บทที่ 10
“สวัสดีครับคุณวาสนา ผมนทีเองนะครับ” นทีพูดออกไป
“ฉันทราบค่ะคุณท่าน ไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือป่าวคะ วาสนายินดีที่จะช่วยเหลือค่ะ” วาสนาคิดในแง่ลบไว้ก่อน เผื่อมีใครในธนาคารที่เป็นคนของเธอทำอะไรผิดพลาดไปหรือป่าว หรือระบบธนาคารมีปัญหาอะไรประมาณนี้
“เปล่าเลยครับ คือผมแค่อยากจะทราบว่าเงินในบัญชีของผมพอจะชื้อรถยนต์สักคันในราคา 1.999 ล้านบาทได้หรือป่าวเท่านั้นแหละครับ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเงินใช้สักเท่าไหร่” เขาพูดออกมาอย่างจงใจ และตั้งใจที่จะให้พนักงานพวกนั้นได้ยิน ส่วนทางด้านพนักงานก็หูผึงรอฟังสิ่งที่วาสนาจะให้คำตอบ
“ค่ะ ยอดเงินในบัญชีธนาคารโกเด้นของคุณท่านยังคงเหลือเท่าเดิมเหมือนเมื่อวานค่ะ จำนวนเงินสด 100 ล้านบาทค่ะ ไม่ทราบว่าติดปัญหาในเรื่องของการชำระเงินหรือป่าวคะ”
เธอดูระบบของธนาคารก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆในบัญชีนี้เลย จากเมื่อวานเท่าไหร่ตอนนี้ก็เท่าเดิม เธอไม่เข้าใจเลย เขาแค่โทรมาถามว่า 100ล้านบาทเนี่ยมันพอชื้อรถราคา 2 ล้านไหมแค่นี้จริงๆหรือ
“แล้วผมรูดผ่านบัตรที่ได้เมื่อวานได้หรือป่าวครับ?”
“ได้ค่ะคุณท่าน หรือว่าบัตรจะรูดไม่ได้คะ ยังไงให้วาสนาเตรียมเงินแล้วออกไปเอาให้ไหมคะ” เธอเป็นกังวลอย่างมาก ถ้าบัตรที่ให้ไปมันดันเสียล่ะ เธอจะทำยังไง ยิ่งคิดยิ่งจิตตก
“ผมยังไม่ได้ลองใช้เลยครับ ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ หลังจากเสร็จธุระที่นี่ ผมจะเข้าไปหาที่สาขานะครับ” นทีคิดว่าแค่นี้ก็คงจะพอแล้วกับการตอกหน้าพนักงานพวกนี้ จึงคิดที่จะวางสาย
“ค่ะ วาสนายินดีให้บริการค่ะ คุณท่าน”
หลังจากวางสายไปบรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป พนักงานเหล่านั้นต่างนั่งตัวแข็งเป็นหินไม่พูดไม่จาอะไร ทางด้านนทีเองก็นั่งชิวๆทำตัวไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวต่อไป
อีกด้านหนึ่งที่ธนาคารวาสนาก็เริ่มวิตก พร้อมกับคิดว่าฉันคงไม่ได้ทำอะไรผิดไปใช่ไหม และเธอยังต้องเตรียมตัวสำหรับการมาเยือนของลูกค้าวีไอพีคนนี้อีกด้วย
แต่มีอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้อะไรกับเขาเลยก็เดินมานั่งตรงข้ามกับนที พร้อมเอกสารการชื้อขายให้เขาเซ็น
“เอกสารการชื้อขายค่ะ ถ้ามีอะไรสงสัยสอบถามได้นะคะ” เธอยื่นเอกสารให้เขาเซ็นทีละใบ ทีละใบจนแล้วเสร็จ และถึงขั้นตอนในการชำระเงิน นทีก็นำบัตรของตัวเองออกมาแล้วยื่นให้กับพนักงานสาว พร้อมกล่าวว่า ชำระยอดเต็มจำนวนนะครับ
“ค..ค่ะ จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดนะคะ ในระหว่างที่รอการยืนยันการชำระเงิน ฉันจะให้ตัวแทนประกันมาพบนะคะ อย่างที่ทราบทางเราแถมประกันชั้นหนึ่งให้เป็นเวลา 2 ปีค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ” เธอก้มหัวให้เขาเล็กน้อยพร้อมกับดำเนินการในขั้นตอนต่างๆทันที
ทางด้านนทีตอนนี้ก็นั่งคุยกับตัวแทนประกัน ซึ่งทุกอย่างก็จบไปด้วยดีไม่มีอะไรติดขัด และแล้วขั้นตอนทุกอย่างก็เสร็จสิ้น แอ้มพนักงานสาวเชิญเขาไปทดสอบรถที่สนามด้านหลังจนแล้วเสร็จก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด สุดท้ายเขาก็ขับรถออกไปจากศูนย์ทันที
