ตอนที่ 5 แบล็กเมล
คนตัวโตถอดถอนท่อนเนื้อร้อนฉ่าออกมาจากความแน่นหนึบทันที แพนกล้องจากใบหน้าและรูปร่างเย้ายวนลงมายังดอกไม้สาวสีชมพูหวานที่กำลังคายน้ำรักขาวขุ่นออกมาจนเลอะผ้าปูที่นอนสีขาว
“เสียวไหม น้ำตาล”
“ไอ้บ้า หยุดนะ อย่าถ่าย”
เธอลุกขึ้นมาไล่คว้ากล้อง แต่ก็ไม่อาจทำได้เมื่อเขาขยับตัวหนีแต่โทรศัพท์มือถือยังคงบันทึกวิดีโอเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอเต็ม ๆ ก่อนจะกดหยุดการบันทึกนั้นทันทีที่ได้ภาพสมใจ
“เหอะ ภาพสวยนะ ดูไหม เดี๋ยวส่งให้”
“ไอ้ชั่ว แกถ่ายทำไม ลบเดี๋ยวนี้นะ”
“พูดให้มันเพราะ ๆ หน่อยน้ำตาล”
“ทำไมฉันต้องพูดเพราะกับอาชญากรอย่างแกด้วย ฉันบอกให้ลบไง”
“ถ้าพี่ไม่ได้ยินคำพูดดี ๆ เหมือนเดิม พรุ่งนี้เช้าคลิปนี้ว่อนเน็ตนะ”
“นี่แกจะแบล็กเมลฉันเหรอ”
“จะเรียกว่างั้นก็ได้”
“แกต้องการอะไร”
ดวงตาคมกริบกร้าวดุกดดันจนเธอเม้มปากแน่น ก่อนยอมเปลี่ยนคำพูด
“พี่ต้องการอะไร ไหนว่าลบคลิปหลักฐานนั้นไปแล้ว เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกไง พี่บอกพี่ลบไปแล้ว จะมาถ่ายคลิปโป๊น้ำตาลไว้ทำไม พี่แป้งกับพี่กวินก็มีความสุขกันไปแล้ว น้ำตาลยังไม่ได้ทำใครตายเลยนะ”
“หึ ต้องรอให้ตายก่อนใช่ไหม ผู้หญิงอย่างเธอถึงจะสำนึก”
“น้ำตาลก็สำนึกแล้ว”
“ถ้าบอกว่าพี่ไม่เชื่อล่ะ ว่าคนอย่างเธอจะสำนึกได้ง่ายดายขนาดนั้น”
“แล้วพี่จะเอายังไง”
“พรุ่งนี้เย็นไปหาพี่ที่บ้าน”
“มะ ไม่”
“งั้นก็ตามใจนะ พี่ให้เวลาถึงสามทุ่ม ถ้าเธอไม่มา คลิปนี้ว่อนเน็ตแน่”
พูดจบก็ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า ก่อนกลับยังมีแก่ใจหันมาแค่นยิ้มหยันเธออีกครั้ง
“ออกไป ไอ้ชั่ว”
นาตาลีโยนหมอนใส่หน้าเขา แต่เขากลับรับได้แล้วโยนมันคืนมาให้เธอ ก่อนจะผิวปากเดินออกจากห้องนอนไปอย่างอารมณ์ดี
“ไอ้เลว”
นางเอกสาวกรีดร้องลั่นห้อง ทั้งยังปาหมอนอัดประตูไล่หลังก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำ ปิดประตูแล้วรูดตัวลงนั่งกอดเข่าร้องไห้ราวจะขาดใจ
“เธอทำคนที่พี่รักก่อนเองนะ น้ำตาล”
คนที่ยืนอยู่หลังบานประตูห้องนอนพึมพำเสียงเบา ดวงตาคมกริบวาบลึก กัดกรามแน่นแล้วผละออกจากห้องไปในทันที
ในอ่างอาบน้ำที่มีฟองสบู่ฟูฟ่อง เรือนร่างเย้ายวนใช้มือถูแขนและลำคอจนผิวบอบบางแดงเถือก เธอเม้มปากแน่น น้ำใส ๆ ไหลอาบแก้มด้วยความแค้น
“ไอ้ชั่ว”
