ตอนที่ 2 การพบกันระหว่างนายกับฉัน
เย็นวันเดียวกัน
“โอ๊ย...!” ฮานาเอะงอแงเมื่อว่ายน้ำชนใครก็ไม่รู้ทั้งที่สระน้ำออกจะกว้าง
“ขอโทษครับ เจ็บหรือเปล่า”
“เจ็บสิคะ เอ๊ย ไม่เลยค่ะ...!”
เอ๋...? ทำไมเปลี่ยนคำตอบเร็วแบบนั้น...? เมื่อครู่ยังร้องโอ๊ยอยู่เลย...?
หากแต่เมื่อมองไปฉันก็เข้าใจ ฮานาเอะชนกับผู้ชายที่หล่อมากเข้านั่นเอง เพราะอย่างนั้นแทนที่จะหัวโนแดงเธอถึงกลายเป็นหน้าแดงไปเสียได้
อีกฝ่ายก็พอกัน ฉันกำลังเป็นพยานรักให้กับคนที่ปิ๊งกันเพราะหัวชนกันใช่ไหม...? ฉันชอบเวลาเห็นรักแรกพบในหนัง ในมิวสิควีดีโอ หรือในนิยาย แต่ในความเป็นจริงไม่น่ามีเรื่องแบบนั้นได้
“ผมชื่อชินจิครับ” ฝ่ายชายแนะนำตัว เขาเป็นนายแบบนี่ ฉันจำได้ ปีที่แล้วถูกโหวตให้เป็นนายแบบสุดฮอตของญี่ปุ่นอันดับเจ็ด แต่ได้รางวัลนายแบบมิตรภาพในฐานะที่แสนดีและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ”วันนี้มาพักร้อนกับเพื่อนๆ ครับ”
“ฉันชื่อฮานาเอะค่ะ มาพักร้อนกับเพื่อนเหมือนกัน”
“คุณเป็นนางแบบของเฟบิวลัสโมเดลใช่ไหมครับ”
“เอ่อ...ใช่ค่ะ”
“ผมเคยเห็นผลงานถ่ายแบบของคุณนะครับ เยี่ยมมาก”
“เหรอคะ...” ฮานาเอะหน้าแดงใหญ่แล้ว รักแรกพบอย่างไม่ต้องสงสัย
“ผมก็เป็นนายแบบเหมือนกัน สังกัดแกลมโมเดล”
“เอ๋...? นั่นเป็นบริษัทโมเดลลิ่งระดับโลกเลยนี่...!?”
สองคนคุยกันอย่างสนุกสนานตื่นเต้นจนลืมฉัน ฮานาเอะเขินจนม้วนเป็นแยมโรล ส่วนอีกฝ่ายก็ดูสนใจเธอเหมือนกัน หลายนาทีผ่านไปพวกเขายังคุยกันอยู่แต่ในสระจนฉันรู้สึกเหงาขึ้นมา ทว่าทันทีที่จะร้องเรียกเพื่อนกลับถูกน้ำสาดหน้า
ซ่า...!
เปียก...ฮานาเอะเพิ่งสาดน้ำใส่หน้าฉัน
“ฮานาเอะฉันเปียกหมดแล้วนะ...!”
“ใส่บิกินี่อยู่แล้วไม่เห็นจะเป็นไรเลย ฮะๆๆ” จบคำนางแบบขี้เล่นตวัดน้ำสาดหน้าฉันอีกครั้ง จากนั้นพวกเราและเพื่อนใหม่ที่มาจากไหนไม่รู้จึงเล่นสาดน้ำกันอย่างสุดไร้สาระอยู่พักใหญ่ จนในที่สุดชินจิพูดขึ้น
“ฮานาเอะกับมิกะมาแฮงเอาต์กับพวกเพื่อนๆ ของฉันดีไหม อยู่กับพวกเธอฉันรู้สึกสนุกมาก”
“เอ๋ พวกเรา?”
“ใช่ ฉันไม่ได้มาคนเดียว มากับเพื่อนๆ นิสัยน่าคบทั้งนั้น มาเที่ยวหลายวันจะได้ไม่เหงา เผื่อหาอะไรสนุกๆ ทำกัน”
“มีเพื่อนใหม่ฉันชอบอยู่แล้ว...! ”ฮานาเอะกระโดดด้วยความดีใจ
ชินจิจีบเพื่อนฉันจริงๆ นั่นล่ะ แต่ฉันเห็นด้วยว่าเขาเป็นคนน่ารักดี และคงไม่เลวหากจะมีเพื่อนใหม่เพิ่มสักสองสามคน
แล้วการพบปะอันแปลกประหลาดก็เริ่มขึ้นตั้งแต่วินาทีนั้น ชินจิเดินนำ พวกเราเดินตามร่างสูงไปในน้ำจนมาถึงขอบสระอีกฟาก
“เฮ้ อากิโตะ เรนะ เซยะ”
หือ...? เมื่อกี้ชินจิเรียกเพื่อนชื่ออะไรนะ...?
