Ep.5 Don’t touch my sister
“พ่อเธอเอาข้อมูลความลับลูกค้า และความลับของบริษัทไปขายจนหมด คนทรยศแบบพ่อเธอ ช่วยฉันคิดทีสิ ว่าจะฆ่าฉันด้วยวิธีไหนดี?” เขาก้มลงมากระซิบข้างใบหูของฉัน
“ไม่... ม่ายนะ อย่าทำแบบนั้นเลย” ฉันตอบกลับไปเสียงสั่น ๆ อย่างกลัวเหลือเกิน...
“เงินใช้หนี้?? มีไหม?” เขาถามกลับมานิ่ง ๆ
ฉันทำได้เพียงก้มหน้าอย่างหมดหนทาง เงินตั้งร้อยกว่าล้าน ฉันจะไปหาจากที่ไหนได้ในวันเดียว ฉันทำได้แค่พูดภายในใจเท่านั้น
“จะบอกให้นะ การที่พ่อเธออยู่ในกรงขังนั่น อย่างน้อยเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่การหนีแหกคุกออกมาเแบบนี้... อันนี้ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากเตรียมตัดสูทดำไปงานศพ” เขาพูดก่อนจะจุดบุหรี่สูบต่อหน้าฉันอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร
“คุณจะฆ่าพ่อของหนูเหรอคะ??” เสียงยัยแพรวดาวถามทั้งน้ำตา
บลูไนท์สูบบุหรี่ยังคงปล่อยควันออกมาช้า ๆ และมองมาที่ฉันนิ่ง ๆ
“อาจจะไม่ใช่ฉันก็ได้นะ พ่อเธอไปทำระยำกับคนไว้ตั้งมากมาย คงนั่งนับศัตรูให้ไม่หมดจริง ๆ !!” เขาตอบออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของคนฟังเลยสักนิด
“คุณใส่ร้ายพ่อ พ่อไม่ใช่คนแบบนั้น... คุณพ่อเป็นคนดี...” ยัยแพรวดาวส่ายหน้าตามประสาเด็ก เพราะเธอแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย มีเพียงฉันกับน้าผึ้งเท่านั้นที่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมีหลักฐานมายืนยันได้ทั้งหมด
“ฝากบอกน้องเธอให้เงียบ เพราะพวกเธอไม่ได้มีสิทธิ์จะมาพูดอะไร” เขาตอบและมองหน้าของฉันนิ่ง ๆ
“คุณต้องการอะไรกันแน่ ที่จับพวกเรามาต้องการอะไรกันแน่” ฉันถามออกไปเพราะรู้ดีว่าวันนี้ที่เขาจับเราสองคนมาคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ
“ตรงประเด็นแบบนี้ก็ดี” เขาพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะแสยะยิ้ม บลูไนท์พูดก่อนจะยกมือสั่งให้ลูกน้องปล่อยแขนของฉันและแพรวดาวออก
ยัยแพรวดาวก็รีบวิ่งเข้ามากอดฉันทันทีด้วยความกลัว
“จริง ๆ ฉันก็ไม่อยากจะไปยุ่งกับพวกเธอหรอกนะ แต่พ่อของพวกเธอคงไม่มีทางหาเงินมาคืนให้ฉันได้ ในแบบที่คนซื่อสัตย์เขาทำกัน” เขาพูดด้วยท่าทีดูถูกและเหยียดยามเราสองพี่น้องจนสุดจะทน
“พวกเธอเลยถือว่าเป็นตัวประกันตัวหนึ่งของหนี้สินทั้งหมด คนที่โกงกินแบบพ่อของเธอน่ะ ถ้าฉันไม่เชือดไก่ให้ลิงดูอีกหน่อยพนักงานคงลุกขึ้นมาโกงกันระงม” เขาพูดก่อนจะแสยะยิ้มออกมา
และรอยยิ้มนั้นช่างหน้ากลัวเหลือเกิน
“ฉันจะหาเงินมาคืนให้คุณ แต่ว่าเงินมากมายขนาดนั้นฉันขอเวลาหน่อยได้ไหม?” ฉันพยายามยื่นข้อเสนอทั้งที่รู้ว่า ตัวฉันเองแทบไม่มีปัญญาหามาเลยจริง ๆ
“ไม่!! ฉันไม่ชอบการรอคอย” เขาตอบออกมาแค่นั้น
ยังไม่ทันพูดจบประโยคดี พวกลูกน้องของหมอนั่นก็ก้าวเท้าเข้ามาหาทั้งฉันและแพรวดาว
“ถ้าจะทำอะไร ทำฉันคนเดียวปล่อยน้องฉันไปเถอะ น้องฉันยังเด็กเกินไป” ฉันกลั้นใจพูดมันออกไปและกอดยัยแพรวดาวเอาไว้แนบกาย
ไม่นานก็มีคุณหมอคนหนึ่งก้าวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระเป๋าเครื่องมือบางอย่างในชุดกาวน์
ของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง
“ตรวจคนไหนครับ คุณบลูไนท์” เสียงของหมอคนนั้นถามบลูไนท์อย่างเคารพ
“ตรวจ? คุณจะตรวจอะไรเรา?? คุณต้องการอะไร” ฉันพยายามอ้อนวอนขอคนตรงหน้า ทั้งที่เขาไม่สนใจใยดีอะไรฉันเลย
“เอาเด็กนั่นไปตรวจ” เขาไปตอบหมอคนนั้นก่อนที่พวกบอดี้การ์ดจะดึงตัวยัยแพรวดาวไปจากฉันทันที
“ไม่ได้… ไม่อย่าเอาน้องฉันไปนะ ...อย่าาาา” ฉันพยายามจะดิ้นสุดแรงเพื่อช่วยแพรวดาว แต่ก็ต้านแรงของพวกผู้ชายที่ดึงออกไปไม่ได้
“พี่พราว พี่พราวววว กรี้ดดดดดดดดด... ช่วยหนูด้วย” ยัยแพรวดาวร้องไห้ลั่นเรียกชื่อของฉัน
ฟุบบบบ...
ฝ่ามือของใครอีกคนก็กระชากแขนของฉันเอาไว้ เพียงแค่พริบตาเดียว
“ปล่อยนะ อย่าทำอะไรน้องฉันนะ” ฉันพยายามตะโกนบ้าคลั่งอย่างกับคนเสียสติ
“ปล่อยแพรวดาวนะ ปล่อยยย” ฉันร้องตะโกนและพยายามสะบัดมือที่จับแน่นให้หลุดเพื่อวิ่งตามไป
แต่มือของบลูไนท์กลับยิ่งกระชับแน่นเหมือนคีมเหล็กที่บีบข้อแขนของฉันจนแทบจะแหลกละเอียด...
“เงียบ” เขาพูดอยู่แค่นั้น มือก็ยังคงจับแขนของฉันเอาไว้ไม่ปล่อย
“ใจร้ายเกินไปไหม น้องฉันยังเด็ก นายคิดจะทำอะไรน้องฉัน จะทำอะไร!!!” ฉันหันไปเผชิญหน้าจอมโหดที่น่ากลัวที่สุดอย่างหมดหนทางสู้
“น้องเธอไม่ตายหรอก ก็แค่เช็กภายในเท่านั้น” เขาตอบกลับมาเสียงแข็ง ๆ ราวกับมันไม่ใช่เหตุการณ์ที่น่ากลัวอะไร
แต่ว่ายัยแพรวดาวถูกบอดี้การ์ดของหมอนี่ลากเข้าไปในห้องพักห้องหนึ่งภายในบ้านหลังใหญ่นี้ ก่อนที่ประตูจะปิดลงสนิท และพวกบอดี้การ์ดก็ออกมายืนรอที่หน้าห้องแทน
“ตรวจภายใน ตรวจทำไม??? ทำแบบนั้นทำไม” ฉันยังคงพยายามจะสะบัดมือทิ้งแต่บลูไนท์ก็ยังคงจับเอาไว้แน่น
“ถ้าเธอยังไม่เลิกร้องโวยวายน่ารำคาญ ฉันจะเปิดอีกห้องหนึ่งและให้พวกลูกน้องหาอะไรมายัดปากเธอให้เงียบซะ” เขาพูดออกไปอย่างเสียงดังจนพวกลูกน้องต่างหันมามองทางฉันและยิ้มเล็กยิ้มน้อยอย่างชวนสยอง
ฉันทำได้แค่ทรุดตัวลงและนั่งร้องไห้อย่างหมดทางเลือก พอฉันทรุดตัวลงนั่ง หมอนั่นถึงยอมปล่อยมือออกจากข้อแขนของฉัน ที่สร้างรอยแดงช้ำเอาไว้
“กรี้ดดดดดดดดด เจ็บอย่าทำหนู หนูกลัวพี่พรา....”
เสียงของยัยแพรวดาวร้องลั่นออกมาจากห้องนั้น ทำเอาฉันรีบลุกขึ้นทันที
“แพรววว” ยังไม่ทันที่ฉันจะวิ่งเข้าไปหาแต่ฉันกลับถูกท่อนแขนของคนคนเดิมกันเอาไว้
“อื้อออออ อย่าทำ ๆ”
แพรวดาวยังคงร้องออกมา ฉันสงสารน้องจับใจ แต่กลับทำอะไรเพื่อช่วยน้องไม่ได้เลยสักอย่าง