9 มันก็แค่ลมปาก
พีราวัชรรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่เช้า เขานอนมองหน้าคนที่ซุกอยู่กับแผงอกของตนเองแล้วยิ้ม นานแต่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยร่วมรักกับใครจนหมดแรงแบบนี้มาก่อน ทุกครั้งเขาไม่เคยให้ใครนอนกับเขาถึงเช้า ผู้หญิงทุกคนของเรารู้ดี หลังจากพวกเธอจะมอบความสุขให้เขาแล้วพวกเธอก็จะหยิบเช็คที่เขาวางไว้และกลับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด มันทำให้เขาไม่เบื่อเพราะผู้หญิงแต่ละคนก็มีความหลากหลาย มีเพียงไม่กี่คนที่เขาจะเรียกใช้ซ้ำ แต่นั่นต้องเป็นคนที่เขาถูกใจจริงๆ หรือไม่ก็ตอนนั้นอยู่ใกล้กับเขาในเวลาที่เขาต้องการจนทนรอไม่ไหว
“อื้อ..ปวดหัวจัง” หญิงสาวเอามือกุมขมับแต่พอขยับจะลุกก็ถูกท่อนแขนใหญ่รั้งไว้ เธอหันกลับมาก็เจอกับผู้ชายตัวโตนอนยิ้มอยู่ข้าง
“คุณคงไม่เคยดื่มหนักแบบนั้นมาก่อน”
“คุณ...” สมองประมวลผลอย่างรวดเร็วจากนั้นใบหน้าสวยก็แดงซ่านเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเธอมองหน้าผู้ชายแปลกหน้าที่แขนยังกอดเอวเธอไว้ด้วยแววตาตื่นตระหนก
“อย่าบอกนะ ว่าเมื่อคืนเมาจนจำอะไรไม่ได้ “ พีราวัชรรู้ว่าเธอเมาแต่ก็ไม่ถึงกับจำอะไรได้
คนถูกถามหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม มันทำให้คนมองอดใจไม่ได้ ชายหนุ่มลุกขึ้นมากอดเธออย่างรวดเร็ว พิจิกายังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเขาจุมพิตอย่างดูดดื่มเป็นการต้อนรับวันใหม่ที่ทำเอาเธอใจเต้นแรง ร่างกายของทั้งสองยังเปลือยเปล่า นั้นยิ่งทำให้เธออายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
“ปล่อยค่ะ”
“เมื่อคืนยังขอให้กอดแน่น”
“ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นสักหน่อย” หญิงสาวเถียง
เรื่องแบบนั้นไม่ต้องพูดหรอก ผมรู้ว่าคุณชอบให้ผมกอด แล้วก็ชอบให้ผม..” เขาพูดคแค่นั้นมือเล็กก็รีบปิดปากอย่างรวดเร็ว
“ห้ามพูดแบบนั้นอีก และก็ห้ามบอกใครเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเด็ดขาด”
พีราวัชรพยักหน้า แต่พอหญิงสาวปล่อยมือออกเขาก็รวบมือเธอมากุมไว้ก่อนจะพูดต่อ
“ทำไมละ เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ เรื่องแบบนั้นใครๆ เขาก็ทำกัน”
“ใครๆ ที่ว่านั่นเขาอาจจะเป็นแฟน เป็นคนรักหรือครอบครัว แต่คุณกับฉันมันไม่ใช่ ฉันก็แค่คนเมา”
“คุณหาว่าผมขืนใจคนเมาเหรอ”
“เปล่าฉันไม่ได้หมายความว่าอยากนั้น ฉันแค่เปรียบเทียบว่าเรื่องเมื่อมันเกิดจากความเมา คนปกติที่ไหนเขาจะขึ้นเตียงกับคนอื่นที่เพิ่งรู้จักกันบ้างล่ะ”
“แทนตัวเองว่าผิงได้ไหมครับ”
“ทำไมคะ”
“ผมว่ามันน่ารักดีนะ”
“ไม่ดีกว่า ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราสนิทกัน” แม้ว่าที่นี่จะไม่มีคนรู้จักแต่เธอก็กลัวว่าเขาจะเอาไปพูดที่อื่น
“แต่เราสนิทกันแล้วนะ ถ้าภาษาชาวบ้านก็คือผัวเมีย”
“โอ๊ย!... คุณจะพูดให้ฉันอายใช่ไหม”
“แทนตัวเองว่าผิงก่อนแล้วจะยอมทุกอย่าง”
“แน่นะคะ”
“ครับ”
“คุณพีร์ขา เรื่องของเราผิงอยากให้มันเป็นความลับนะคะ คุณพีร์อย่าบอกใครเด็ดขาด นะคะผิงขอร้องนะคุณพีร์สุดหล่อ”
“แค่หล่อเองเหรอครับ ไม่มีคำชมอื่นแล้วเหรอ”
“อยากให้ผิงชมว่าอะไรล่ะคะ” เสียงหวานถามอย่างประจบ”
“เรื่องความหล่อใครเห็นเขาก็รู้ แต่เรื่องลีลาเด็ดล่ะจะไม่ชมให้ผมชื่นใจหน่อยเหรอครับ”
“วกมาเรื่องใต้สะดืออีกแล้ว ผิงไม่คุยด้วยแล้วค่ะ ผิงจะเข้าห้องน้ำ คุณพีร์กลับไปก่อนได้ไหมคะ”