มือเล็กทุบลงบนผิวน้ำจนแตกกระจายเปียกทั่วบริเวณเพื่อระบายอารมณ์ รู้สึกว่าตัวเองพลาดมากที่เคยคิดจะร่วมมือกับเขาเพื่อแยกกวินกับปุณณดาออกจากกัน ตอนนั้นเธอเผยแผนการให้เขาได้รับรู้และเขารู้ว่าเธอเกลียดปุณณดามากแค่ไหน
แต่คนสับปลับอย่างเขาดันหักหลังเธอด้วยการเปลี่ยนใจไม่ทำตามแผน และเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เขาจึงรู้ว่ามันเป็นฝีมือของเธอ
เรื่องที่เกิดขึ้นจนทำให้ปุณณดาและลูกในท้องเกือบตายก็ทำให้เธอเสียใจเหมือนกัน เธอยอมรับว่าเคยคิดโง่ ๆ ตั้งใจให้สองคนนั้นตายจากชีวิตกวินไปเสีย เขาจะได้กลับมาเป็นของเธออีกครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็เปลี่ยนใจ
ถึงอย่างนั้นแผนการที่ดำเนินไปแล้วก็ไม่อาจยับยั้งได้ทัน งูพิษตัวเขื่องถูกนำมาปล่อยในห้องของปุณณดาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ทั้งที่เธอไปยืนเฝ้าอยู่เป็นนานสองนานเพื่อบอกยกเลิกแผนการกับคนที่เธอจ้างมา
ตอนที่ปุณณดาถูกงูกัด เธอตกใจจนแทบสิ้นสติ เธอไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันร้ายแรงถึงเพียงนี้ และคืนนั้นเธอก็ได้รับโทษทัณฑ์จากการกระทำของเธอแล้ว
แต่ทำไมเขายังไม่ยอมจบ เขาสัญญากับเธอแล้วว่าหลังจากสองคนนั้นแต่งงานกัน เขาจะลบหลักฐานต่าง ๆ ที่เขามี แล้วทำไมเขาถึงถ่ายคลิปเธอเพื่อแบล็กเมลอีก
“ลูกสาว ทำไมตาบวมแบบนั้นคะ เมื่อคืนไปปาร์ตี้ต่อเหรอ”
แจมมี่ ผู้จัดการส่วนตัวที่อวัยวะทุกอย่างในร่างกายเป็นผู้ชายแต่หัวใจเป็นผู้หญิงกรีดร้องเสียงหลงเมื่อเห็นดวงตาแดงช้ำบวมเป่งของดาราสาวในสังกัดหลังจากที่เธอเพิ่งขับรถตามมาที่กองถ่ายโฆษณาในช่วงสาย
นาตาลีที่กำลังนั่งให้ช่างแต่งหน้าลงรองพื้นยกมือขึ้นจับดวงตาตัวเองด้วยความตกใจ เธออุตส่าห์ตื่นแต่เช้าแล้วใช้น้ำแข็งประคบตาอยู่ร่วมชั่วโมง แต่ทำไมมันยังไม่ดีขึ้นมาเลย
“เอ่อ ไม่ได้ไปค่ะพี่แจมมี่”
แจมมี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ช่วงหลังมานี้ดาราสาวของเธอสงบเสงี่ยมผิดปกติ ไม่ได้ทำตัวร้ายกาจดังเดิม อาจเป็นเพราะยังเสียใจเรื่องของกวินก็เป็นได้ และที่ตาบวม ๆ นี่ก็คงเพราะนอนร้องไห้ทั้งคืนแน่ ๆ
“อืม ไม่เป็นไรค่ะ พี่เข้าใจ พี่คะ รบกวนกลบรอยดำใต้ตาให้น้องน้ำตาลหน่อยนะคะ พอดีเมื่อคืนน้องไปร่วมงานแต่งงานจนดึกค่ะ ตื่นมาเลยตาบวมไปหน่อย”
ผู้จัดการส่วนตัวจีบปากจีบคอพูดกับช่างแต่งหน้าชื่อดังที่กองถ่ายโฆษณาจ้างมา ก่อนจะใช้มือแตะบ่าดาราในสังกัดเพื่อให้กำลังใจ
“ตั้งใจทำงานนะคะลูกสาว เดี๋ยวเย็นนี้พี่แจมมี่พาไปดินเนอร์ค่ะ”
