บอสหนุ่ม : 6
"โอ้ย! อีบ้า! แกถีบฉันอีกแล้วนะ!"
จากมือที่เตรียมจะฟาดหน้าเขาต้องเปลี่ยนเป็นกุมท้องตัวเองแทน
พิมมี่ตัวงอด้วยความจุกพลางจ้องหน้าเจ้าของลูกถีบนั้นด้วยความเคียดแค้นทวีคูณ
เสียงทะเลาะกันของทั้งสองคนดังลอดไปถึงห้องข้าง ๆ จนคนในห้องนั้นต้องเข้ามาดู
"เกิดอะไรขึ้นวะ"
ตันติกรที่เปิดเข้ามาคนแรกถาม
สภาพที่พวกเขาเห็นคือมีหญิงสาวคนหนึ่งถูกศิลาล็อกเอาไว้ในอ้อมกอดและผู้หญิงอีกคนยืนตัวงอกุมท้องตัวเองอยู่ห่างออกมาราว ๆ สามก้าว
"บอส!"
เกือบได้เวลาที่บอสหนุ่มนัดไว้ทำให้กระทิงเข้ามาในห้องนี้ทีหลังพร้อมกับลูกน้องตันติกรถึงกับตกใจกับภาพตรงหน้า
'วันนี้เจ้านายควบสองเว้ย!' นั่นคือสายตาที่กระทิงสื่อ
"นี่มึงควบสองเหรอวะ"
หมอคณาธิปคิดเช่นเดียวกับกระทิง เขายืนกอดอกพิงไหล่ข้างขอบประตูมองอย่างอมยิ้ม
ศิลาส่งสายตาจิกกัดเป็นเชิงด่าหมอหนุ่มว่า นอกจากนกเขาไม่ขันแล้วยังเสือกสายตาไม่ดี มองยังไงเห็นว่าเขาควบสอง
"ไอ้กระทิงพาพิมมี่ไปจัดการตัวเองก่อน"
ศิลาหันมาสั่งลูกน้องคนสนิทให้พาคนที่โดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวออกไปก่อน เขาจะจัดการคนที่อยู่ในอ้อมแขนนี้เอง
"ส่วนเธอ..."
แขนทั้งสองข้างที่ถูกรั้งไว้ถูกศิลาปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว คนเมายังทรงตัวได้อยู่แม้จะโงนเงนไปบ้างแต่ถือว่ายังไม่ล้มตึงในทันที
"ไอ้เฮงซวย!"
เมื่อเป็นอิสระปากจิ้มลิ้มก็ออกเสียงด่าคนตรงหน้าทันที
ขาเรียวยาวบนส้นสูงสี่นิ้วค่อย ๆ ก้าวไปเผชิญหน้ากับศิลาในระยะเผาขน นิ้วสวยยกขึ้นชี้หน้าบอสหนุ่มเกือบจะทิ่มลูกตาเขาอยู่ร่อมร่อ
"ไอ้คนหลายใจ!"
"..."
"ไอ้ผู้ชายไม่ซื่อสัตย์!"
"..?"
"กินบนเรือน ขี้รดบนหลังกู!"
เดี๋ยวนะ...
หลังคาหรือเปล่า?
สงสัยเธอจะเมาหนักจริง ๆ
ในช่วงเวลาที่จบเสียงด่านั้นลง เสียงปรบมืออย่างพร้อมเพียงกันของสามหนุ่มต่างวัยที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็ดังขึ้น
"ด่าได้ดีว่ะ"
ตันติกรออกปากชมผู้หญิงคนแรกก็ว่าได้ที่กล้างัดข้อชี้หน้าด่าเพื่อนของเขาแบบนี้
"ไม่ช่วยโปรดเงียบปากครับไอ้เชี่ยต้วน"
ศิลาว่าให้เพื่อนเสียงเรียบทว่าแววตาแข็งขึง
คิดหรือว่ามาเฟียอย่างตันติกรจะกลัว เขากลับยั่วโมโหเพื่อนด้วยการยักไหล่ทีหนึ่งก่อนจะไปยืนรวมตัวกับหมอคณาธิปและอี้เฉินเพื่อรอดูผู้หญิงคนนี้ถูกศิลาจัดการ
"ปากบอกจะแต่งงานกันเดือนหน้า แต่ทำไมถึงไปลักกินขโมยกินกับอีเห็บหมาน้องข้างบ้านฉันได้วะ!"
ด่าจบเธอก็ทิ้งตัวนั่งยอง ๆ ลงกับพื้น กระโปรงที่แหวกข้างของเธอถลกขึ้นจนเห็นซับในสีเนื้อบนขาอ่อน สามหนุ่มหล่อถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเมื่อผิวขาว ๆ น่าลูบคลำกำลังอวดสายตาพวกเขาอย่างเซ็กซี่
พรึ่บ!
ผ้าแพรผืนบางถูกมือหนาคว้าแล้วโยนลงคลุมทั้งตัวคนที่นั่งซบหน้าเข้าหน้าตัก
"ใครปิดไฟ"
ศิลาได้แต่กรอกตามองบน เขายกมือนวดขมับอย่างเหนื่อยใจกับการต้องมาเจอคนบ้าในคราบคนเมา
"ไอ้ต้วน มึงไปหามาเลยว่ายัยบ้านี่มากับใคร"
"มึงสั่งเจ้าของผับ?"
"เออ ถ้าไม่อยากให้ผับมึงลงหน้าหนึ่งว่าคืนนี้มีคนตาย"
ตันติกรแสยะยิ้ม คิดว่าเขาไม่รู้จักเพื่อนคนนี้หรือไร แม้จะเป็นครูฝึกเหล่าบอดี้การ์ดเองกับมือ แต่ศิลากลับมือสะอาดไม่เคยถึงกับเอาชีวิตใครทั้งนั้น อย่างมากก็แค่กระทืบคู่อริจนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปเป็นเดือน ๆ
"ไอ้กฤษ สงเคราะห์มันหน่อย"
ตันติกรหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทให้ไปเช็กกล้องวงจรปิดหน้าผับว่าผู้หญิงคนนี้มาคนเดียวหรือมีเพื่อนมาด้วย
ผ่านมาราว ๆ สิบนาที ลูกน้องคนสนิทของตันติกรก็กลับมาพร้อมกับผู้หญิงตัวเล็กผมดัดลอนหน้าตาสวยออกแนวหยิ่งหน่อย ๆ
"พาขวัญ!"
ทันทีที่เธอคนนั้นเข้ามาในห้องเห็นเพื่อนนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนพื้น รอบ ๆ มีชายหนุ่มสี่คนนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาไม่มีใครเข้าใกล้เจ้าของชื่อพาขวัญเลยสักคน
แมนจริง ๆ นั่งดูผู้หญิงร้องไห้บนพื้นคนเดียว
"ขวัญ! แกทำไมมาอยู่ตรงนี้"
ยี่หวาที่ถูกลูกน้องตันติกรพาตัวขึ้นมารีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อนสนิท
ถึงว่าทำไมเธอรอพาขวัญอยู่ที่โต๊ะที่จองตั้งนานแต่เพื่อนคนนี้กลับไม่มาสักที ที่ไหนได้พาขวัญคงได้ยินตอนคุยโทรศัพท์กับยี่หวาว่าที่เธอบอกให้มาหาที่โต๊ะสอง เป็นชั้นสองนี่เอง
