บท
ตั้งค่า

แอบปลื้ม

14:50 PM.

หลังจากอาจารย์เดินออกจากห้องเรียนไป ฉันกับบัวตองก็เดินออกจากห้องเรียนมานั่งเล่นยังใต้ร่มไม้ใหญ่ข้างตึกคณะ อากาศในตอนบ่ายค่อนข้างร้อนมาก แต่พอได้นั่งอยู่ใต้ร่มไม้แบบนี้แล้ว กลับรู้สึกเย็นสบายเพราะมีลมพัดผ่านตลอดเวลา

ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นไปพลางๆ รอเวลาที่พี่เฟยหลานชายเพื่อนคุณตามารับ ตามที่แม่เฌอรีนของฉันได้บอกไว้ ใจจริงฉันอยากจะชิ่งกลับก่อนซะด้วยซ้ำ ถ้าไม่กลัวว่าจะต้องมาทะเลาะกับแม่ทีหลังน่ะนะ

“อาทิตย์หน้ามีเข้าค่าย มึงว่างไหม ไอ้ยู” เสียงพูดคุยดังขึ้นจากโต๊ะด้านหลังของฉัน

ปกติฉันก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไรอยู่แล้ว แต่พอผู้ชายคนที่พูดเมื่อกี้ได้เอ่ยชื่อใครบางคนออกมา มันก็เลยทำให้ฉันอดที่จะหันไปมองไม่ได้

และเมื่อฉันหันหลังไปมองสายตาของฉันก็สบเข้ากับเขาคนนั้นพอดี ฉันรีบหันกลับมามองหน้าเพื่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้... เขาทันเห็นรึเปล่านะ คงไม่หรอก เขาไม่รู้หรอก...

“แกเป็นอะไรรึเปล่า มิริน ดูท่าทางแปลกๆ” บัวตองถามพร้อมกับชะเงอคอมองไปยังด้านหลังของฉัน

“ไม่มีอะไร” ฉันรีบตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างตื่นๆ

“แต่ท่าทางแกมันมีพิรุธมากอ่ะ” บัวตองเหล่ตามองฉันอย่างจับผิด และจังหวะที่ฉันคิดว่าเพื่อนจะเลิกสนใจแล้ว แต่เปล่าเลย บัวตองกลับยื่นมือยาวๆ ของเธอออกมาผลักหัวฉันให้พ้นทาง ก่อนที่เพื่อนจะมองไปยังโต๊ะที่ด้านหลังของฉัน

“นั่นมันกลุ่มรุ่นพี่ปีสามนิ” บัวตองหันมามองหน้าฉันอีกครั้ง

“ก็ใช่ไง ไม่มีอะไรสักหน่อย” ฉันตอบเพื่อน พร้อมกับเซลูกตาไปทางอื่น พยายามทำตัวเนียน แต่ทำไมถึงรู้สึกว่า ยิ่งทำ ยิ่งไม่เนียน

“แกตอบฉันมาตามตรงนะมิริน ที่นั่งอยู่ในกลุ่มนั้นนะ แกเล็งใครไว้” สมกับเป็นเพื่อนรักฉันจริงๆ รู้ทันไปซะทุกเรื่อง ฉันรอบถอนหายใจอย่างปลงๆ ฉันไม่มีวันปิดบังอะไรบัวตองได้เลย

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็มองไปเรื่อยแหละ” เรื่องอะไรจะยอมรับง่ายๆล่ะ ขืนตอบไปตามตรงมีหวังโดนยัยเพื่อนบ้าล้อแน่ๆ

“พี่ยูใช่ป่ะ” ฉันถึงกับสะดุ้งทันทีที่บัวตองเอ่ยชื่อรุ่นพี่คนนั้นออกมา ก็ดันเดาถูกซะได้