“เอ่อ ค่ะ”
นาตาลีรับปากผู้จัดการส่วนตัวอย่างเสียไม่ได้ ในใจกังวลกับนัดของผู้ชายคนนั้น แม้จะไม่อยากไปพบเขาแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อาจเสี่ยง
แล้วการถ่ายทำโฆษณาครีมอาบน้ำชื่อดังก็จบลงด้วยดี นาตาลีถือกระเป๋าแบรนด์เนมราคาหลักล้านเดินกลับไปที่รถยนต์ของตนเองโดยมีแจมมี่ถือของพะรุงพะรังเดินตามมาติด ๆ
“น้องน้ำตาล รอพี่แจมมี่ด้วยสิคะ”
นาตาลีชะงักเท้า หันกลับไปมองหน้าผู้จัดการส่วนตัวด้วยความตกใจ ก่อนหน้านี้เธอทำงานจนไม่รู้เวลา มารู้ตัวอีกทีตอนที่เปลี่ยนเสื้อผ้า อีกหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็จะถึงกำหนดที่ผู้ชายชั่วช้าคนนั้นให้ไว้
“พี่แจมมี่ เอาไว้วันหลังนะคะ วันนี้น้ำตาลรีบค่ะ ไปก่อนนะคะ”
คนตัวบางเหยียบคันเร่งออกตัวจนฝุ่นตลบ เปิดไลน์ที่ผู้ชายคนนั้นแชร์โลเคชันบ้านของเขาให้เธอตั้งแต่เมื่อคืน
แล้วรถยนต์คันหรูก็มาจอดเทียบหน้าประตูบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ในหมู่บ้านจัดสรรที่ขึ้นชื่อเรื่องราคาแพงได้ทันเวลาพอดิบพอดี
เสียงกดออดหน้าบ้านเรียกรอยยิ้มมุมปากของเจนณรงค์ที่กำลังนอนกล่อมลูกสาววัยสี่ขวบ เขาปิดเล่มนิทานเรื่องโปรดของลูกสาว ห่มผ้าให้จนถึงหน้าอก จูบหน้าผากมนอย่างแสนรักใคร่ แล้วลุกขึ้นปิดไฟดวงใหญ่กลางห้อง ก่อนจะเดินออกจากห้องของลูกสาวไปทันที
คนตัวบางที่ยังนั่งอยู่ในรถยนต์คันหรูของตัวเองหลังจากลงไปกดออดมาเชิดหน้าสูง สูดลมหายใจลงปอดลึก ๆ มองผู้ชายรูปหล่อเรือนร่างเพอร์เฟคในชุดอยู่บ้านแบบสบายออกมาเปิดประตูรั้วแล้วเดินมาหาเธอถึงรถ
“มาสาย”
เขายกนาฬิกาข้อมือเรือนหรูราคาหลักล้านขึ้นดูเวลา มันเกินไปเพียงสามนาทีเท่านั้น และที่เกินก็เพราะว่าเขามัวแต่อ้อยอิ่งจูบลาลูกสาวและกลับเข้าห้องของตัวเองเพื่อเปิดแอร์เตรียมความพร้อม
“น้ำตาลมาถึงทันเวลา แต่พี่นั่นแหละที่ลงมาช้า”
“พี่ผิดหรือ”
ดวงตาคมวาบขึ้นในความมืด ทำเอาคนตัวบางขนลุกซู่ จึงกระแอมลดความประหม่า
“ให้น้ำตาลมาหาทำไม มีอะไรก็รีบพูดมาสิ”
“เข้าบ้านสิ”
“คุยนานหรือ ถ้าไม่นานก็คุยตรงนี้ก็ได้”
“นาน และไม่ได้จะคุย”
เธอเม้มปากแน่นอย่างขัดใจ ที่จริงก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเรียกเธอมาหาเพื่ออะไร
“แต่ลูกพี่อยู่ที่บ้านไม่ใช่เหรอ ถ้าน้ำตาลเข้าไป น้องเกลไม่สงสัยหรือไง”
“น้องเกลหลับไปแล้ว อีกอย่างพี่ให้ลูกนอนแยกห้องมาเป็นเดือนแล้วด้วย เธอไม่ต้องกลัวหรอก บ้านพี่เก็บเสียง เธอร้องครางได้เต็มที่เลย”
