เหนือพันธะ 5 : ไฟ&ไฟ 1/2
ณ ห้องสมุดมหาลัย
ผ่านเหตุการณ์นั้นมาหลายอาทิตย์ลัลลาเบลก็ยังไม่ยอมกลับมาเรียน เราทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงเพราะฉันเข้าไปวุ่นวายชีวิตเธอเกินหน้าที่ของเพื่อนทำให้เราต่างห่างกันออกไป ฉันพยายามติดต่อเธอทุกทางแต่ก็ไร้ความหมาย
“เพื่อนล่ะคะ” พี่เฮเลนนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามถามขึ้น
“ยังไม่กลับมาเรียนเลยค่ะ”
“ไม่ใช่ความผิดของ...” พี่เฮเลนเหมือนจะยังไม่ชินกับการเรียกชื่อแฝงของฉันเฉย ๆ
“คริสค่ะ”
“ไม่ใช่ความผิดของคริสเลยนะคะ การที่เราเป็นห่วงเพื่อนที่หลุดเข้าไปวงโคจรแบบนั้น” พี่เฮเลนรู้ว่าฉันเป็นกังวลกับเรื่องนี้ จึงค่อยเข้ามาปลอบใจอยู่บ่อยครั้ง
“ค่ะ เดี๋ยวสักวันมันก็ดีขึ้นแหละ พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ก็มีงอนกันบ้างตามประสาผู้หญิงพี่เฮเลนเคยเป็นมั้ยคะ”
“ประจำค่ะ พวกพี่ทะเลาะกันเองเวลาว่าง ๆ ก็มี”
“น่ารักจังเลยนะคะ” มีทะเลาะกันเวลาว่างด้วย
“พี่ไม่รบกวนเวลาแล้ว ขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ” พี่เฮเลนลุกขึ้นยืนแล้วส่งยิ้มหวานมาให้
“บ้ายบายค่ะ” มือเล็กยกขึ้นโบกไปมา มองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินออกจากห้องสมุดไป
ฉันหันกลับมาสนใจงานในโน้ตบุ๊คของตัวเองต่อ นิ้วเรียวเลื่อนคลิกหน้าจอเว็บของมหาลัยขึ้นมา แต่จู่ ๆ ก็มีข้อความแจ้งเตือนในอีเมลนักศึกษา ลูกศรคลิกเข้าดูก็พบว่าเป็นลิงก์จากเมลไม่ระบุตัวตน
“ว้าย! อะไรเนี่ย!” เสียงร้องของคนในห้องสมุดดังขึ้น
“เฮ้ย! นี่มัน...” ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบตัว ก็พบว่าทุกคนต่างดูหน้าจอโทรศัพท์และโน้ตบุ๊คของตัวเองหรือเมล์นี่จะถูกส่งหาทุกคนในมหาลัย มือเล็กเลื่อนเมาส์คลิกลิงก์นั่นและสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอทำเอาฉันนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
“....!!”
เป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมีเซ็กส์ ใบหน้าคุ้นเคยของเธอที่ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ กลุ่มผู้ชายยืนล้อมเห็นเพียงส่วนล่าง ราวกับว่าพวกเขายืนรอคิวที่จะทำกับ...ลัลลาเบล
ปึก! หน้าจอปิดลงเต็มแรงฉันรีบเก็บของแล้วเดินออกจากห้องสมุด เรื่องบ้าอะไรอีกแล้ว!
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!
ฉันกดโทรออกหาลัลลาเบลแต่อีกฝ่ายก็ไม่มีใครรับ ตลอดทางเดินทุกคนมองด้วยสายตาแปลก ๆ คงเพราะบางคนรู้ว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน ผู้ชายพวกนั้นไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นใคร แต่ผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนฉันแน่นอน
ปึก!
“พระราชวังค่ะ” ฉันขึ้นมานั่งบนรถแท็กซี่แล้วบอกจุดหมายปลายทางโดยที่ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมอง มือก็กดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนตัวเอง
“ท ที่ไหนนะครับ”
“พระราชวังของอิตาลีมีที่เดียวค่ะ ไปเลยค่ะ ด่วน!” แท็กซี่รีบขับตรงไปยังจุดหมายทันที ก่อนจัดการว่าใครปล่อยภาพทั้งหมดขอตามสืบก่อนก็แล้วกันว่าจากที่ไหน
ณ สำนักงานการดูแลประจำราชวงศ์
“เมลนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้เลยค่ะเจ้าหญิง ไม่ทราบแหล่งที่มาและใครเป็นผู้ส่ง ระบบปิดตัวตนดีเยี่ยมมากเลยค่ะ”
“....” แม้แต่ระบบคนของฉันยังตรวจสอบไม่ได้
“ลิงก์ที่ส่งเข้าเมลของเพื่อนเจ้าหญิงเหมือนว่ามันจะถูกเปิดดูแล้วนะคะ” เจ้าหน้าที่พูดขึ้นทำให้ฉันรีบตรงเข้าไปดูทันที
“เช็กให้หน่อยว่าอุปกรณ์ที่เปิดเมลตั้งอยู่ที่ไหนคะ”
“ที่คอนโดZค่ะ” คอนโดของลัลลาเบล
“ยังไงก็ต้องหาคนที่ส่งมาให้ได้นะ เดี๋ยวเรากลับมา” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปที่รถทันที ทำไมเรื่องราวมันกลายมาเป็นแบบนี้ได้ล่ะ เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอลัลลาเบล...
