BAD RETURN 7
“เป็นอะไรไหมครับนายหญิง” เสียงเจสันวิ่งเข้ามาถามด้วยท่าทีรีบร้อน หัวใจเขากระตุกวูบเมื่อเห็นรถของผู้เป็นเจ้านายพุ่งชนเข้ากับขอบสนามอย่างแรง
“แค่มึนนิดหน่อย” หญิงสาวสะบัดหัวเบาๆ ไล่อาการมึนที่ได้รับจากแรงกระแทกเมื่อสักครู่ โชคดีที่เธอใส่หมวกกันน็อกไม่งั้นเธอคงหัวแตกไปแล้วแน่ๆ
“งั้นกลับก่อนเถอะครับ เดี๋ยวตรงนี้ผมจัดการเอง” มือขวาหนุ่มเดินเข้าไปหมายจะประคองผู้เป็นเจ้านาย แต่ก็ถูกโนอาห์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลคว้าเอวคอดของเธอเข้าไปประชิดตัวเสียก่อน
“ฉันเป็นผู้ชนะ...วันนี้ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้” ใบหน้าเย้ยหยันของโนอาห์สร้างความหัวเสียให้มาเฟียสาวไม่น้อย เธอสะบัดเขาออกห่างก่อนจะกระชากยางมัดผมออกจากศีรษะตัวเอง ปล่อยให้ผมยาวสีดำขลับสยายเต็มแผ่นหลัง
“จะเอาอะไรก็ว่ามา” ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากจะยอมรับว่าตัวเองแพ้โนอาห์ก็ตาม
“ดื่มกับฉันสักคืนสิ...”
“...เราไม่ได้ดวลเหล้ากันนานแล้วนะที่รัก” มาเฟียหนุ่มโน้มเข้าไปประชิดใบหูเล็กก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พลางก้มหน้าจูบซอกคอระหงท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่ส่งเสียงกรีดร้องอย่างชอบใจ
“แค่นี้เหรอที่นายต้องการ” ควีนถามออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ไม่มีทางที่โนอาห์จะขออะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้กับเธอ
“ถ้าเธอดื่มชนะฉันได้ ฉันจะทำตามที่เธอสั่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ไปตาย ฟังดูน่าสนใจดีไหม” ร่างบางถูกดันจนชิดประตูฝั่งคนขับ เธอเบือนหน้าหนีเมื่อชายหนุ่มตั้งใจจะทาบทับริมฝีปากลงมาบนปากเธอ
“ก็ดีโลกจะได้น่าอยู่มากกว่านี้”
“หึ” มาเฟียหนุ่มแค่นหัวเราะในลำคอให้กับคำพูดที่ควีนพ่นออกมา เธอพูดราวกับว่าตัวเองเป็นคนดีมากกว่าเขาเสียอย่างนั้น
“ไม่คิดว่าจะได้เห็นเธอมีสภาพดูไม่จืดแบบนี้เลยนะ” เสียงตะโกนเยาะเย้ยของเรเวนดังมาจากด้านบนอัฒจันทร์ ตามด้วยเสียงหัวเราะของโชแปงที่ดูชอบใจเมื่อเห็นว่าเธอเพิ่งเฉียดความตายมาหมาดๆ
“อยากดูไม่จืดเหมือนฉันบ้างก็ลงมาข้างล่างสิ” มาเฟียสาวตวัดสายมองเพื่อนสนิทด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะคว้าปืนจากเอวของเจสันแล้วเล็งไปยังทั้งสองคนที่ยืนอยู่ด้านบน สร้างความตกใจให้คนดูในสนามไม่น้อย แต่มาเฟียทั้งสองคนกลับยิ้มกวนประสาทไร้ซึ่งความหวาดกลัว
“เก็บแรงไว้ดีกว่านะ ถือว่าฉันเตือนเธอแล้ว” เรเวนทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นั้น ก่อนจะกอดคอโชแปงแล้วเดินหัวเราะออกไปอีกทาง
“...” ควีนยืนหัวเสียอยู่คนเดียว พลางนึกถึงคำพูดของเรเวนเมื่อสักครู่นี้ไปด้วย แต่ก็ต้องหยุดความคิดทั้งหมดเมื่อโนอาห์คว้ามือเธอไปจับประสานแล้วจูงเดินมาที่รถของเขา
“ไปกับฉัน ส่วนรถของเธอก็ให้ลูกน้องจัดการไป” ควีนยอมนั่งรถไปโนอาห์ทั้งที่ไม่อยากทำอย่างนั้นสักเท่าไหร่ แต่ต่อให้เธอไม่ยอมเขาก็คงบังคับให้เธอไปจนได้ เธอรู้จักนิสัยของเขาดีกว่าใคร
“จะพาฉันไปที่ไหน”
“เพนต์เฮาส์ฉัน” หญิงสาวถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนจะลวงมือหยิบโทรศัพท์มือจากกางเกงของโนอาห์ออกมาอย่างถือวิสาสะ เพราะเธอไม่ได้เอากระเป๋าสะพายมาด้วยและโทรศัพท์มือถือของเธอก็อยู่ในนั้น
“ฉันจะโทรหาลูกน้อง”
“เธอกลัวที่จะอยู่กับฉันสองต่อสองเหรอ...ไม่สมกับเป็นควีนเลยนะ” คำพูดกระแนะกระแหนจากปากโนอาห์ทำให้ควีนเลื่อนโทรศัพท์ออกจากหู ก่อนจะกดวางสายแล้วโยนลงบนตักแกร่งของเขา
“ฉันไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น โดยเฉพาะนาย”
“ฉันชอบผู้หญิงใจกล้านะ โดยเฉพาะเธอ” ควีนนิ่งไปกับคำพูดของชายหนุ่มที่มันมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ในนั้น
รถยนต์คันหรูถูกเคลื่อนเข้ามาจอดสนิทยังลานจอดรถของเพนต์เฮาส์มาเฟียหนุ่ม ควีนสูดหายใจเข้าเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตามโนอาห์เข้ามาด้านใน
“ทำไมไม่ดื่มตรงนี้” ควีนโพล่งถามเมื่อชายหนุ่มเดินผ่านห้องรับแขกและกำลังจะก้าวเท้าขึ้นบันไดเพนต์เฮาส์
“ฉันชอบดื่มในห้องพักส่วนตัว เธอน่าจะรู้ดี”
“...” หญิงสาวมองตามแผ่นหลังของมาเฟียหนุ่มก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะที่โนอาห์พูดมันเป็นเรื่องจริง
“เข้ามาสิ...” ชายหนุ่มเปิดประตูห้องพักส่วนตัวกว้างแล้วหลีกทางให้ควีนเดินเข้ามาด้านในก่อนที่เขาจะปิดประตูลง
“...เครื่องดื่มอยู่ในตู้เย็น อยากดื่มอะไรก็ไปหยิบเอา”
“ชวนฉันมาดื่ม นายควรจะเอามาให้ฉันไม่ใช่เหรอ” ร่างบางหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างแรงพลางกวาดสายตามองรอบห้อง
“นั่นสินะ” รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะเปลี่ยนทิศทางการเดินไปทางห้องครัวแทนที่จะเข้าไปในห้องนอนเหมือนตอนแรก
ดวงตาคู่สวยจ้องมองสิ่งของในห้องอย่างคุ้นเคย เมื่อเธอจำได้ว่าบางสิ่งบางอย่างมันเป็นของชิ้นเดียวกับที่เธอเคยเห็นและใช้มันเมื่อหกปีก่อน
“ธุรกิจของนายมันไม่ได้ทำให้นายมีเงินพอที่จะซื้อของใหม่เหรอ” ทันทีที่โนอาห์ก้าวเท้าเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับขวดไวน์และขวดเครื่องดื่มสีอำพันราคาแพง ควีนก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน
“รู้สึกประทับใจดีนะที่เธอจำของที่เราเคยใช้ด้วยกันได้” ปากหนาพูดออกมาผ่านรอยยิ้มบางๆ มันต่างจากรอยยิ้มที่ผ่านมาของเขาโดยสิ้นเชิง
“น่าเสียดายที่ฉันแค่จำ แต่ไม่ได้ต้องการมันอีกแล้ว”
“อะไรที่ฉันยังไม่เบื่อ ฉันก็ยังต้องการมันอยู่เสมอ” สิ้นเสียงชายหนุ่มก็เลื่อนแก้วไวน์ที่รินอย่างพอดีไปตรงหน้าของควีน เธอมองมันอย่างชั่งใจเพราะไม่ค่อยไว้ใจของที่มาจากโนอาห์สักเท่าไหร่
“ฉันไม่อยากกินไวน์” หญิงสาวโพล่งออกมาก่อนจะคว้าเหล้าในขวดมาเทดื่ม เพราะกลัวว่าโนอาห์จะใส่อะไรลงไปในไวน์ที่เอามาให้เธอ
“หึ” ในที่สุดความต้องการของโนอาห์ก็สิ้นสุด เขาเลื่อนแก้วไวน์ของควีนขึ้นมากระดกดื่มจนหมดแล้วจ้องมองร่างเล็กอย่างพึงพอใจ
หญิงสาวเริ่มหวั่นใจกับรอยยิ้มร้ายกาจที่ปรากฏบนใบหน้าของอดีตแฟนหนุ่ม และรู้ตัวว่าตัวเองกำลังโดนอีกฝ่ายเล่นแง่ให้เธอกังวลว่าจะมีบางสิ่งอยู่ในไวน์ แต่แล้วความเป็นจริงมันอยู่ในขวดเหล้าต่างหาก
“นายเอายาปลุกเซ็กซ์ให้ฉันกินเหรอ!!!” หญิงสาวโพล่งออกมาเสียงดัง ร่างกายเล็กเริ่มสั่นเทิ้มมันร้อนอย่างรวดเร็วราวกับมีบางอย่างแผดเผาอยู่ในร่างกายของเธอ
“เธอเป็นคนกินมันไปเองนะ ไม่ควรมาโทษฉัน”
“กรี๊ดดดดดดดด!!!” หญิงสาวกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด หยัดตัวลุกจากโซฟาอย่างแรงก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อให้น้ำช่วยบรรเทาฤทธิ์ของยานรกที่กำลังแล่นพล่านอยู่ทั่วร่างกายของเธอ
โนอาห์ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ มันดูน่าสนุกที่เห็นควีนมีอาการคลั่งแบบนั้น เพราะสิ่งที่เธอเคยทำกับเขาทำให้เธอต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้
“อื้อออออ! ร้อนนนนน~” เสียงครางกระเส่าดังมาจากห้องน้ำ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมาด้วยสภาพเปียกปอน ใบหน้าสวยแดงระเรื่อจากฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กซ์ที่โนอาห์ตั้งใจใส่ลงไปในเครื่องดื่ม
“ฤทธิ์ยามันจะหายไปก็ต่อเมื่อเธอได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ในร่างกาย...”
“....แต่ถ้าไม่เธอก็แค่ตายอยู่ในห้องนี้ก็เท่านั้น”