนอหน้ามาบอกเรื่องไร้สาระกับเธอ ทั้งที่เธอไม่เชื่อเขาเลยสักนิด
“ฉันไม่ไป ฉันไม่สนใจเรื่องนี้ จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่สน ตราบใดที่ผู้หญิงพวกนั้นไม่มารบกวนฉัน หรือสองคนนั้นไม่ทำให้เป็นข่าวฉาว ฉันก็จะอยู่ในที่ของฉันต่อไป”
“หึ ฝึกอยู่ในที่ของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวเป็นเมียหลวงของไฮโซ นอนกอดทะเบียนสมรสโดยที่ผัวไปนอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้าเหมือนเดิมเหรอ อยากเป็นสะใภ้ไฮโซจนตัวสั่นขนาดนั้นเชียว”
“มันเรื่องของฉัน ไม่ต้องมากระแนะกระแหน แล้วก็กลับไปได้แล้ว ฉันจะนอน”
“ก็นอนไปสิ ฉันจะนอนที่นี่ เมา ขับรถไม่ไหว”
เขาทิ้งตัวลงนอนทั้งกางเกงยีนหน้าตาเฉย เธอจึงถลาไปดึงแขนด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลจนเขาลุกขึ้นมานั่ง
“อะไรอีก ไหนว่าง่วงไง ง่วงก็มานอนสิ”
คนรูปหล่อขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจราวกับเด็กหนุ่มผู้เอาแต่ใจตัวเอง แต่หน้าขาวๆ ปากแดงๆ คิ้วเข้มๆ ที่ขมวดมุ่น ดวงตาคมกริบดำขลับฉายแววไม่พอใจ กลับทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงอีกครั้ง
เมื่อเธอไม่พูดอะไรออกมา เขาก็ทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งนั่นแหละเธอจึงได้สติ ผวาคว้าแขนแล้วออกแรงดึงด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลเท่าเดิม แต่คราวนี้คนตัวโตกลับขืนตัวไว้แล้วกระตุกแขนดึงเธอให้เสียหลักล้มลงมานอนทับเขาทั้งตัว
“ว้าย พัชร์”
เขากอดรัดรอบเอวบางก่อนพลิกตัวเธอลงมานอนราบกับเตียงโดยมีเขาคร่อมทับอยู่ด้านบน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจเต้นรัวจนสะท้อนมาถึงหน้าอกแกร่ง
“พัชร์..แกจะทำอะไร”
แววตาตื่นตระหนกราวลูกกวางตัวน้อยหลงทางกระตุ้นสัญชาตญาณราชสีห์นักล่าให้ตื่นเพริดจนร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยกวักมือเรียกเขาจนคนหน้ามืดตามัวค่อยๆ ก้มหน้าลงไปจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ
หอม..คิดถึงเหลือเกิน
เสียงนี้สะท้อนก้องอยู่ในหัวจนหูอื้อตาพร่ามัว กดจูบซุกไซ้ซอกคอของเธออย่างหิวโหย มือใหญ่บีบขยำความนุ่มหยุ่นตามแรงอารมณ์ ไม่สนใจเสียงร้องประท้วงและการดิ้นรนเอาตัวรอดของเธอ
เพียะ!!! แรงกระทบบนใบหน้าแม้จะไม่แรงนักเพราะคนตัวบางเองก็กำลังต่อสู้กับอารมณ์พิศวาสที่ตีตื้นขึ้นมาจุกแน่นในอกจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ทำเอาคนที่กำลังขาดสติรู้สึกตัว เขาค่อยๆ หันใบหน้ากลับมามองสบตากับผู้หญิงที่เขาเกือบจะใช้กำลังข่มขืนเธออีกครั้ง
“มิตา..”
“แกเป็นบ้าอะไรพัชร์ ลงไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้”
แม้ในดวงตากลมโตคู่นั้นจะฉายแววโกรธ แต่ความวาบหวามเมื่อครู่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายในส่วนลึก ซึ่งเขาสังเกตเห็น จึงก้มหน้าลงหวังจะจูบเธอให้เต็มรัก แต่เธอกลับหันหน้าหนีจึงพลาดเป้าไปจูบเบาๆ ที่ซอกคอแทน
“อย่าเอาปากที่ไปจูบกับคนอื่นมาจูบฉัน ขยะแขยง”
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้จูบเธอคนแรก ก่อนหน้านี้ยังไม่เห็นขยะแขยงฉันแบบนี้เลย”
“มันไม่เหมือนกัน อันนี้มันสดๆ ร้อนๆ ตัวแกยังมีกลิ่นผู้หญิงคนอื่นติดมาอยู่เลย ลงไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้”
ธพัชร์ยิ้มมุมปาก หมั่นไส้คนท่ามาก เขารู้ว่าเธอหมายถึงอะไรและเขาก็รู้ด้วยว่าเธอเองก็หวั่นไหวกับเขาไม่น้อย จึงฝังจมูกลงหอมแก้มเธอแรงๆ หนึ่งครั้งแล้วลุกขึ้นเดินผิวปากเข้าไปอาบน้ำหน้าตาเฉย
“พัชร์ แกจะมาทำตัวเหมือนห้องนี้เป็นห้องแกเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้นะ ไอ้พัชร์ ได้ยินไหม”