ณ คอนโดZ ห้องชั้น56
“กรี๊ด!!!”
เสียงกรีดร้องราวกับคนจะขาดใจตาย เลือดสีแดงไหลออกจากฝ่ามือที่เกิดจากผู้เป็นเจ้าของห้องฟาดเข้ากับกระจกห้องน้ำ เศษแก้วเกลื่อนพื้นห้อง ความวุ่นวายเกิดขึ้นไม่หยุดเมื่อผู้หญิงตรงหน้าไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้
“วางของในมือลงก่อนนะครับ”
เพล้ง! ยังไม่ทันจะขาดคำขวดแก้วในมือก็ถูกปาทางที่ฉันยืนอยู่ ผู้ดูแลที่ตามมาด้วยต่างพากันเอาตัวบังฉันไว้
“พี่สเตฟาน กรี๊ด! ฉันต้องการเจอเขา ฉันอยากเจอเขา ฉันจะอยู่กับเขา!” ลัลลาเบลพูดคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา
“ลัลลาเบล...” เสียงเรียกที่แผ่วเบาของฉันทำให้เธอหันมามอง
ใบหน้าสวยหวานบัดนี้เลอะไปด้วยคราบเลือด ริมฝีปากบางสั่นส่งเสียงสะอื้น เธอเบะปากร้องไห้ราวกับเด็กน้อยถูกทอดทิ้ง ลัลลาเบลก้าวเดินเหยียบเศษแก้วตรงเข้ามาหาฉัน แต่ผู้ดูแลที่ยืนบังทำให้เธอหยุดชะงักอยู่กับที่
“ทุกคนออกไปจากฉัน” คำสั่งแผ่วเบาที่ทำให้ทุกคนต้องหันมามอง
“....”
“ไปสิ” และในที่สุดพวกเขาก็ยอมถอยออกไปยืนรอมุมห้อง
ตรงหน้าของลัลลาเบลเหลือเพียงแค่ฉันเท่านั้น แขนเล็กอ้ากว้างออกเป็นสัญญาณให้เธอเข้ามาได้ เพื่อนเพียงคนเดียวของฉันตอนนี้เป็นเด็กน้อยที่ถูกทอดทิ้งไปแล้ว
หมับ! ลัลลาเบลตรงเข้ามากอดฉันไว้แน่น เธอซบหน้าลงบนไหล่เล็กแล้วระเบิดเสียงร้องไห้ออกมา
“ฮือ!! ฉันถูกบังคับให้เล่นยาฉันถูกหลอกจากคนพวกนั้น พวกเขาข่มขืนฉันแล้วก็ถ่ายคลิป ฉันถูกหลอก! ฮือ!”
“ปลอดภัยแล้วนะ ฉันจะดูแลเธอเอง” มือเล็กยกขึ้นลูบหัวเพื่อนด้วยความอ่อนโยน
“พี่สเตฟานเขาไม่เคยรักฉันเลยเขาไม่เคยรักฉัน เขาไม่สนใจว่าฉันจะกำลังท้องอยู่ ฮือ!!” ท้องเหรอ....
“เราเลี้ยงหลานได้จะช่วยแกเลี้ยงนะ”
“เขาไม่อยู่แล้ว ลูกของฉันกับเขาไม่อยู่แล้ว ฮือ!”
“หมายความว่าไง” ยิ่งฟังฉันก็ยิ่งโมโหจนตัวสั่น
“กรี๊ด!! เขาไม่สนใจฉัน เขาทำร้ายฉัน! แกได้ยินมั้ยว่าเขาทำร้ายฉันกับลูก กรี๊ด!”
จู่ ๆ ลัลลาเบลก็กรีดร้องอย่างสติแตกขึ้นอีกครั้ง มือเล็กที่โอบกอดเปลี่ยนเป็นมาบีบคอฉันเต็มแรงความวุ่นวายถึงขีดสุดกลับมา ผู้ดูแลทุกคนต่างเข้ามาแยกเธอออกห่างจากตัว เสียงกรีดร้องแทบขาดใจทำให้ฉันน้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“อย่ารุนแรงกับเธอ เธอไม่ได้ตั้งใจ!” ฉันพยายามบอกผู้ดูแล แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะสิ่งที่เธอทำลงไปจะถูกตีความหมายว่า ‘ทำร้ายเชื้อพระวงศ์’
1 เดือนต่อมา
เรื่องราวของลัลลาเบลเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากภายในมหาลัย ฉันยังคงมาเรียนปกติและไม่สามารถหลุดลอดไปจากความอยากรู้อยากเห็นของคนรอบตัวไปได้เลย
“ลัลลาเบลเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้านจิตเวชด้วยนะ” เสียงพูดคุยของเพื่อนที่นั่งอยู่ใกล้กันดังขึ้น
ฉันเก็บของทุกอย่างแล้วเดินออกจากห้องไปทันทีเมื่อหมดคาบเรียน เรื่องนี้ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วมันก็ยังไม่มีข่าวว่าจะเงียบลงได้เลย แม้แต่เขา...ฉันก็ยังไม่เจอตัว แต่วันนี้แหละที่เราจะได้เจอกัน
ร่างบางเดินมาหยุดรอหน้าห้องเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ดวงตากลมจ้องมองไปที่ประตูเลื่อนบานใหญ่ รุ่นพี่ที่กำลังเดินออกต่างหยุดชะงักแล้วมองมาที่ฉัน เรื่องที่เกิดขึ้นของลัลลาเบลทำให้พวกเขารู้จักฉันไปด้วยในฐานะของเด็กกำพร้าปากดีใส่ทายาทตระกูลใหญ่
“....” จะว่าไปก็ชินแล้วนะกับสายตาของทุกคน
“อุ้ย! นี่น้องคริสนี่คะ” เสียงทักทายของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
“....” แต่ฉันไม่สนใจเธอเลยสักนิด สายตาจ้องมองไปยังร่างสูงโดดเด่นข้างหลังที่กำลังเดินออกมา
“นอกจากจะปากเก่งแล้วยังเมินเก่งอีกจริง ๆ” ผู้หญิงคนเดิมยังพูดมากไม่หยุด นัยน์ตาคมปาดมองหญิงสาวตรงหน้า
“นึกออกแล้วพี่นี่เอง...พี่ที่ถูกหนูกระชากหัวใช่มั้ยคะ สภาพหนังหัวไม่ค่อยดีเลยนะตอนนั้นเส้นผมหลุดติดมือมาด้วย” เสียงพูดที่ดังชัดถ้อยชัดคำทำเอาทุกสายตาหันมองไปที่เธอ
“อีเด็กนี่!” เธอเอื้อมมือมาจะถึงตัวฉัน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีมือมาคว้าจับเอาไว้
“ทำอะไร” เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูนี่...พี่เฮนรี่
“.... เจ้าชาย” เธอพึมพำแล้วก้มหน้าหลบสายตา ลืมไปเลยว่าพี่เฮนรี่อยู่สาขานี้ด้วย
“คริส” เสียงเรียกของพี่เฮนรี่ก็ไม่สามารถทำให้ฉันละสายตาจากคนที่เดินออกมาได้
“ขอบคุณที่เข้ามาช่วยจัดการนะคะ” กล่าวขอบคุณโดยที่ไม่คิดจะหันไปมอง ฉันก้าวเดินผ่านทุกคนเข้าไปหยุดยืนดักหน้าสเตฟาน
กึก!
ขายาวหยุดชะงัก นัยน์ตาคมก้มมองหญิงสาวตัวเล็กที่เข้ามายืนดักหน้าเขาเอาไว้
“....”
“วันนี้ว่างมั้ย”
“....” สเตฟานทำทีจะเดินหนี แต่ฉันก็ก้าวเท้าขยับไปดักหน้าเขาอีกที
“อ่อ ลืมไปค่ะว่าคุณสเตฟานไม่คุยกับเด็กกำพร้าแบบฉัน”
“ก็รู้ตัวนิ” หึ!
“จะต้องทำยังไงถึงจะได้คุยคะ”
“ก็...” เขาหันมองไปทางพี่เฮนรี่แล้วหันกลับมามองหน้าฉัน
“....”
“เอาคนที่อยู่สูงกว่าฉันมาคุยสิ ทำได้หรือเปล่า”
“ถ้าอยู่สูงกว่าตระกูลคาร์พาเธียก็ต้องเป็นราชวงศ์แล้วนะ”
“ถ้าทำได้จะคุยด้วย ขอโทษทีฉันไม่คุยกับเด็กกำพร้า” พูดจบก็เดินผ่านไปทันทีต้องอยู่สูงกว่าถึงจะคุยด้วยใช่มั้ย ได้....