และเมื่อเงยหน้าจากขอบสระฉันก็ต้องนิ่งอึ้ง
นั่นคนที่ฉันเพิ่งด่านี่...!
ร่างสูงโดดเด่นราวกับเจ้าชายผู้เย็นชา ใบหน้าคมคายและริมฝีปากเรียบเป็นเส้นตรงไร้รอยยิ้มของอากิโตะบอกชัดว่าจำฉันได้เช่นกัน ดวงตาสีออบซิเดียนนั้นถึงได้นิ่งราวกับข่มฉันเมื่อชินจิเอ่ยแนะนำ
“นี่เพื่อนใหม่ของฉันชื่อฮานาเอะกับมิกะ น่ารักมากใช่ไหมล่ะ ฮานาเอะ มิกะ นี่เพื่อนๆ กลุ่มฉันชื่ออากิโตะ เรนะ เซยะ”
“ยินดีที่ได้รู้จัก” ทุกคนเอ่ยทักเราอย่างเป็นมิตร ยกเว้นอากิโตะคนนั้น ทว่าไม่แปลกเลยในเมื่อฉันเป็นฝ่ายว่าร้ายเขาก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่าสักวันต้องเผชิญหน้ากัน
“ฉันเหมือนจะเคยเห็นมิกะ เธอเป็นนางแบบที่อาคิระ นาโอะแมวมองชื่อดังเป็นคนค้นพบใช่ไหม เห็นว่าเป็นนางแบบดาวรุ่งของวงการ” เรนะถามฉัน ใบหน้าสวยหวานเปื้อนยิ้มจริงใจ
“ใช่ค่ะที่ว่าคุณนาโอะเป็นคนพบฉัน แต่ฉันไม่ใช่ดาวรุ่ง”
ฉันก็แค่นางแบบธรรมดาเท่านั้น เข้าวงการเพื่อหาค่าขนมส่งตัวเองเรียนจนจบจากวิทยาลัยศิลปะแห่งโตเกียวเมื่อปีที่แล้วและเลี้ยงแม่กับน้อง
“ดาวร่วงเหรอ” อากิโตะถาม สมแล้วที่ในวงการลือว่าเขายะโสและร้าย ฉันชักสีหน้า
“ที่จริงมิกะจะเลิกเดินแบบแล้วล่ะ”ฮานาเอะบอก
“ไม่มีอะไรหรอก อย่าสนใจเลย” ฉันบอกปัด
“เอ๋...? ทำไมล่ะ” หากแต่เรนะถามอย่างสนใจ
“เธอบอกเกลียดสิ่งแวดล้อมในวงการ อื้อ...” ฮานาเอะถูกฉันรวบปากก่อนกระซิบเอ็ดกรอกหูเธอ
“ชู่ว อยู่ต่อหน้าคนในวงการล้วนๆ พูดแบบนี้ได้ไง...!?”
ปลายสายตาฉันเหลือบเห็นดวงตาเยือกเย็นสีออบซิเดียนของอากิโตะตวัดมองมา ใบหน้านิ่งเรียบนั่นราวกับฟังแล้วยิ่งเกลียดฉันเข้าไปใหญ่แต่ไม่เห็นจะกลัวเลยในเมื่อฉันไม่ได้กะจะอยู่ยาว
“ฮานาเอะ ฉันไปก่อนนะ” ฉันบอกเพื่อนทันที หากแต่ฮานาเอะดึงมือไว้
“ไม่ได้นะเธอต้องอยู่เป็นเพื่อนฉัน ไม่งั้นมีงอน!”
“แต่ฉันไม่อยากอยู่”
“งั้นเราตัดพี่ตัดน้องตัดเพื่อนกันนับแต่วินาทีนี้”
ไม่...!
แล้วความซวยของฉันก็เริ่มต้นตั้งแต่วินาทีนั้น การคุยเล่นเรื่อยเปื่อยข้างสระที่เพื่อนใหม่ทุกคนเป็นมิตร หากแต่อากิโตะเขม่นฉัน
“ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่เดินแบบอยู่เมืองนอก อากิโตะก็เหมือนกัน” ชินจิเล่าอย่างเป็นกันเอง “ส่วนเซยะกำลังจะหมั้นเร็วๆ นี้ นามิที่เป็นแฟนเขาและเป็นนางแบบเหมือนกันเพิ่งจะกลับไปเมื่อวาน ติดเดินแบบที่ลอนดอน”
“ขอดูรูปแฟนเซยะหน่อยสิ” ฮานาเอะตื่นเต้น และเมื่อรับมือถือของเซยะที่อวดรูปแฟนให้เห็นก็กรีดร้องประทับใจ “โอ้โหสวยจัง...!”
