Chapter 10 ชีวิตลูกสาวแลกกับหนี้ก้อนโต
Chapter 10
ชีวิตลูกสาวแลกกับหนี้ก้อนโต
"ผมยังไม่มีให้จริงๆครับคุณภูติณ"
ชายหนุ่มวัยกลางคนยกมือขึ้นไหว้ขอชีวิต ภรรยาสาวตล้องแขนเขาเอาไว้แน่น
"ฮึกๆ อย่าทำอะไรสามีดิฉันเลยนะคะ ขอล่ะ"
คุณหญิงมารตีแห่งตระกูลภิรมฤกษ์ และคุณชายอภิวัฒน์ ภิรมฤกษ์ ทั้งคู่กำลังกราบขอร้องอ้อนวอนภูติณ นิติบูรการ
"อะไรกันคุณอภิวัฒน์ กู้เงินผมไปเป็นสิบล้าน จู่ๆจะมาเบี้ยวเอาแบบนี้เลยเหรอ"
ภูติณเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม มาเฟียหนุ่มในวัยยี่สิบหกปี หน้าลูกครึ่งไทยตุรกีสไตล์แขกขาวเข้มๆ ความสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรทำให้เขาดูน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย
"คือ คือว่า ผม..."
เพราะธุรกิจของตระกูลเข้าสู่ขั้นยวิกฤตเต็มที ทำให้อภิวัฒน์เลือกเส้นทางเดินที่จะเล่นการพนันโดยเข้ามาในบ่อนคาสิโนของภูติณที่ประเทศเพื่อนบ้าน เขาได้รับคำแนะนำมาจากพวกคนในแวดวงสังคมอีกทีหนึ่ง
"งั้นนอกจากเงิน คุณพอจะมีสมบัติอะไรที่เอามาแลกเปลี่ยนได้มั้ยล่ะ อย่างเช่นเงิน รถ หรือที่ดิน?"
ภูติณที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานแล้วยกขาขึ้นมาไขว้กันเหยียดยิ้มร้าย ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งตุรกีมีทั้งความหล่อ โหด และเยือกเย็นอยู่ในคนคนเดียวกัน
"คฤหาสน์ของตระกูลในตอนนี้ผมก็เอาไปจำนำไว้ ส่วนรถที่ใช้ก็ยังเป็นของไฟแนนซ์"
ถึงแม้จะเคยผ่อนรถหรือซื้อเงินสดจนหมด แต่ด้วยธุรกิจที่เข้าสู่สภาวะตกต่ำทำให้อภิวัฒน์นำไปรีไฟแนนซ์จนเกือบหมด
"มีแต่ตัวสินะ หึ.."
ภูติณลุกขึ้นยืนเหยียดขึ้นเต็มความสูงแล้วมองคู่สามีภรรยาจากตระกูลไฮโซ ภรรยามีน้ำตาไหลลงมาเหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
"ใคร!"
ภูติณถามขึ้นเสียงดังเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
"ผมเองครับ มังกร"
มังกรเป็นมือขวาคนสนิทของภูติณ
"เข้ามาได้!"
มังกรเดินเข้ามาแล้วโค้งให้ผู้เป็นเจ้านายนิดนึงแล้วแจ้งข่าวที่ได้รับมา
"นายครับ ตอนนี้ได้ข่าวมาว่าไอ้โลกันต์มันมีผู้หญิงควงอยู่บ่อยๆ เหมือนจะเป็นคนสำคัญ"
"สำคัญงั้นเหรอ?"
เมื่อได้ยินแบบนั้นภูติณก็แปลกใจเล็กน้อย โดยปกติแล้วโลกันต์ไม่ได้จริงจังกับใครมากนัก เรียกได้ว่าควงไปทั่ว
"เป็นใครมาจากซ่องไหนล่ะ"
"ไม่ได้มาจากซ่องไหนหรอกครับนาย เหมือนจะเป็นนักศึกษา"
เมื่อได้ยินมังกรพูดแบบนั้นภูติณก็อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะออกมา
"หึๆ เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนรสนิยมจากสาวในซ่องมาเป็นนักศึกษาแล้วเหรอ ทำไมวะ? เด็กสาวรุ่นๆมันเร้าใจรึไงวะไอ้มังกรฮ่าๆๆ"
ภูติณเอ่ยถามลูกน้องแล้วขำ เขาเองก็ยังไม่เคยลองเด็กๆ มีแต่สาวรุ่นเดียวกัน
"ไม่ทราบครับนาย แต่ที่แน่ๆ ผู้หญิงของไอ้โลกันต์นี่เป็นลูกคุณหนูตระกูลผู้ดีจากเมืองไทยเลยนะครับ"
"งั้นเหรอ คือใครล่ะ มาจากตระกูลไหน?"