ด้วยอาการที่หลากหลายของเหล่าพนักงาน เหล่าพนักงานขายต่างรู้สึกเสียดายค่าคอมมิชั่นที่มากถึง 4 เปอร์เซ็น รวมๆแล้วเกือบแสนบาทที่ตอนนี้แอ้มพนักงานใหม่ได้รับมันไป ส่วนแอ้มเธอก็ดีใจที่สามารถขายรถได้ตั้งแต่วันแรก พร้อมกับทำหน้าที่ของเธอต่ออย่างขยันขันแข็ง
นทีที่ขับรถออกมาก็เดินทางไปยังธนาคารโกเด้น เขาเลือกจอดรถที่ใต้อาคาร และมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคอยบริการรับส่งไปยังชั้นสอง เขาเปิดประตูเข้ามาก็พบกับวาสนาที่ยืนรอต้อนรับอยู่แล้ว พร้อมกับเชิญเขาไปยังห้องรับรองเดิมเหมือนเมื่อวาน
“คุณท่านต้องการให้วาสนารับใช้อะไรคะวันนี้” เธอเริ่มกล่าวบทสนทนา
“พอดีอยากจะหาคอนโด หรือ ไม่ก็บ้านเดี่ยว ที่ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยนะครับ”
“ได้ค่ะ วาสนาได้เตรียมข้อมูลไว้บางส่วนแล้ว ยังไงคุณท่านลองพิจารณาดูก่อนได้ค่ะ”
“ได้ครับ” แล้วนทีก็หยิบเอกสารที่วาสนายื่นมา เขาค่อยๆเปิดเอกสารไปที่คอนโดก่อนเลย คอนโดที่มีแนะนำในเอกสารเป็นคอนโดที่มีราคาพอสมควร แต่มันมีรายละเอียดที่ระบุถึงอัตราการก้าวหน้าของอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะเป็นลายมือของวาสนา
คอนโดพวกนี้เมื่อเรียนจบก็สามารถปล่อยเช่าได้ในราคาที่สูงพอควร และมันยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เขาจะได้รับรายได้ ส่วนทางด้านเอกสารบ้านเดียวส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบ้านที่มีบรรยากาศธรรมชาติทุกหมู่บ้าน เขาจึงตัดสินใจที่จะชื้อคอนโดนจะดีกว่าในตอนนี้
“ผมสนใจคอนโดนี้ครับ ผมอยากได้ห้องธรรมดา ราคา 4.8 ล้าน ผมเอาสองห้อง แล้วเอาห้องราคา7.5 ล้าน 1ห้องครับ” นทีจัดแจงรายละเอียดให้วาสนาฟัง พร้อมชื้อห้องอีกสองคอนโดอยู่ในการแนะนำ คอนโดละ 2 ห้อง รวมๆแล้วเขาต้องเสียไปราวๆ 35 ล้านบาท
วาสนารีบดำเนินการให้กับนทีพร้อมเข้าอยู่ได้เลยในวันพรุ่งนี้เช้าทั้งหมด นทีขอให้วาสนาหาคนเช่าคอนโดให้กับเขาที่เหลืออีกหกห้อง ห้องเดือนละ 10,000 บาทซึ่งถูกมากสำหรับที่แถวนี้ และสุดท้ายก็เรื่องของการฝากเงินประจำ ซึ่งวาสนาให้เขามากถึง 3.75 เปอร์เซ็นต่อปี
มันทำให้ในตอนนี้ เขาก็เหลือเงินสดติดตัวราวๆ 13 ล้านเศษๆเพียงเท่านั้น เมื่อเสร็จธุระทุกอย่างแล้ว นทีก็เดินออกจากธนาคารแล้วเดินทางไปยังห้างต่อ เพื่อชื้อของใช้เข้าคอนโดใหม่ของเขา และทานข้าวเที่ยง นทีขับรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ และเดินเข้าไปร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยากกินมานาน
“สวัสดีค่ะ มาท่านเดียวนะคะ” พนักงานในชุดกิโมโนเอ่ยถาม
“คนเดียวครับ” เขาเอ่ยตอบไป
“’งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ” พนักงานเดินนำไปยังโต๊ะด้านหน้าของเซฟคนหนึ่ง ซึ่งร้านอาหารนี้เป็นอาหารคอร์ส คอร์สต่ำๆก็ราวๆ 20,000 บาทเข้าไปแล้ว แน่นอนร้านนี้ คือร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นสูง เขาตัดสินใจเลือกลองชุดใหญ่ที่สุดในราคา 85,000 บาท เธอก็เลยเชิญเขามานั่งข้างๆกับผู้หญิงท่านหนึ่ง ก่อนที่นทีจะได้นั่งก็มีเสียงดังขึ้น
“เอ๊ะ นั้นนายคนนั้นนี่” ผู้หญิงที่นั่งเก้าอี้ข้างๆเอ่ยขึ้นมา