จากนั้นการพูดคุยที่ฉันอยากลากลับไปหลับก็ดำเนินต่อไป เพราะเกรงใจฮานาเอะหรอกนะฉันถึงยังอยู่ ดีที่อากิโตะเหมือนจะเซ็งฉันหรืออย่างไรไม่รู้ตอนนี้เลยหายตัวไป และเรนะก็เช่นกัน
ไปๆ มาๆ ริมสระเหลือแค่ฉันกับเซยะสองคน ฮานาเอะกับชินจิไม่รู้เดินคุยกันหายไปไหน
“เบื่อหรือเปล่ามิกะ” เซยะถามฉัน เส้นผมสีอ่อน ใบหน้าคมคาย ดวงตาราวกับสีแห่งฟากฟ้าสนธยาที่น่าหลงใหล ฉันรู้ว่าเขาเป็นนายแบบเหมือนกัน ป๊อบมากเสียด้วย อีกทั้งเป็นชายที่ผู้หญิงทั้งญี่ปุ่นคลั่งไคล้ราวกับเจ้าชายในฝัน... “ที่จริงบางทีการมาพักกับเพื่อนหลายๆ คนก็ไม่ใช่เรื่องสนุกเท่าไหร่...จริงไหม...?”
“เห็นด้วย ที่สำคัญฉันถูกฮานาเอะเพื่อนคนเดียวในโลกทิ้งแล้ว”
“ฉันก็เหมือนกัน แฟนเพิ่งทิ้งไปเดินแบบเมื่อวาน” เซยะยิ้ม “ทำให้ฉันเหงาเป็นบ้าเลยรู้ไหม...?”
แล้วเซยะเล่าเรื่องนามิว่าที่คู่หมั้นของเขาให้ฉันฟัง ทำให้ฉันรู้ว่านามิเป็นผู้หญิงที่วิเศษ เธอรักและรอเซยะอยู่ตลอดทั้งที่ตลอดมาเขาเป็นเสือร้าย
แต่ด้วยการรอที่ยาวนานทำให้เธอชนะใจเพลย์บอยอย่างเซยะได้ เขายอมถอดเขี้ยวเล็บและทิ้งลายเสือเพราะรักเธอ ทั้งคู่กำลังจะจัดงานหมั้นในอีกไม่กี่เดือนนี้ที่ปารีส และนั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจ
“ดีใจด้วยนะเซยะ” ฉันเอ่ยเมื่ออีกฝ่ายเล่าจบ
…ดวงตาสีท้องฟ้าใกล้ค่ำมองฉันนิ่งนาน...แปลก...
...แต่ไม่รู้ทำไม...
“ชากุหลาบครับ” เสียงพนักงานเสิร์ฟที่วางแก้วสีกุหลาบเปล่งประกายลงบนโต๊ะทำให้ฉันหายใจทันอีกครั้ง เพราะในที่สุดดวงตาสีราวท้องฟ้าสนธยานั้นก็ยอมละไปจากฉันจนได้ ทว่าเพียงครู่เดียวก่อนจะกลับจ้องมองฉันราวกับตรึง และราวกับไม่อยากละสายตาไป
“แก้วนี้ของมิกะครับ”
“เอ๋...? ให้ฉันเหรอ...?”
“สำหรับเพื่อนใหม่” ดวงตาสีอ่อนยังคงนิ่งมองฉัน....ราวกับสัมผัสเรือนร่างฉันด้วยสายตานั้น แต่ฉันอาจคิดไปเองก็ได้
“ฉันไม่เอาหรอก ไม่เป็นไร อ๊ะ...”
ขณะโบกมือปฏิเสธแก้วชากุหลาบในมือเซยะกลับเทลงราดตัวฉันตั้งแต่อกไปถึงหน้าตัก ตามด้วยเด็กตัวน้อยที่ล้มลงต่อหน้าฉันดังโครม...! เด็กชายเหมือนจะวิ่งเล่นโดยไม่ดูทางถึงได้ชนเซยะเข้าแล้วลื่นไถล
“แง...!” เสียงร้องไห้ของเด็กชายทำให้คนรอบสระหันมองกันใหญ่ เข่าของเด็กน้อยถลอกเสียแล้ว
“อย่าร้องไห้นะคะคนเก่ง พี่มีทาร์ตช็อคโกแล็ตด้วย เอาไหม แต่ต้องหยุดร้องไห้ก่อนนะ” ฉันอุ้มเด็กขึ้นตบหลังปลอบ ไม่นานก่อนที่พ่อแม่เด็กจะมาถึง โค้งหัวขอโทษแทนลูกชายนับสิบครั้งที่ชนแก้วหกจนทำฉันเปียกก่อนขอตัวลากลับ
“ทำเด็กร้องไห้ทำไม” เสียงห้วนเยือกเย็นของอากิโตะเอ่ยตำหนิฉัน หาเรื่องกันชัดๆ ว่าแต่เขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่...?
“ฉันเปล่านะ”
“เด็กวิ่งมาชนพวกเราเองต่างหาก” เซยะแก้ตัวแทนฉัน “ดูสิ มิกะเปียกหมดแล้ว...”
“อา...แย่ชะมัด” ฉันก้มลงดูร่างตัวเอง น้ำชากุหลาบเปียกตั้งแต่คอลงไปถึงเรียวขา ฉันเช็ดไปบ่นไป
“เหนอะไปหมดเลย” ฉันเช็ดอีก “มีทิชชู่ไหม...?”