“พี่เจน”
“คนอย่างเธอมีอะไรต้องอาย เข้าบ้านสิ”
เธอเปิดประตูรถแล้วเดินตามเขาเข้าไปในบ้าน แม้เขาจะเปิดประตูรั้วจนกว้างเพื่อให้เธอขับรถเข้าไปจอดก็ตาม
“ทำไมไม่เข้ามาจอดในบ้าน”
เธอมองลานจอดรถมีหลังคาด้านข้างตัวบ้านชิดมุมหนึ่งของรั้ว บ้านของเขาหลังใหญ่ พื้นที่กว้างขวาง จัดสวนสวยและดูน่าอยู่มาก แต่เธอไม่คิดจะอยู่นาน
“คงไม่นานมั้งคะ จอดตรงนั้นนั่นแหละค่ะ จะได้สะดวกตอนกลับ”
“ถ้าออกมาตอนฟ้าสว่าง แล้วไม่กลัวว่าจะมีคนเห็นหน้าเธอก็ตามใจ”
เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ที่เขาพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร เขาจะปล่อยเธอกลับตอนเช้าเลยหรือ
“น้ำตาลอยู่ได้ไม่นานนะคะ”
“พรุ่งนี้เธอไม่มีงาน พี่ถามจากพี่แจมมี่มาแล้ว”
“ไม่มีงานก็จริง แต่น้ำตาลไม่นอนค้างที่นี่”
“เรื่องนั้นพี่จะเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่เธอ”
เขาคว้ากุญแจรถจากมือเธอ แล้วออกไปขับรถของเธอเข้ามาจอดข้างกันกับรถยนต์คันหรูของเขา แล้วจับมือพาเข้าไปในบ้านโดยไม่สนใจว่าเธอจะพยายามสะบัดมือนั้นออกจากการเกาะกุมแค่ไหนก็ตาม
“ไปอาบน้ำซะ”
เขายื่นผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ให้กับเธอเมื่อพาเข้ามาในห้องนอน เธอกวาดตามองจนทั่วห้องกว้างที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงบ่งบอกรสนิยมและรายได้แล้วก็ต้องแปลกใจ ว่าผู้กำกับการแสดงอย่างเขามีเงินมากมายขนาดนี้เชียวหรือ
“ทำไม แปลกใจหรือไงว่าทำไมพี่มีปัญญามีบ้านหลังใหญ่อยู่”
ราวกับเข้ามานั่งในหัวใจของเธอเมื่อเขาอ่านสายตาคู่นั้นขาด
“ค่ะ บ้านหลังนี้ได้มาจากการแบล็กเมลใครล่ะคะ หรือว่าภรรยาเก่า”
“เหอะ แล้วแต่จะคิด”
เธอเบะปากอย่างหมั่นไส้ แล้วแต่เธอจะคิด เธอก็ต้องคิดว่าคนเจ้าเลห์ร้ายกาจอย่างเขาคงมีเงินทองทรัพย์สมบัติมากมายขนาดนี้มาจากการแบล็กเมลชาวบ้านแน่นอน
โชคดีแค่ไหนแล้วที่ปุณณดาหลุดพ้นจากผู้ชายคนนี้ได้ ไม่เหมือนเธอที่โคตรซวย ทั้งหมดนี้มันคงเป็นบาปกรรมจากการที่เธอคิดร้าย คิดเบียดเบียนชีวิตและอยากจะแย่งสามีของคนอื่นแน่ ๆ ถึงทำให้เธอเจอกับเขา และวิบากกรรมครั้งนี้เธอยังไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากก้มหน้ารับกรรม
“ที่จริงพี่เรียกเงินน้ำตาลมาได้เลยนะ จะกี่ล้านน้ำตาลก็ยอมจ่าย ขอแค่เรื่องนี้มันจบไปซะ ขอแค่พี่ยอมลบคลิปจริง ๆ”
“สักสามสิบล้านเป็นไง”