ภูติณเอ่ยถามอย่างสงสัย จะมีพ่อแม่บ้านไหนยอมให้ลูกสาวมาคบกับมาเฟียธุรกิจใต้ดินแบบโลกันต์ เขาล่ะสงสัยนัก ตัวเขาเองก็รู้ว่าตั้งแต่ที่บ้านมาจับธุรกิจแบบนี้ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งเกี่ยวอีกแบบโจ่งแจ้ง จะมีก็แต่ลับหลังที่ติดต่อมาขอกู้เงินกัน เขาล่ะเกลียดจริงๆพวกไฮโซไฮซ้อหน้าบาง
"ชื่อว่าไข่หวาน ลูกสาวจากตระกูลภิรมฤกษ์ครับ"
เมื่อได้ยินแบบนั้นสองสามีภรรยาก็มองหน้ากันแล้วทำตาโต ลูกสาวของเขาเนี่ยนะกำลังตกเป็นเมียของมาเฟียหนุ่มนามว่าโลกันต์จากตระกูลนฤบรินทราช ทั้งๆที่พวกเขาสั่งห้ามเข้าไปยุ่งแท้ๆ! ไข่หวานควรจะได้พบรักกับคนที่ดี มีชาติตระกูล และมีเงินสมฐานะกัน แม้ว่าตอนนี้สภาวะธุรกิจทางบ้านจะติดลบก็ตามที
"มะ ไม่จริงน่า!"
อภิวัฒน์หันไปตวาดใส่มังกร
"ขอโทษคุณอภิวัฒน์และคุณมารตีด้วยนะครับ แต่นี่เป็นความจริงที่ผมได้ข้อมูลมา"
"ลูกสาวพวกคุณสองคนงั้นเหรอ...อยากจะเห็นซะแล้วว่าสวยสักแค่ไหนถึงถูกใจไอ่โลกันต์นัก"
"ตะ แต่ คะ คือว่า..."
อภิวัฒน์อึกอัก ส่วนมารตีได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินลงมาช้าๆ
"งั้นสมบัติที่คุณวัฒน์จะต้องให้ผม ก็คงจะต้องเป็นลูกสาวแล้วล่ะ"
เมื่อภูติณซึ่งเป็นเจ้าหนี้เอ่ยออกมาแบบนั้น อภิวัฒน์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก
"แต่ว่า ถ้าลูกสาวของผมเป็นเมียโลกันต์ซึ่งเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของคุณภูติณแล้วนั้น คงไม่เหมาะมั้งครับที่คุณจะมาซ้ำรอย"
อภิวัฒน์พยายามโน้มน้าวใจ เขารู้ดีว่าพวกผู้ชายไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกัน แต่ก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามาเฟีย หล่อ ร้าย เลว แบบภูติณจะคิดอย่างไร
"หึ ไม่เป็นไรหรอกคุณวัฒน์ สำหรับผมผู้หญิงก็เป็นเสมือนอาหารว่าง กินครั้งเดียวก็อิ่ม จะซ้ำกับใครไม่ซ้ำกับใครผมไม่สน"
ภูติณเอ่ยออกมาแล้วยิ้มร้ายๆ
การแย่งผู้หญิงของโลกันต์มาไว้ในเงื้อมมือนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยโดยปกติ แต่นี่เขากำลังจะได้มาง่ายๆเพราะพ่อของเธอเป็นลูกหนี้
กูล่ะอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงสุดที่รักของมึงจริงๆไอ้โลกันต์:)
ณ คฤหาสน์ภิรมฤกษ์
วันนี้ไข่หวานเรียนเสร็จก็รีบกลับบ้านในทันทีเพราะไม่ได้กลับมาหลายวันกลัวว่าแม่บ้านจะสงสัย แต่กลับมาก็ต้องช็อคกว่าเดิมเมื่อพบว่าคนที่อยู่ในห้องรับแขกของคฤหาสน์คือพ่อและแม่ของเธอซึ่งกำลังนั่งหน้าเครียดทำหน้ากลุ้มอกกลุ้มใจ
"คุณพ่อ คุณแม่! ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะคะ?"
ไข่หวานรีบเดินเข้าไปหาในทันที ภายในใจนั้นก็คิดกังวลต่างๆนาๆ กลัวว่าพ่อและแม่จะสงสัย ไม่รู้ว่าแม่บ้านได้ฟ้องเรื่องที่เธอไม่กลับบ้านบ้างรึเปล่า
"ลูกไข่!"
มารตีเรียกชื่อลูกเสียงดัง ไข่หวานรีบเดินเข้าไปกอดแม่ที่นั่งอยู่ที่โซฟา
"ไหนคุณพ่อคุณแม่ว่าไปคุยธุรกิจที่ต่างประเทศอีกนานไงคะ กลับมาเร็วจัง แล้วทำไมบ้านเราเงียบผิดปกติ"
เธอหันไปมองซ้ายขวาก็ไม่พบแม่บ้านหรือคนรับใช้
"คือ..ต่อจากนี้เราจะไม่มีคนรับใช้แล้วนะลูกไข่"
อภิวัฒน์ พ่อของไข่หวานเอ่ยขึ้นมา
"ทำไมล่ะคะ? คุณพ่อไม่พอใจอะไรพวกป้าๆแม่บ้าน พวกเขาทำงานดีมาตลอดเลยนี่คะ"
ไข่หวานงุนงง ไม่ทราบว่าคนรับใช้เหล่านี้ไปทำอะไรให้คุณพ่อเธอไม่สบายใจ
"ไข่หวาน...บ้านเรากำลังจะล้มละลายลูก"
มารตีกลั้นใจเอ่ยออกมา ไม่อยากโกหกลูกสาวอีกต่อไป เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องแสร้งทำตัวเป็นปกติ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้
"มะ ไม่จริง ไข่ไม่เชื่อ"
ไข่หวานถอยตัวออกห่างจากผู้เป็นแม่
"ไข่ บอกพ่อมาสิว่าเรื่องที่ลูกเป็นผู้หญิงของลูกชายตระกูลนฤบรินทราชนี่จริงมั้ย?"
"คุณพ่อรู้ได้ยังไงคะ"
ดวงตากลมโตมองพ่อด้วยสีหน้าอึ้งๆ เธอคิดว่าเรื่องนี้เป็นความลับมาโดยตลอด ไม่น่าจะมีใครเห็นได้
"พ่อรู้มาอีกทีหนึ่ง แต่พ่อจะไม่ว่าอะไรเพราะสถานการรืบ้านเราตอนนี้มันแย่เต็มที"
"..."
แม่ลูกได้แต่มองหน้ากัน ไข่หวานกังวลใจเหลือเกิน
"พ่อติดหนี้พนันที่บ่อนของภูติณ นิติบูรการ"
"ตระกูลนิติบูรการ? พ่อไปยุ่งกับคนพวกนั้นได้ไงคะ"
ข่าวเสียลือกันกระฉ่อนวงการไฮโซว่าตระกูลนั้นเน่าเฟะแค่ไหน ทั้งเลว ทั้งฉ้อโกง กะล่อน ปลิ้นปล้อน ไข่หวานอยากจะร้องไห้ที่พ่อของเธอเอาตัวเข้าไปพัวพันกับคนพวกนั้น
"งั้นพ่อก็คงต้องถามกลับว่าทำไมลูกไข่ถึงไปคลุกคลีกับตระกูลนฤบรินทราชได้"
"คุณพ่อ..."
น้ำเสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างหนักใจ
"เอาเป็นว่า สิ่งที่พ่อจะบอกลูกคือทางคุณภูติณเขาอยากจะได้ลูกไปเป็นผู้หญิงของเขา"
อภิวัฒน์เอ่ยออกมาน้ำเสียงแหบแห้ง เขาเองก็อยากจะร้องไห้เหลือเกิน
"ไม่ค่ะ! ไม่เด็ดขาด! หนูเป็นเมียพี่กันต์แล้ว ไม่มีทางจะยอมมีคนอื่น!"
"ฮึกๆ คุณคะ อย่าให้ลูกไข่ตจ้องไปอยู่กับคนเลวๆแบบนั้นเลยนะคะฮึกๆ มารตีไม่ยอมจริงๆนะ"
คุณหญิงมารตีลุกขึ้นยืนแล้วกอดลูกสาวเอาไว้แน่นพร้อมกับร้องไห้ออกมา
"มารตี...ไข่หวาน พ่อขอโทษนะลูก"
อภิวัฒน์เองก็เศร้าไม่แพ้กัน
"ฮึกๆ ลูกไข่ หนูต้องเป็นเมียและคุณผู้หญิงของบ้านนฤบรินทราชให้ได้ ลูกแม่จะต้องปลอดภัยจากเงื้อมมือของภูติณ"
แม้โลกันต์เองจะเลวไม่แพ้ไปกว่าภูติณ แต่อย่างน้อยก็ได้ลูกสาวพวกเขาเป็นเมียแล้ว ที่สำคัญเห็นมาแต่อ้อนแต่ออก คงจะมีความเอ็นดูอยู่ไม่น้อย
"ใช่ จริงสิ ถ้าลูกไข่ได้เป็นนายหญิงของโลกันต์แล้วก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง เขาคงจะมีบอร์ดี้การ์ดคุ้มกันให้อย่างหนาแน่น"
"ฮึกๆ แล้วคุณพ่อจะทำยังไงกับหนี้บ่อนล่ะคะ"
เธอจะเอาตัวรอดคนเดียวไม่ได้ แล้วพ่อเธอล่ะ แม่เธออีก
"ถ้าลูกได้คบหากับโลกันต์จริงจังแล้วท้องกับเขาได้พ่อกับแม่ก็คงจะสบาย เขาคงจะช่วยใช้หนี้ก้อนหนี้ให้ ระหว่างนี้พ่อกับแม่จะหลบไปอยู่ต่างประเทศ"
"ฮึกๆ ไม่นะคะ.. ฮือ"
"บ้านเรากำลังจะโดนธนาคารยึด เชื่อพ่อนะลูก รีบไปอยู่กับโลกันต์ให้ไวที่สุด!"
"คุณคะ...แล้วระหว่างนี้ เราจะทำยังไงกับภูติณคะ เขาไม่ปล่อยเราเอาไว้แน่ๆ"
"นั่นสิ ถึงจะหนีไปแต่ก็ควรมีคนมาถ่วงเวลา.."
อภิวัฒน์นิ่งคิด
"ลูกสาวของคุณกับนังเมียน้อยนั่นไง"
"ขนมไข่น่ะเหรอ? คุณจะบ้ารึไงมารตี ขนมพึ่งจะอายุสิบแปด อ่อนกว่าลูกไข่ตั้งสองปี!"
อภิวัฒน์ไม่อยากจะขายลูกสาวกินเลยสักนิด
"แล้วไงคะ! ทีกับลูกไข่คุณยังคิดจะส่งไปเลยตอนแรก เอานังเด็กนั่นมาสวมรอยสักแปปจะเป็นอะไรไป!"
มารตีไม่ยอม จะมารักลูกเมียน้อยไปกว่าลูกเมียหลวงอย่างเธอไม่ได้
"พ่อแม่พูดเรื่องอะไรกันคะ ใครคือขนมไข่..."
ไข่หวานไม่เคยรับรู้ถึงการมีน้องสาวอีกคนเลยสักนิด
"ลูกอีกคนของคุณพ่อเราไง ลูกของนังเมียน้อยนั่น"
พูดทีไรมารตีก็ไม่สบอารมณ์ทุกที
"คุณพ่อ...ทำไมทำแบบนี้คะ"
ไข่หวานอยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง จะต้องช็อคมากอีกสักเท่าไร
"ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพ่อจะคุยกับน้องสาวของลูกเอง ขนมไข่จะไปแทนไข่หวาน และจะต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้!"
"ส่วนลูก รีบไปอ่อยและแต่งงานกับโลกันต์ซะก่อนที่จะต้องลำบากไปมากกว่านี้ พ่อคงไม่มีกำลังจะส่งเสียลูกเรียนจนจบได้อีกแล้ว"
อภิวัฒน์พูดทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า
"ฮึกๆ คุณพ่อ..."
ไข่หวานสวมกอดผู้เป็นพ่อด้วยความเศร้าใจ
บ้านของเธอกำลังจะเปลี่ยนไป
มันกำลังจะไม่เหมือนเดิม และเธอ...เธอจะต้องเป็นเมียตัวจริงของโลกันต์เท่านั้นจึงจะมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย!