เสียวอะไรในห้องนั้น
หล่อนเป็นผู้หญิงสวย ใบหน้าคมหวานเหมือนน้าอารี ผิวขาวอมชมพูตามธรรมชาติเหมือนพ่อที่มีเชื้อแผ่นดินใหญ่ที่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ได้ผอมบางแต่ก็ไม่อ้วน เป็นผู้หญิงขาวอวบมีเนื้อหนังมังสาเป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ แต่หล่อนก็ไม่เคยคบหาใครสักที
“ แค่ตั้งใจเรียนกับทำงานและคอยแก้ปัญหาที่พี่ชายไปทำไว้ อายก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นแล้วเพียว ” หล่อนว่ามาอย่างนี้ แล้วมันก็จริงเสียด้วย
เอก พี่ชายของอายเอาแต่สำมะเลเทเมา ติดเหล้ายาและการพนัน น้าอารีผู้เป็นแม่ก็ไม่เคยดุด่าอะไรลูกเลย ด้วยความเป็นคนใจดีและใจเย็นเหลือล้น ยิ่งตอนนี้น้าอารีมาล้มป่วยเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ ทั้งยังมีเบาหวานความดัน ทำให้ไปขายขนมจีนอย่างที่เคยทำมาตลอดชีวิตไม่ได้ ภาระหนักจึงตกอยู่ที่อริสาแต่เพียงผู้เดียว
“ อายอยากมาลองทำงานที่โรงแรมของเราดูไหม เงินเดือนก็ดี บวกทิปยิ่งเยอะ ดูเด็กยกกระเป๋าอย่างเราสิ เงินเดือนแค่หมื่นห้า แต่รวมทิปแล้วได้ตั้งสามสี่หมื่นห้าหมื่น ยังเคยเลย ” เอกเอ่ยชวน อริสาหันมามองอย่าง สนอกสนใจ
“ อยากทำเหมือนกันนะ แต่จะมีตำแหน่งอะไรให้อายทำได้ล่ะ ที่จะได้เงินเยอะ ๆ คนทำงานโรงแรมต้องสวยกันทั้งนั้น ”
“ อายก็สวย ไม่รู้ตัวหรือไง ” เพียวว่าด้วยสีหน้าจริงจังอริสาหัวเราะพรืด
“ ขอบคุณที่ให้กำลังใจเพื่อนนะ เพียวนี่เป็นเพื่อนที่ดีจริงจริ๊ง ”
“ เอ้า เราพูดจริง คนบ้าอะไรไม่รู้ว่าตัวเองสวย แต่คืออายไม่ได้มีเวลามากพอที่จะดูแลตัวเอง แต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนคนอื่นเขาไง ”
“ อายเนี่ยนะสวย สวยที่สุดในโลกส่วนตัว ยิ่งมุมสลัว ยิ่งมั่นใจน่ะสิ ว่าแต่ว่าอายเอาจริงนะ มีงานอะไรที่พอจะทำได้บ้าง ลองไปทำนอกเวลางานก่อนก็ได้ ถ้ารายได้มันดี อายจะลาออกจากที่เก่า ไม่ไหวว่ะ ทำงานงก ๆ เหนื่อยเป็นบ้าแต่เดือน ๆ หนึ่งได้แค่หมื่นต้น ๆ เงินเท่านี้ถ้าใช้กันอย่างประหยัดบวกค่ายาแม่มันก็พอ ถ้าไม่ติดไอ้พี่เอก ”
หล่อนพูดถึงพี่ชายแล้วเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ เดี๋ยวเราจะลองไปถามพี่ที่นั่นให้นะ ”
“ ขอบใจนะเพียว ” อายว่าพร้อมกับรอยยิ้มอย่างซาบซึ้งในน้ำใจของเพื่อนรัก
สองวันถัดมา
อริสาได้เข้าไปทำงานด้วยความมีเส้นสายจากเพียวในตำแหน่งแม่บ้านพาร์ทไทม์ เนื่องด้วยคุณแม่บ้านคนเก่าถูกระเห็จออกด้วยคดีขโมยของลูกค้า ป้าสมร หัวหน้าแม่บ้านที่เพียวค่อนข้างสนิทด้วยก็เลยบอกให้มาลองงานดูก่อน
“ เอาน่าอาย เดี๋ยวก็ค่อยขยับไปตำแหน่งอื่น อย่าคิดมาก ” เพียวปลอบใจเมื่อไปแจ้งข่าวเพื่อนที่ยิ้มร่า ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับการที่ต้องไปทำตำแหน่งดังกล่าว
“ เฮ้ย คิดมากอะไรเพียว อายดีใจเสียอีกที่ได้งานทำ ป้าบอกให้เข้างานเที่ยงจนไปถึงหกโมงเย็น ดีเลย อาทิตย์นี้อายจะแลกอยู่เวรกะดึกเสียให้หมด จะได้มีเวลามาทำงานเสริมอีกเต็มที่ ” เพียวมองใบหน้าหวานของเพื่อนอย่างเห็นใจ
“ เออ งั้นก็สู้ ๆ นะอาย แต่ถ้าไม่ไหวก็พัก หักโหมมากเดี๋ยวจะล้มตึงเอา ”
“ รู้น่า ขอบใจนะเพื่อน ” อริสาเอ่ยขอบคุณเพื่อนจากใจจริง
แล้วหล่อนก็ได้เริ่มงานวันแรกของเที่ยงวันนั้น
“ เดี๋ยววันนี้เริ่มทำที่ชั้นยี่สิบหกนะลูก มันจะเป็นห้องสูท ป้าจะสอนเราก่อนว่าต้องทำอะไรบ้าง ”
“ ได้เลยค่ะป้าสมร ” อริสาตอบด้วยรอยยิ้มเต็มอกเต็มใจ
อริสาเข็นรถอุปกรณ์ทำความสะอาดขึ้นลิฟท์ตามป้าสมรและพี่แม่บ้านอีกคน พร้อมทำให้เป็นตัวอย่างว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ผ่านไปสองห้องหล่อนก็คล่องแคล่วขึ้นด้วยความหัวไวและตั้งใจ ป้าสมรจึงวางใจให้หล่อนเข้าไปทำความสะอาดคนเดียวได้ ส่วนตัวเองนั้นกลับไปกินมื้อเที่ยงรอที่ห้องพักแม่บ้าน
อริสาตรงไปยังห้องสูทที่อยู่ริมสุด เสียบการ์ดแล้วเปิดห้อง เข็นเครื่องมือเข้าไปเพื่อจะทำความสะอาด พลันหูก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
“ Ahhh , kill me pleaseeee ”
ขนแขนของอริสาลุกชัน หล่อนเป็นคนกลัวผีขี้ขึ้นหัว แล้วไอ้เสียงแหบพร่าลอยตามลมมาเบา ๆ นั่นก็ไม่รู้ผีหรือคนกันแน่
อาจจะเป็นลูกค้าที่ยังไม่ได้เช็คเอาท์ แต่ป้าสมรเช็คจากในระบบคอมพิวเตอร์ว่าไม่มีลูกค้าตกค้างแล้วนี่นา
“ Awwwwwww ! ”
หล่อนสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ !