BAD MAFIA 8
เช้าวันต่อมา...
“ให้ตายเหอะ! เป็นโรคจิตรึไงกัน!” หญิงสาวสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อเห็นรอยแดงตามลำคอและเนินอกตัวเอง ยิ่งตรงบริเวณรอบปลายจุกสีชมพูมีรอยเขี้ยวลึกจนเป็นแผลเลือดซึมออกมาเลยด้วยซ้ำ
“ไอ้เวรตะไลเอ๊ย!” เอริณสบถหยาบคายเมื่อนึกถึงการกระทำของมาเฟียหนุ่มที่เธอโดนกระทำอย่างไม่สมยอม มันยิ่งทำให้หญิงสาวหัวเสียจนแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ครืดดดดด ครืดดดดด! เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูสั่นสะท้านไปทั่วห้องรับแขก ร่างบางละสายตาจากกระจกก่อนจะเดินมาหยิบมันที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกกลางห้อง
“ว่าไง ฟาริส”
(เมื่อคืนคุณหนูปลอดภัยดีใช่ไหมครับ)
“ปลอดภัยดี ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไรหรอกน่า”
(ครับ)
“มีอะไรรึเปล่า ทำไมถึงโทรมาถามแบบนี้”
(พอดีเมื่อคืนเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ ผมเลยไปจัดการแต่กลับมาไม่ทันตอนคุณหนูกลับ)
“...” เอริณเงียบไปกับคำพูดของมือซ้ายของพ่อตัวเอง พลางคิดถึงความบังเอิญที่เมื่อคืนฮาเดสได้มาทำวีรกรรมแบบนั้นกับเธอ
(คุณหนูอยู่ไหมครับ)
“อืม อยู่”
(ผมต้องไปจัดการธุระให้นายใหญ่ ผมจะให้ลูแปงไปคุ้มกันคุณหนูนะครับ)
“เหอะ ไม่ต้องเลย”
(คุณหนูครับ)
“สรุปฉันเป็นเจ้านายหรือนายเป็นกันแน่?” หญิงสาวโวยวายขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ที่ฟาริสทำเสียงเข้มใส่
(ขอโทษครับ)
“ฉันไม่หายโกรธ”
(คุณหนูครับ)
“นี่! เราเป็นเพื่อนกันนะ จะมาคุณหนงคุณหนูอะไรนักหนา”
(...)
“เรียกชื่อฉัน ถ้าไม่เรียกไม่ต้องโทรมาอีก”
(คุณหนู...)
“ฟาริส”
(เอริณ)
“หึ แค่นี้แหละ เสร็จงานนายนั่นแหละมา” สิ้นเสียงนิ้วเรียวก็กดวางสายทันทีก่อนจะนั่งลงบนโซฟาพลางนึกถึงเรื่องข้อตกลงระหว่างเธอกับฮาเดส
“...” เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะแลกมันกับความสงบสุขของตัวเองและเพื่อนดีรึเปล่า เธอควรบอกเรื่องนี้ให้พ่อของเธอรับรู้ดีไหม...ถ้าบอกทุกอย่างน่าจะจบได้ง่าย แต่ฝั่งนั้นอาจจะไม่จบกับเพื่อน ๆ ของเธอน่ะสิ
“ชีวิตฉันยุ่งเหยิงชะมัด!”
หลายชั่วโมงผ่านไป...
กริ๊งงงงง กริ๊งงงงง! เจ้าของขาเรียวที่กำลังนั่งทำการบ้านลุกขึ้นจากพื้นห้องรับแขกเพื่อไปเปิดประตูให้กับคนกำลังกดกริ่งหน้าห้องเธอ
พรึ่บ! ทันทีที่ประตูเปิดกว้างฉันก็โผลออกไปกอดคนตรงหน้าจนเขาไม่ได้ตั้งตัว
“คุณหนู” เสียงทุ้มของชายตรงหน้าเรียกฉันด้วยความเคยชินก่อนจะดันฉันเข้ามาในห้องตัวเอง
“ถ้าเรียกแบบนี้อีกจะโกรธแล้วนะ ฟาริส” ฉันก้าวเท้าถอยห่างก่อนจะกอดอกทำหน้ามุ่ยใส่ร่างสูงตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
“เฮ้อ...ริณ”
“ฟาร์” ฉันเรียกชายตรงหน้าด้วยเสียงอ่อนก่อนอ้าแขนออกให้อีกคนเดินเข้ามาหา
“เดี๋ยวมีคนเห็น” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ชายหนุ่มก็เดินเข้ามากอดฉันแต่โดยดีพร้อมกับซบหน้าลงบนศีรษะฉันอย่างที่ชอบทำ
“คิดถึงจัง ไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเลยอะ” ฉันกอดเอวสอบของฟาริสกลับไปด้วยความคิดถึงอย่างที่พูด
“อืม คิดถึงเหมือนกัน”
“พ่อใช้งานนายหนักเหรอ บอกพ่อให้เอาไหม”
“...”
“ล้อเล่น” ฉันพูดก่อนจะเงยหน้ามองใบหน้าหล่อของคนในอ้อมกอด ถึงฉันจะอยากทำแค่ไหนมันก็ได้แค่คิดนั่นแหละ เพราะความสัมพันธ์ของฉันกับฟาริสเป็นแค่ความสัมพันธ์ที่เป็นความลับ ไม่ใช่สถานะแฟน ไม่ใช่สถานะคนรัก มันเป็นเพราะเราทั้งคู่ยังไม่มีใครเท่านั้นเอง...
“วันนี้อยู่ด้วยกันไหม"
“เป็นผู้หญิงยังไง ชวนผู้ชายแบบนี้"
“ก็คิดถึง” ฉันพลางซบหน้าลงอกแกร่งของฟาริสอย่างอ้อนๆ
“อยู่ด้วยไม่ได้วันนี้ต้องไปทำงาน” เขาเอื้อมมือมาลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยนก่อนที่ฉันจะจับมือเขาดึงเข้ามาในห้องนอน
“เสร็จงานก็มาไม่ได้เหรอ วันนี้ไม่ใช่เวรฉันเฝ้าผับ” ฉันผลักเขาลงไปนอนที่เตียงก่อนจะลงไปนอนข้างๆ
“...” เขาส่ายหัวตอบกลับมาก่อนจะดันหัวฉันออกจากหน้าอกตัวเอง
“ทำไมได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิง?” ฉันขมวดคิ้วมองอีกคนด้วยสายตาสงสัย
“น้ำหอมที่เธอซื้อให้ไง”
“แน่ใจ?”
“ถ้าจะคาดคั้นกัน...เธอก็บอกมาว่ารอยนี้ของใคร?” เขาพูดก่อนจะปัดผมยาวฉันออกจากคอเผยให้เห็นรอยเม้มสีแดงที่เด่นเป็นวงอยู่ตรงต้นคอ
“หึงรึไง?”
“หึ” เขาแค่นหัวเราะในลำคอพลางใช้ดวงตาสีเทาหม่นมองฉันอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก
“อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบที่นายมองเหยื่อของตัวเองนะ”
“ไม่อยากเป็นเหยื่อฉันแล้วรึไง?”
“หึ ถ้าฉันยอมกล้าบอกพ่อฉันไหมล่ะ...”
“...” ฟาริสนิ่งไปกับคำถามของฉัน
“ไว้กล้าเมื่อไหร่ฉันจะเป็นเหยื่อของนายคนเดียว โอเค้?”
“คงไม่มีวันนั้น” ฉันรู้ดีว่าเขาไม่มีทางบอกพ่อฉันแน่นอนว่าเขากับฉันมีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่เชื่อเถอะ ฉันก็ไม่อยากบอกพ่อตัวเองเหมือนกัน
“นายจะปล่อยให้ฉันเป็นของคนอื่นง่ายๆ?”
“ไอ้เวรนั่นก็ต้องตายเหมือนกัน”
“น่ากลัวแฮะ...แต่ก็อยากลองดู”
พรึ่บ! จ๊วบบบบบ~ สิ้นเสียงฉันฟาริสก็โน้มลงมาประกบปากฉันด้วยความรุนแรงและหนักหน่วง มือหนาบีบเอวฉันอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ
“อื้อ!” ฉันทุบแขนเขาสองสามทีก่อนที่เขาจะถอนจูบออกไป
“มือหนัก” ฉันลูบเอวตัวเองเบาๆพลางทำหน้ามุ่ยใส่ตัวต้นเหตุ
“หึ”
“แต่ถ้านายอยากมีคนอื่นฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ...”
“...สถานะเรามันไม่ชัดเจนมาตั้งนานแล้ว” ฉันรู้ว่าเรื่องของฉันกับเขามันไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันรู้ดี อีกอย่างฟาริสก็ควรจะมีผู้หญิงเคียงข้างเขา ซึ่งคนนั้นมันไม่สามารถเป็นฉันได้ไง
“บอกตัวเองเหอะ”
“ถ้าฉันมีแล้วนายจะทำไม? จะฆ่าฉัน?”
“ผมจะไปมีสิทธิ์ทำอะไรคุณหนูล่ะครับ" เขาพูดพร้อมกับหน้านิ่งใส่ฉัน เวลาเขาทำหน้าแบบนี้นั่นแปลว่าเขากำลังงอนฉันอยู่
"ฮ่าๆ นักฆ่าขี้งอนจังนะ" ฉันหยัดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะก้มมองใบหน้าคมแบบฉบับหนุ่มตะวันตกของฟาริสที่กำลังจ้องมองมาทางฉัน
"เธอมีแฟนแล้ว?"
"เปล่า ฉันมีแค่นาย..."
"ถ้าใครทำอะไรเธอ รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่" ดวงตาสีเทานั้นกำลังสื่อความหมายบางอย่างมาให้ฉัน
"นี่ทำในฐานะลูกน้องหรือผู้ชายคนหนึ่ง?"
"ทั้งสองอย่าง" ร่างสูงลุกขึ้นมานั่งบนเตียงก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอดแน่น
"เธอมีแฟนได้รู้ใช่ไหม?"
"อืม"
"แต่ผู้ชายคนนั้นต้องดีมากพอ ถ้าไม่ดีฉันก็จะฆ่ามัน"
"หึงโหดแฮะ"
“เอริณ” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเข้ม
“นี่! อย่ามาดุฉันนะ”
"หึ ฉันต้องไปแล้ว ไอ้ลูแปงรออยู่" เขาพูดพลางลูบหลังฉันอย่างอ่อนโยนซึ่งฉันก็ยินดีรับสัมผัสของเขา มันไม่ใช่ความรักมันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกโดดเดี่ยวของกันและกันมากกว่า
"อืม" ฉันโน้มไปจูบเขาเบา ๆ หลังจากนั้นฉันก็จูงมือเขาออกมาด้านนอก
"อย่าเป็นอันตราย"
"อืม" เขาพยักหน้ารับรู้อย่างทุกครั้งเพราะเวลาเขาไปทำงานให้กับพ่อฉันมันก็มีแต่เรื่องอันตรายๆทั้งนั้น ก็พ่อฉันเป็นมาเฟียนี่เนอะ
"ถ้าจะไปไหน บอกด้วย"
"อืม" ฉันพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูห้องให้ฟาริสเดินออกไป
"ฟาร์"
"ว่างะ..." ฉันยื่นหน้าไปจูบที่ปากเขาอีกครั้งก่อนจะปิดประตูห้องทันทีโดยไม่รอให้เขาได้ต่อว่าอะไรกลับมา
ปัง! ฉันเดินกลับมานั่งทำงานตามเดิมด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าเมื่อกี้ พอได้อยู่กับฟาริสมันเหมือนช่วยฮีลความเหนื่อยล้าของฉันได้
ติ๊งงงงงง ติ๊งงงงง! ฉันปรายตามองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนพื้นข้างตัวเล็กน้อยก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดูอย่างไม่ใส่ใจมากนัก
H : ( รูปกอด )
H: ( รูปจูบปาก )
H: คาสิโน xxx ถ้าไม่อยากให้มันไปอยู่ในมือพ่อเธอ
"!!!" ฉันป้องปากตัวเองด้วยความตกใจเมื่อเห็นรูปที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
ผ่านไปสักพัก...
ตึก! ตึก! ตึก! ฉันเดินเข้ามาในคาสิโนหรูก่อนจะเดินขึ้นมาด้านบนที่เป็นห้องทำงานของคนที่ส่งรูปให้ฉัน
"เข้าไม่ได้ครับ" ฉันตวัดสายตามองชายชุดดำอย่างไม่สบอารมณ์
"ถอยไปฉันมีเรื่องจะคุยกับเจ้านายพวกแก!'
"เข้าไม่ได้ครับ นายไม่ได้บอกว่าจะมีใครมาพบ"
"เฮ้ย! มึงจำที่พี่ซิคโก้บอกไม่ได้เหรอว่าจะมีผู้ชื่อเอ...เออะไรก็ไม่รู้มาพบนาย"
"เอริณ" ฉันพูดเสียงเรียบ
"ใช่ ชื่อนี้เลย"
"งั้นก็ถอยเพราะมันชื่อฉัน!" ฉันดันผู้ชายทั้งสองคนออกจากประตูบานหรูก่อนจะเปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ
พรึ่บ! ฉันเปิดประตูอย่างแรงก่อนจะเดินตรงไปหาร่างสูงที่นั่งคุยกับลูกน้องอยู่ที่โซฟาทันที
"ฮาเดส ทำแบบนี้ทำไม!!"
"หึ รีบร้อนแบบนี้สงสัยจะจริง" เขาพูดด้วยแววตาเยาะเย้ย ฉันเห็นแบบนั้นก็มือไม้สั่นพุ่งเข้าไปกระชากเสื้อเขาทันที
"ไม่ต้อง มึงออกไป" เขาห้ามลูกน้องเขาที่กำลังจะเข้ามาหาฉัน
"ครับนาย"
พรึ่บ! พลั่ก! เขากระชากมือฉันออกจากเสื้อตัวเองก่อนจะปล่อยมือฉันอย่างแรงจนล้มไปบนโซฟา
"มือซ้ายกับลูกสาว..."
"...เป็นความสัมพันธ์ที่น่ายินดีจังนะ หึ"
"คิดจะทำอะไร!!" ฉันถามออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
"..." เขาเลียริมฝีปากไปมาก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันพลางเลื่อนมือสากมาลูบไล้ต้นขาฉัน
พรึ่บ! ฉันปัดมือหนานั้นทิ้งก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง
"สู้ไม่ได้ ก็เล่นสกปรก..."
"...มาเฟียอย่างนายทำได้แค่นี้เหรอ!" ฉันมองเหยียดคนตรงหน้าที่เล่นไม่ซื่อกับฉันก่อน
“ฮ่าๆๆ นอนสิ...”
“...ฉันจะบอกเธอเอง” เขาพูดก่อนจะกระชากตัวฉันเข้าไปใกล้พลางดึงฉันมาที่ห้องริมขวามือในห้องทำงานของเขา
พลั่ก! เขาผลักฉันลงที่เตียงใหญ่ก่อนจะพุ่งเข้ามาคร่อมฉัน
"หึ ไหนดูสิว่าผู้หญิงอย่างเธอจะเด็ดแค่ไหน ถึงทำให้นักฆ่าหักหลังเจ้านายตัวเองได้!"
"สารเลว!" ฉันตวาดออกไปด้วยความโกรธ
"ยังเร็วไปที่จะด่านะ..."
"...รอให้ฉันทำให้เสร็จแล้วด่าใหม่ก็ยังไม่สาย!"