chapter 6 หน้าคุ้น ๆ
chapter 6 หน้าคุ้น ๆ
และในคืนนี้…
ทั้งสโนว์และนัชชาในชุดเกาะอกสีแดงรัดรูปสีแดงสั้นแค่คืบ ที่เป็นชุดฟอร์มของพนักงานโซนวีไอพี ซึ่งเป็นโซนพิเศษที่แยกโซนมาจากผับธรรมดา กำลังถูกเทรนงานเบื้องต้น
หัวหน้างานคนใหม่อธิบายงานว่ามันคืองานชงเหล้ากับเอนเตอร์เทรนลูกค้า ซึ่งลูกค้าวีไอพีอาจจะมีแตะเนื้อต้องตัวหน่อย ๆ อย่างเบา ๆ ก็แค่โอบบ่ากับจับมือ แต่ถ้าอยากได้เงินมากกว่านั้นก็ต้องยอมมากกว่านั้น ซึ่งอยู่ที่ตัวพนักงานเองว่าจะหาวิธีหลีกเลี่ยงมันยังไง
แน่นอนทั้งสโนว์กับนัชชาถึงกับหน้าเสีย ถ้าจะแค่โอบบ่ากับจับมือพอไหว แต่ถ้ามากกว่านั้นคงไม่กล้า ครั้นจะปฏิเสธแต่จำนวนเงินมันก็ล่อตาล่อใจสำหรับเงินจำนวนมากที่ต้องหามาใช้หนี้ ซึ่งมันคือเงินตั้งวันละพันห้าร้อยบาทเชียวนะ
โต๊ะวีไอพีที่เป็นโซฟานุ่มสีแดงเลือดนกโค้งเป็นรูปตัวยูตั้งอยู่บริเวณชั้นลอย สโนว์กับนัชชาได้รับหน้าที่ชงเหล้าโดยมีพี่เก๋กับพี่ใบชาเป็นพนักงานเก่าเข้ามาช่วยดูแลแขกรวมเป็นสี่ มีคนใส่เสื้อสูทท่าทางน่าเกรงขามแต่รูปร่างหล่อกร้าวใจราวกับมาเฟียในนิยายหลุดออกมานั่งอยู่ประมาณสี่คน
พี่เก๋กับพี่ใบชามองหน้ากันอย่างเลือกไม่ถูกว่าจะเข้าไปนั่งชงเหล้าให้ใครดี เพราะหล่อ ๆ กันทั้งนั้น ในขณะที่สโนว์กับนัชชายืนตัวแข็งทื่อ มองพี่เก๋ที่เลือกนั่งตักผู้ชายหล่อคนริมสุดที่ในขณะเขาเองก็รีบตวัดเอวพี่เก๋ไว้ทันที ส่วนพี่ใบชาเองก็เลือกนั่งกับผู้ชายฝั่งตรงหว่างขาผู้ชายตรงกันข้าม
ส่วนเธอกับนัชชาได้แต่มองหน้ากันขอเลือกที่จะยืนนิ่งชงเหล้าอย่างเดียวพอ
“สองคนนั้นมานั่งตรงนี่สิ” เสียงเข้มหนึ่งเรียกพร้อมกวักมือให้พวกเธอ ยิ่งทำให้ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี
และจังหวะที่กระอักกระอ่วนนั้นเอง
“อ้าวเฮียเอริค เฮียเตชินมาแล้วเหรอ เชิญครับเชิญ”
คนในโต๊ะลุกพรึ่บขึ้นยืนเพื่อต้อนรับบุคคลที่กำลังเดินมาถึง
ส่วนสโนว์ที่กำลังคีบก้อนน้ำแข็งอยู่ถึงกับทำที่คีบน้ำแข็งหลุดจากมือ ภาพผู้ชายหน้าคุ้นๆ ที่เธอจำได้ว่าเขามีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของเธอเดินเข้ามา เขาอยู่ในชุดสูทสีดำรูปร่างสูงราวกับนายแบบแถมยังมีใบหน้าหล่อจัดราวกับหลุดมาจากซีรีย์ ขนาบข้างไปด้วยผู้ชายหล่อมาก ๆ อีกคนด้วยท่าทางน่าเกรงขามทั้งคู่
คือจะไม่ให้น่าเกรงขามได้ไงก่อน ในเมื่อด้านหลังของผู้ชายหน้าหล่อทั้งสองคน มีคนหน้าโหดๆ เดินตามมาอีกนับสิบ ฉากนี้ราวกับมาเฟียในหนังประมาณนั้น
-ห๊า มะ หมอนั่นเป็นมาเฟียเหรอ ฉันเพิ่งด่าเขาเมื่อเย็น ฮือ…ฉันจะโดนเขาฆ่าไหมเนี่ย- สโนว์รีบยืนหันหลังขวับ ในขณะที่ทุกคนในโต๊ะตอนนี้ยังคงลุกขึ้นยืนโค้งคำนับเพื่อต้อนรับ
-ซวยละสิ หนีไปห้องน้ำก่อนดีกว่า-
“ฉะ ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
กึก…
ไม่ใช่เสียงของสโนว์ แต่เป็นเสียงของนัชชาที่พูดขึ้นมาก่อน ทำให้สโนว์ได้แต่อ้าปากค้าง เพราะอยู่ ๆ นัชชาก็พูดจบแล้วเดินออกไปอย่างรีบร้อน ซึ่งสโนว์เดาเอาว่านัชชาคงจะกลัวพวกมาเฟียจนเยี่ยวจะราดเหมือนกับเธอ
ทำไงละทีนี้ เมื่ออยู่ๆ เพื่อนชิ่งหนีไปเข้าห้องน้ำก่อน ครั้นจะตามไปสองคนก็ใช่ที่ หัวใจตอนนี้เต้นดังยิ่งกว่ากลองรบ ใครจะไปคิดว่าคนที่เธอเพิ่งว่าเขาเมื่อเย็นนี้ จะมานั่งอยู่ตรงนี้ได้
-----
นับตั้งแต่เอริคเดินเข้ามากับน้องชาย บรรยากาศในห้องวีไอพีที่เย็นยะเยือกอยู่แล้ว กลับทวีอุณหภูมิที่ให้เย็นหนักเข้าไปกว่าเดิมอีก
แถมนัชชาเพื่อนที่เพิ่งร่วมงานกันวันแรกก็ดันหายไปเข้าห้องน้ำ และอีกไม่กี่นาทีต่อมาเตชินน้องชายคุณเอริคก็เดินออกไปไหนไม่รู้ด้วยอีกคน
สโนว์เริ่มทำตัวไม่ถูก เธอเงยหน้าขึ้นมามองแวบหนึ่งเห็นดวงตาคมกริบของเอริคชายที่เธอยังเข้าใจว่าเขาคือเจ้าหนี้เธอนั่งไขว่ห้างที่เก้าอี้โซฟากำลังมองตรงมาที่เธอ ทำให้สโนว์ต้องก้มหน้างุดลงอีกครั้ง เธอรีบจับผมยาว ๆ ของตัวเองมาปิดหน้า จนแทบมองไม่เห็นดวงตา
“สโนว์เอาเหล้ามาเพิ่มหน่อย อ๊ะ ตาเถร!” รุ่นพี่ใบชาที่กำลังนั่งอยู่หันไปหาสโนว์ถึงกับเอามือทาบอกด้วยความตกใจ เพราะนอกจากไฟที่ค่อนข้างสลัว สโนว์ยังยืนก้มหน้านิ่งในสภาพผมปรกหน้าอยู่ที่โต๊ะชงเหล้า
“ละ หล่อนทำอะไรนะ! บ้าชะมัดตกใจหมด”
และเพราะเสียงเอ็ดของใบชา ทำให้ทุกสายตาหันกลับมามองที่สโนว์เป็นตาเดียว ส่วนสโนว์เองไม่ต้องพูดถึงนอกจากไม่กล้าเงยหน้ายังแทบอยากจะหายตัวได้ในทันที เธอไม่คิดว่ามาก่อนว่าต้องมาเจอเจ้าหนี้ของตัวเองในสภาพที่เขาดูคล้ายกับมาเฟียจอมโหดแบบในหนังอย่างตอนนี้
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!” เสียงเข้มของเอริคเอ่ยขึ้นทำลายความสนใจของทุกคนที่มองมาที่สโนว์อยู่ให้หันกลับมามองที่เขาแทน
“เด็กใหม่ค่ะเฮียมาทำงานวันนี้วันแรก” ใบชารีบตอบแทน
“สภาพแบบนี้ ใครให้รับมาทำงาน!”
กึก…หมอนี่ปากเสียมาตั้งแต่เกิดหรือไงนะ
สโนว์ได้แต่เม้มปากแน่นด้วยความโมโหที่โดนเอริคสบประมาท แต่กระนั้นพอนึกถึงที่ว่าก่อนหน้านี้เมื่อตอนเย็นตัวเองเพิ่งเป็นฝ่ายตะโกนว่าเขา หน้าก็ถอดสีขึ้นมาอย่างอัติโนมัติ
ตอนที่เธอตะโกนด่าเขา บางทีเขาอาจไม่ได้ยินก็ได้ ไม่งั้นคงโดนฆ่าตายไปแล้วตั้งแต่ตอนนั้น
อ่า…ว่าแต่ แล้วทำไมเขาถึงมาที่นี่ได้ตั้งแต่ผับยังไม่เปิด…
“มานี่ซิ!”