“ใจร้ายจัง ได้ผมแล้วก็จะทิ้งเลยเหรอ” เขาทำหน้าเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายเสียหาย พีราวัชรนึกขำที่เขาพูดจาหยอกล้อกับพิจิกาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ถ้าลูกน้องมาเห็นคงได้คิดว่าเจ้านายมาดขรึมโดนผีเข้าแน่ๆ
“คุณคะ ฉันเป็นฝ่ายเสียหายนะคะ”
“ผมก็เสียหายนะ เสียให้คุณหลายน้ำเลย”
“คุณพีร์” หญิงสาวทั้งอายทั้งโมโหกับคำพูดของชายหนุ่ม ถ้าใครมาได้ยินก็คงคิดว่าเธอซื่อผู้ชายมานอนด้วย
“เอาล่ะๆ ผมไม่แกล้งแล้ว ผมจะกลับที่พักก่อน คุณนอนพักนะ เดี๋ยวผมสั่งอาหารมาให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการตัวเองได้”
“อย่าดื้อหน่อยเลย แล้วก็อย่าลืมทานยาด้วยนะ”เอามาให้”
“ทำไมต้องทานยาด้วยคะ”
“ไม่ได้บังคับให้ทาน แต่ผมว่าครั้งแรกของคุณคงจะเจ็บมาก เลยอยากให้ทานยาไว้สักหน่อย เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะมารับไปดินเนอร์นะ”
“ดินเนอร์เหรอคะ”
“ใช่สิ อยากไปไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะ” หญิงสาวรับปฏิเสธเพราะกลัวคนอื่นจะเห็นว่าเธออยู่กับผู้ชาย
“งั้นจะทำอะไร หรือเหมือนเมื่อคืน ผมยังไหวนะ”
“ไม่น่ะ”
“งั้นลองบอกมาว่าอยากทำอะไร”
“ฉันแค่อยากเดินเล่น ดูพระอาทิตย์ตกดิน”
“ได้สิ มีจุดชมวิว สายๆ เราเช่ารถมอร์ไซค์ไปกัน คุณซ้อนท้ายได้ใช่ไหม”
“อย่าว่าแต่ซ้อนท้ายเลยฉันขับได้สบายมาก”
“รอผมนะสักห้าโมงกว่า ผมจะมารับ”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับอย่างว่าง่าย
“ไปนะ”
“ค่ะ”
สิ้นเสียงตอบรับคนฉวยโอกาสก็กดจูบลงมาอีกครั้ง มันไม่ได้จาบจ้วงหรือเร่าร้อน แต่มันแฝงไว้ด้วยความหวานและอ่อนโยน
หลังจากเขาออกห้องไปแล้วพิจิกาก็ก้าวลงจากเตียง เธอรู้สึกเจ็บอย่างที่เขาบอก พอเขาไปในห้องน้ำก็ต้องตกใจกับผิวขาวของตนที่เต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบ ทั้งเนินอก เต้าคู่อวบลามไปถึงท้องน้อยและโคนขา
“ไปหิวมาจากไหน”
หญิงสาวยืนบ่นคนเดียวที่หน้ากระจก ยอมรับว่าเมื่อคืนเธอมีความสุข แต่คิดว่ามันถูกต้องเลย เธอเฝ้าทะนุถนอมตัวเองมาถึง 24 ปี แต่เพราะความเมาบวกกับความเสียใจเลยทำให้เธอยอมเป็นของชายแปลกหน้าที่รู้แค่ว่าเขาชื่อพีร์
เขาคงเป็นหนุ่มเพลย์บอยคนหนึ่งที่ช่ำชองกับเรื่องบนเตียงพอมาเจอเธอที่กำลังเมาก็เลยฉวยโอกาส เธอคิ้วขมวดมองหน้ากระจกอีกครั้งแล้วใบหน้าก็แดงไปจนถึงลำคอเมื่อความทรงจำกำลังย้อนกลับมาและมันก็ชัดเจนว่า เขาไม่ได้ขืนใจเธอ เป็นเธอที่ยอมโอนอ่อนไปกับลมปากของเขา
เรื่องนี้พิจิกาอยากให้มันเป็นความลับระหว่างเขาและเธอ ความลับเกาะเสม็ดที่ใครๆ มักจะพูดกันมาเสม็ดเสร็จทุกราย
พออาบน้ำเสร็จ เธอก็ออกมานั่งที่ห้องรับแขกของบ้านพัก ก็พอดีกับพนักงานของรีสอร์ตเอาอาหารเช้ามาให้ บนถาดอาหารมีถุงพลาสติกที่ติดชื่อร้านมาวางอยู่ด้วย
“ขอบคุณนะคะ”
พอพนักงานออกไปแล้วเธอก็ทานอาหารเช้าจนเกลี้ยงจากนั้นก็ทานยาแก้อักเสบตามที่เภสัชเขียนไว้ข้างซองยา ก่อนจะถือหนังสือเล่มโปรดเดินออกไปนั่งอ่านที่ริมสระน้ำ
อ่านไปได้สักพักก็รู้สึกง่วงจึงวางหนังสือลงแล้วหลับตาอย่างเหนื่อยล้า พิจิกากะว่าจะนอนแต่แป๊บเดียวแต่รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อากาศเริ่มร้อนขึ้น วันนี้เธอไม่มีแรงจะออกไปตามชายหาดเหมือนเมื่อวาน จึงโทรสั่งอาหารกลางวันมาทานที่ห้องพัก และรอเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกดินกับผู้ชายที่ชื่อพีร์