“ไปเป็นหมอดูเหอะ!” ฉันบอกเพื่อนอย่างประชด

“จริงด้วย” บัวตองทำท่าชูกำปั้นทั้งสองข้างขึ้นอย่างดีใจที่นางดันเดาถูก

“อย่าบอกใครนะ” ฉันกระซิบบอกเพื่อนเสียงเบาหวิว

“พูดแบบนี้ เหมือนแกไม่เห็นฉันเป็นเพื่อนเลยอ่ะ” บัวตองทำท่าน้อยใจ

“ไม่ใช่แบบนั้น..” ฉันยื่นมือไปลูบผมบัวตองเล่น เหมือนผู้ใหญ่ปลอบเด็กน้อย

“พอเลยแก ถ้าชอบก็จีบเลยสิ มัวรออะไรอยู่” บัวตองเสนอ

“ไม่กล้าอ่ะ พี่เขาฮอตจะตาย คนตามจีบยาวเป็นหางว่าว ฉันสู้เขาไม่ได้หรอก” ก็นะ.. พี่ยูออกจะฮอตในหมู่สาวๆ จะตาย ฉันไม่อยากฝ่าดงตีนเข้าไปหรอกนะ แค่แอบปลื้มก็พอแล้ว

“แกสวยออกมิริน มั่นใจหน่อยสิ” บัวตองยื่นมือของเธอมาจับมือฉันอย่างให้กำลังใจ

“ไม่กล้าอยู่ดี” ฉันทำหน้าง้อนิดหน่อย เพราะเซ็งตัวเองเหมือนกันที่ไม่มีความกล้าอะไรเลย

ติ่ง!! เสียงไลน์กลุ่มดังขึ้น ฉันกับบัวตองแทบจะเปิดดูพร้อมกันอยู่ล่ะ

ประธานปีสอง : เรียกประชุมปีสองทุกคน ที่หอประชุม

ฉันกับบัวตองหันมามองหน้ากันอย่างงงๆ ประชุมอะไรกันนะ?

ฉันกับบัวตองเดินเข้ามายังหอประชุมก็เจอกับน้องปีหนึ่ง ปีสอง พี่ปีสามและพี่ปีสี นี่เขาไม่ได้นัดแค่ปีสองนิ แต่ว่าเรียกประชุมทั้งคณะเลย

ฉันเดินมานั่งยังที่ของปีสอง ซึ่งอยู่ติดกับปีหนึ่งพอดี แล้วสายตาเจ้ากรรมก็ดันไปสบเข้ากับสายตาของไอ้เด็กบ้า ที่บังอาจขโมยจูบแรกของฉันไปได้อย่างหน้าโมโหที่สุด ฉันแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นสายตาคู่นั้น ที่เอาแต่จ้องฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ใบหน้าก็แสนนิ่ง ไม่แสดงความรู้สึกใดใด ทั้งที่เมื่อก่อนนี้ ออกจะยิ้มเก่งซะด้วยซ้ำ...

“เอาล่ะครับน้องๆ มากันครบแล้วนะ พี่จะได้บอกทีเดียวเลย หรือใครที่ไม่ได้มาก็ฝากไปบอกเพื่อนๆ น้องๆ ด้วยก็แล้วกันนะ” เสียงพี่แมทประกาศใส่ไมค์ไร้สาย

“อาทิตย์หน้า ทางคณะของเรามีกิจกรรมจิตอาสาในโครงการ พี่แบ่งปันน้อง เราจะนำเสื้อผ้าและอาหาร หนังสือเรียน ไปบริจาคให้กับน้องๆ ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัด ซึ่งเราจะไปค้างที่นู่นสามวันสองคืน นอนกันที่โรงเรียนนะครับ เพราะเราจะไปช่วยชาวบ้านซ่อมแซมโรงเรียนในส่วนที่ชำรุดด้วย ใครสนใจมาลงชื่อกับพี่ที่ด้านซ้ายมือได้เลยนะครับ อ้อ อาจารย์ฝากมาบอกว่า ใครที่ไป อาจารย์จะมีคะแนนพิเศษให้ด้วยนะครับ”

น่าสนุกดีเฮะ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ฉันจะได้หนีความวุ่นวายที่บ้านได้ เพราะถ้าอยู่บ้านมีหวังโดยพี่เฟยชวนไปนุ่นนี้นั้นแน่ๆ

“ไปแก ไปลงชื่อกัน” ฉันลุกขึ้นยืนพร้อมกับรั้งมือบัวตองให้ลุกขึ้นตาม

“ใครจะไปกับแก ฉันไม่ไป..” บัวตองไม่ยอมลุกขึ้นยืน แถมยังรั้งมือฉันให้นั่งลงอีก

“ถ้าแกไม่ไป ฉันโกรธ” ฉันแกล้งสะบัดมือเพื่อนไม่แรงมาก ก่อนจะยืนกอดอกแล้วมองหน้าบัวตองอย่างงอนๆ

“มิริน แกอย่าเล่นแบบนี้ดิ” แล้วบัวตองก็ยอมลุกขึ้นยืนตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

“จะไปไม่ไป” ฉันถามเพื่อนอีกครั้ง บัวตองพยักหน้าหงึกๆ อย่างไม่เต็มใจนัก ใครสนกันล่ะ แค่เพื่อนยอมไปก็พอล่ะ

ฉันจับมือเพื่อนเดินมายังโต๊ะด้านซ้ายมือตามที่พี่แมทบอก มีรุ่นพี่ผู้หญิงอยู่สามสี่คนนั่งรออยู่ คอยรับลงชื่อให้กับน้องๆ ที่จะไปเข้าค่ายจิตอาสาครั้งนี้ และดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครออกมาลงชื่อกันด้วยซ้ำ มีเพียงแค่ชั้นกับบัวตองเอง

“น้องผู้ชายครับ อายน้องผู้หญิงสองคนนี้ไหม เธอสองคนเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ เอง แต่มีจิตอาสาที่อยากจะช่วยเหลือ” พี่แมทประกาศอีกครั้ง เมื่อไม่มีใครยอมลุกขึ้นมาลงชื่ออีก

ฉันหันหลังไปมองยังกลุ่มน้องผู้ชายปีหนึ่งอยู่กลุ่มหนึ่งก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา อยากจะแกล้งน้องชายตัวเองสักหน่อย ก็นะ.. ฉันมีเพื่อนไม่ค่อยเยอะ ก็อยากให้มีคนรู้จักไปด้วยกันจะได้สนุกกว่านี้

“พี่แมทคะ มิรินขอยืมไมค์แป๊บหนึ่ง จะได้ไหมคะ” พี่แมทมีสีหน้างุนงงเล็กน้อยอยู่สักพักก่อนจะยื่นไมค์มาให้ฉัน

“อะ แฮ่ม” ฉันกะแอ้มเบาๆ พอเป็นพิธี

“ราเรซ.... จะปล่อยให้พี่สาวสุดสวยไปคนเดี๋ยวเหรอน้องรัก ไม่ห่วงพี่แล้วใช่ไหม” ฉันพูดผ่านไมค์ด้วยน้ำเสียงออดอ้อนน้องชายสุดๆ ซึ่งราเรซก็แสดงสีหน้าบอกบุญไม่รับกลับมาให้

“ก็ได้ๆ พี่นี่.. จริงๆ เลย”

ในที่สุดน้องชายสุดที่รัก ก็ยืนขึ้นพร้อมกับตะโกนโวยวายอย่างอารมณ์เสีย และเมื่อราเรซยืนขึ้นเสียงผู้หญิงทุกชั้นปีก็พูดคุยกันยกใหญ่

“ถ้าผู้ชายคนนั้นไป ฉันไปด้วย”

“ฉันด้วยๆ”

ว๊าว... ความหล่อของน้องชายมีประโยชน์ดีจริง

“พวกมึงด้วยลุกขึ้นเลย” ราเรซหันไปตะคอกเพื่อนในกลุ่มอีกสามคนให้ลุกขึ้นตาม เลโอกับบิ๊กไบค์ลุกขึ้น แต่... โต้งกลับนิ่งเฉยไม่ยอมลุกตาม

ฉันกำลังยืนมองราเรซดุเพื่อนอย่างขำๆ จู่ๆ ก็มีมือปริศนามาคว้าเอาไมค์ออกจากมือของฉันไปพูด ฉันหันไปมองแทบจะในทันที

“ลงชื่อให้เราด้วยนะ อยากไปกับคนสวย..” ริมฝีปากหนาเอ่ยพูดกับคนรับลงชื่อแต่สายตาของเขากลับมองมาที่ฉันอย่างจงใจ

“ฮิ้ววววววววว” แล้วทั้งหอประชุมก็โฮ่แซวกันยกใหญ่

ฉันนี่ถึงกับใบ้รับประทาน จ้องมองใบหน้าผู้ชายคนนี้นิ่งค้างตึง เขายืนอยู่ใกล้ฉันมาก มากซะจนได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาได้อย่างชัดเจน....พี่ยู

“ไปด้วย!!”

.

.

.

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel