บท
ตั้งค่า

บทที่8 ‘อยากให้อยู่’

หึ ผมอยากจะขำออกมาฉิบหาย ตอนเธอพูดว่าไม่อยากใช้ผมร่วมกับใคร หน้าโคตรเอาเรื่องอะ นี่ขนาดเมาเดินมาหาเรื่องผมที่นั่งคุยเฉยๆยังขนาดนี้ แล้วถ้าวันหนึ่งผมเกิดหน้ามืดตามัวจีบยัยนี้ขึ้นมาจริง ๆ จะใช้ชีวิตยังไงวะ ผมคงไม่ได้มีโอกาสเหลือบมองใครอีกแล้วแน่ ๆ แค่คิดก็เสียวสันหลังแล้ววะ

แต่นั่นแหละผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ ผมแค่หลงเธอเท่านั้น หลงที่เธอไม่เหมือนใคร

“กลับเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่ง” หึ เมาขนาดนี้พรุ่งนี้จะจำได้ไหมว่ะว่าคืนนี้เธอทำอะไรกับผมไว้

“รอแป๊บหนึ่ง ไปบอกเพื่อนก่อน”

[ Khun nai part ]

พรึบ!

“มึงไหวปะเนี่ย แล้วเมื่อกี้มึงไปกอดใครรู้ตัวรึเปล่า” โมชิรับตัวฉันไว้หลังจากที่เดินกลับโต๊ะมาหาพวกมัน เมื่อกี้มันถามอะไรนะ ถามว่าฉันกอดใครนะเหรอ ทำไมฉันจะไม่รู้ตัวว่าฉันกอดใคร ถึงฉันจะเมาแต่ฉันรู้ตัวนะว่ากอดตาบ้านั้นและไล่ผู้หญิงของเขาด้วย ก็ฉันแค่ไม่ชอบใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่นจริง ๆ อะ มันน่าขยะแขยงถึงจะไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ถ้ามายุ่งกับฉันแล้วก็ห้ามยุ่งกับคนอื่น

“กูจะมาบอกว่ากูจะกลับแล้ว” ฉันบอกพวกมันสองคนเสียงยานๆ ไม่ไหวแล้วตอนนี้มึนหัวอะ

“แล้วมึงจะกลับยังไง” โมชิเป็นคนถาม

“เขาจะไปส่งกู” ฉันชี้ไปที่ตัวบุคคลที่ยืนล้วงกระเป๋ามองฉันอยู่ที่เดิม “ใครวะ...แล้วไว้ใจได้เหรอว่ะมึง” ลูน่าถามฉันพร้อมกับชะเง้อคอมองหาคนที่ฉันชี้ท่ามกลางความมืดมัวมีเพียงไฟกะพริบสลัวๆ วิบวับ ๆ ตามฉบับในผับ

“ได้...เขาไม่ใช่คนดี...แต่...ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”

“อีสัส พร่ำอะไรของมึงว่ะกูงง...แต่คนที่มึงชี้หน้าโคตรคุ้นๆ เลยว่ะ” ลูน่าว่า

“ไม่คุ้นหรอก...กูไปก่อนนะ” ฉันรีบปฏิเสธเพราะไม่อยากให้พวกมันสองคนสงสัยและถามมากไปกว่านี้ ก็คนที่มันว่าคุ้นๆ คือคนเดียวกันกับที่กอดฉันที่ร้านกาแฟไง ขืนให้พวกมันรู้ว่าเป็นคนเดียวกันฉันโดนล้อหนักแน่ ฉันเลยรีบปฏิเสธแล้วรีบหมุนตัวเดินไปหาคนที่ยืนรออยู่ที่เดิมแทน

“เสร็จแล้ว”

ฉันบอกคนตัวสูงตรงหน้า พร้อมกับยื่นกระเป๋าสะพายให้เขาถือแทน เขาก็ไม่ว่าอะไรนอกจากรับไปสะพายแล้วโอบเอวฉันเดินฝ่าผู้คนออกไปจากผับ

30นาทีต่อมา...

@คอนโดคุณนาย

หลังจากที่ออกมาจากผับประมาณ10นาที กองทัพก็ขับรถมาส่งคุณนายที่คอนโดเหมือนเดิม แต่เขาเลือกลงจากรถแล้วเดินตามร่างบางที่เดินโอนเอนเล็กน้อยมาด้วย เพราะไม่ไว้ใจให้เธอเดินขึ้นคอนโดคนเดียวเกรงว่าจะรบกวนคนอื่นหรือไม่ก็เข้าผิดห้องสักก่อน

ติ๊ด ๆ

ร่างบางยืนกดรหัสห้องเพื่อเปิดประตู โดยมีร่างสูงใหญ่ยืนซ้อนแอบดูอยู่ด้านหลังทำการจดจำรหัสประตูห้องของเธอเข้าไปในสมองอันชาญฉลาดเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เมื่อหญิงสาวหมุนตัวพิงประตูห้องมองตน

“นายกลับ...ไปได้แล้ว...ฉันจะเข้าห้องแล้ว~”

น้ำเสียงยานคราง มือไม้เท้าอ่อนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ของเธอที่กำลังไล่เขากลับทำเอาคนตรงหน้าที่ยืนดูสภาพเธอถึงกับเค้นหัวเราะในลำคอออกมาอย่างเย้ยหยันกับความเมาหมดสภาพของเธอ

เขาปรายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างส่ายหัว แต่กลับต้องชะงักเมื่อสายตาดันปะทะเข้ากับขาอ่อนเนียนขาวของเธอที่ตอนนี้เดรสมันถกขึ้นไปมากจนเกือบจะเห็นสิ่งที่เขาคิดอยู่ในหัว จนต้องรีบขยับเข้าใกล้เธอเพื่อบังตัวเธอจากกล้องวงจรปิดของคอนโดที่กำลังมีคนเฝ้าหน้าจออยู่ พร้อมดึงชายกระโปรงลงมาให้สุดเท่าที่จะสุดได้

“อื้อ~...นายขยับมาใกล้ทำมายมันอึดอัด”

เสียงหวานโวยวายใบหน้าหงิกงอทันทีที่ร่างสูงใหญ่ของกองทัพบดบังตัวเธอจนมิดชิดแทบไม่เห็นตัวเธอ จนต้องยกมือเล็กระดมตีสีข้างของคนตรงหน้าเพราะหายใจไม่ออก

“วันหลังไปผับใส่ผ้าถุงเถอะเธออะถ้าไม่รู้จักระวังตัวแบบนี้”

เขาหลุบตาว่าเสียงดุใส่ร่างเล็กข้างล่างอย่างฉุนเฉียวที่ไม่รู้จักระวังตัวให้ดี ใส่เสื้อผ้าโชว์เนื้อหนังขนาดนี้แต่กลับเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่ก็อย่างว่าแหละคนเมาทำอะไรมักไม่เคยรู้ตัวอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนที่เขากำลังดุตอนนี้อีกยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

“ใส่ผ้าถุงผู้ชายก็ไม่มองสิ เป็นนายนายจะมองไหม....เพราะผู้ชายเขาชอบแบบเซ็กซี่ ๆ แซ่บ ๆ ถูกไหม”

ตัวเล็กข้างล่างเถียงเขากลับพร้อมย้อนถามเขา ซึ่งเขาไม่ตอบได้แต่ถอนหายใจออกไปอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะความดื้อด้านของเธอ

หมับ!

“นายอะ...ไม่ชอบแบบอีป้าหน้าปลอมนั้นหรอก แต่นายชอบแบบฉัน ไม่งั้นนายจะตามให้ฉันไปเป็นพริตตี้ที่บริษัทนายทำไม จริงไหม”

คุณนายแกล้งกอดเอวสอบแล้วแหงนหน้ามองร่างสูงตาแป๋วพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่มส่งไปให้ แถมยังพร่ำเพ้อถึงเรื่องก่อนหน้านี้และเรื่องที่เขาตามเธอมาให้ร่วมงานกับเขาอีก แต่เขาแอบชะงักตอนเธอบอกว่าเขานั้นชอบแบบเธอ

...หึเธอก็มั่นใจในตัวเองเกินไป เขาแค่สนใจบุคลิกแค่นั้นเอง...

“ฉันไม่ได้ชอบเธอ อย่ามามั่ว” เขาหลุบตามองเธอก่อนจะว่าเสียงขุ่น

“นายแอบชอบฉันและติดใจครั้งแรกก็บอกมาเถอะหนา~” เรียวปากบางเม้มเข้าหากันเป็นรอยยิ้มบาง ๆ แฝงความหยอกล้อและเจ้าเล่ห์เบาๆ ทำเอาคนถูกกล่าวหาถึงกับฉุนเล็กน้อย เพราะเขาไม่ได้ชอบเธอสักหน่อย

“ฉัน ไม่ ได้ ชอบ เธอ ยัยขี้เมา” เขาเน้นทีละคำแถมยังว่าร่างเล็กข้างล่างด้วย

“นายชอบฉันไม่งั้นจะหวงการแต่งตัวฉันทำไม”

“...”

“แม่งเอ๊ย! เมาแล้วทำไมพูดมากจังว่ะ”

เขาสบถออกมาอย่างหัวเสียที่ถูกหญิงสาวต้อนไม่หยุด และสุดท้ายด้วยความรำคาญเขาจึงจัดการอุ้มเธอขึ้นมาเพื่อที่จะได้รีบเข้าไปส่งเธอในห้องให้เสร็จๆ สักทีจะได้รีบกลับ ขืนยืนคุยนานกว่านี้เขาคงได้ประสาทเสียก่อนแน่นอน

เถียงกับคนเมามีใครชนะบ้างว่ะ!

พรึบ!

“อุ้มไปไหนอ่า...”

น้ำเสียงหวานหยดย้อยถามพร้อมใช้แขนทั้งสองข้างโอบคอของคนที่อุ้มไว้อย่างหลวมๆ แต่คนอุ้มกลับตีหน้านิ่งใส่

“ส่งเธอถึงเตียงไง ปล่อยสภาพนี้เดินชนผนังห้องหัวแตกกันพอดี”

เขาว่าเสียงฉุนก่อนจะรีบใช้เท้าดันประตูห้องให้เปิดออกแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างใน ก่อนจะใช้เท้าปิดประตูลงในเวลาต่อมาเหมือนเดิม แล้วอุ้มร่างบางของคุณนายเดินผ่านห้องโถงใหญ่ไปในห้องนอน

ฟุบ!

เขาค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงนอนอย่างอ่อนโยนด้วยความทะนุถนอมถึงจะรู้สึกฉุนเฉียวกับตัวเล็กก่อนหน้านี้แต่เขาก็ปฏิบัติกับเธออย่างอ่อนโยนอยู่ดี พร้อมเปิดไฟหัวเตียงให้เธอ และห่มผ้าห่มให้เรียบร้อยก่อนจะหยัดกายเตรียมออกไป

แต่...

หมับ!

“นาย...อยู่กับฉันก่อนสิ...”

ดวงหน้าหวานมองแผงอกล่ำสันผ่านเสื้อเชิ้ตสีดำของชายหนุ่มสายตาหวานฉ่ำ มือหนาที่เธอจับอยู่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าอุ่นใจแปลกๆ เธอเริ่มไม่แน่ใจว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเปล่าที่เธอรู้สึกแบบนี้แต่จู่ ๆเธออยากให้เขาอยู่

“อยากให้ฉันอยู่หรืออยากให้ฉันทำ” แต่กลับถูกร่างสูงโปร่งตรงหน้าจู่โจมด้วยคำถามตรงไปตรงมาแทน

“แล้วถ้าทั้งสองได้ไหมล่ะ” ซึ่งเธอก็ไม่น้อยหน้าที่จะตอบตรงไปตรงมาเช่นกัน แถมยังส่งยิ้มหวานหยอดให้คนตรงหน้าอีกด้วย

“หึ ร้ายใช่ย่อยนะ”

“แล้วนายไม่ชอบเหรอ”

“ฉันไม่อยากทำเพราะเธอกำลังเมา”

“ฉันไม่ได้เมามากแล้วน่ะ” เธอยังคงหว่านล้อมคนตัวสูงไม่ลดละ

“จะเอาให้ได้ว่างั้น”

“นายเองก็อยาก...ทำ...ไม่ใช่เหรอ” เธอถามเน้นที่ละคำเชิงกำกวม แต่สำหรับคนตัวสูงตรงหน้าแล้ว เขารู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร

ซึ่งเขาจะไม่รอช้าอีกต่อไปเพราะเสนอมาเขาก็แค่สนองกลับ...

กองทัพรีบปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกทันทีมุมปากเขากระดกเป็นรอยยิ้มร้ายจางๆ สายตาเขาดุจเสือร้ายทอประกายมองดวงหน้าเย้ายวนข้างล่างอย่างไม่ลดละ ก่อนจะถอดเสื้อทิ้งแล้วก้มลงทาบร่างลงบนตัวเธอจับจูงมือเธอพาเดินเข้าสู้กองไฟเสน่หาให้เปลวไฟร้อนแรงแผดเผาร่างไปด้วยกัน

จุ๊บ จ๊วบ!

“อื้ม~”

ปากหนาบดจูบปากชมพูระเรื่อของคนใต้ร่างอย่างดุเดือด สอดไส้ลิ้นร้อนๆ เกี่ยวกระหวัดอย่างดูดดื่ม

กองทัพจัดการถอดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างออกเหลือแต่บราเซียและแพนตี้ตัวจิ๋วสีดำ เขาปลดตะขอบราอย่างชำนาญทำให้ทรวงอกเต่งตึงเด้งเร้าสู่สายตาเขาอย่างยั่วยวน เขาไม่รอช้ารีบก้มลงดูดดึงเม็ดสีชมพูอย่างหิวกระหายพร้อมบีบเคล้นทรวงอกอีกข้างที่ล้นมือใหญ่ของเขาอย่างเมามัน

“อ่าส์...” ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นบิดเร้าด้วยความเสี่ยวซ่านทรวงอกอย่างทนไม่ไหวแถมยังรู้สึกวาบหวิวไปถึงท้องน้อยอีกด้วย จึงต้องปล่อยเสียงหวานครวญครางออกมาเบาๆ

กองทัพผละออกจากยอดอกชมพู ลากจมูกโด่งคมสันลงมาตามเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นน่ากินของเธออย่างหลงใหล ผิวขาวเนียนดุจหิมะของเธอทำเขาอยากจะฝั่งเขี้ยวลงไปให้รู้แล้วรู้รอด

“อ๊ะ! ไม่ดูดสิ...อื้อ~”

ร่างบางบิดเร้าอย่างเสียวซ่านทันทีที่โดนปากหนาดูดดึงผิวแถวหน้าท้องแบนราบ เธอหลุบตามองคนตัวใหญ่ข้างล่างอย่างหวาดหวั่นรู้สึกตั้งรับไม่ทันเพราะดูเหมือนเขาพร้อมฆ่าเธอทุกเมื่อ

ในขณะที่คุณนายได้แต่หวาดหวั่นมือหนาของกองทัพก็ทำหน้าที่ต่อไปด้วยการถอดแพ้นตี้ของเธอออกแล้วสอดนิ้วเรียวเข้าไปในช่องแคบของเธอโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว

“อ๊ะ! นะนาย...อื้อ...”

ร่างบางบิดเร้าเม้มปากด้วยความเสียวซ่านไปทั่วทั้งร่างกายเมื่อปลายนิ้วของกองทัพกำลังขยับเคลื่อนไหวไปมากับส่วนนั้นของเธอแต่ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกเจ็บและแสบเมื่อปลายนิ้วของเขาไปขูดกับผนังข้างใน

“...เจ็บ”

“จะหยุดไหมล่ะ ถ้าไม่แน่จริงก็หยุดเพราะถ้าฉันถลำลึกไปมากกว่านี้เสียงร้องขอของเธอก็หยุดฉันไม่ได้”

เขาหยุดปลายนิ้วถามพร้อมเตือนเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไม่...ฉันไม่หยุด”

หึ เสียงทุ้มเค้นหัวเราะในลำคอเบาๆกับความดื้อด้านจองหองของคนใต้ร่างที่ปฏิเสธจะไม่หยุดแถมไม่กลัวต่อคำเตือนของเขาสักนิด

“งั้นก็ตั้งรับให้ดี”

กองทัพดึงปลายนิ้วมือออกทำให้น้ำหวานมากมายทะลักออกจนล้นมือใหญ่ของเขา เขาจึงไม่รอช้ารีบถอดกางเกงออกแล้วชักแก่นกายออกรูดขึ้นลงเตรียมพร้อมดัน

“แยกขาออก” เขาสั่งเธอให้แยกเรียวขาอ่อนของเธอออกเพื่อที่เขาจะได้เข้าไป

“สดหรือถุง” แต่ก่อนจะได้เข้าไป เขาก็ถามร่างบางที่กำลังนอนมองแก่นกายของเขาด้วยตาลุกวาวก่อน ซึ่งเธอไม่คิดว่าอาวุธของเขาจะน่ากลัวขนาดนี้ ถึงว่าวันนั้นเธอถึงเจ็บไปหมดทั้งตัวขนาดนั้น แต่สักพักเธอก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดให้เต็มที่แล้วเชิดหน้าตอบกลับไปอย่างมั่นใจว่า...

“ถุง เพราะนายเน้นปลอดภัยฉันก็เช่นกัน” เธอตอบอย่างชัดเจน

“แต่คืนนี้ฉันอยากสดเพราะใส่ถุงมันอึดอัด”

แต่คนบนร่างกลับพูดส่วนทางกับเธอ ซึ่งฟังดูเหมือนข้ออ้างแต่นั่นแหละมันคือข้ออ้างของเขา เขาต้องการสดกับเธอเพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นคนแรกของเธออยู่แล้วปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์

“ไม่ได้!! มันไม่ปลอดภัย”

สวบ!!

“อ๊ะ!”

แต่คนบนร่างหาฟังคำทักท้วงที่ไหน เขากลับจู่โจมอย่างฉับพลันจนทำให้เธอร้องเสียงหลงออกมาเพราะความจุกและเจ็บไปหมดเหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆและถึงจะเป็นครั้งที่สองแต่มันก็ยังเจ็บมาก ๆสำหรับเธอ เจ็บจนอยากฆ่าคนบนร่างกายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

“ไอ้คนบ้าเอ๊ย!”

“หึหึ เรื่องมากดีนักเป็นไงจุกเลยอะดิ” มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ทำลงไป

“ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก”

“หายเมายัง “เขาถามเธอถึงฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เธอดื่มก่อนหน้านี้ ซึ่งเธอบอกเลยว่ามันหมดไปตั้งแต่ที่เห็นเขาชักอาวุธตัวร้ายออกมาแล้ว

“ตาโตขนาดนี้ยังไม่หายมั้ง” แต่เธอก็ตอบกลับไปเสียงแข็งพร้อมส่งสายตาอาฆาตกลับไปด้วย

“หึ ต่อไปนี้ห้ามเมาแล้วยั่วคนอื่นแบบที่ยั่วฉันอีก ไม่งั้นฉันเอาเธอตายแน่”

“เหรอในฐานะอะไรล่ะ...”

“ผัวสุดที่รักของเธอไง”

“เหอะ งั้นจำไว้ว่าเมียสุดที่รักแบบฉันจะไม่ยอมอยู่ใต้บังคับบังชาของผัวปลอมๆแบบนายเด็ดขาด”

“เหรอ...งั้น...คืนนี้ก็จุกไปละกัน”

สิ้นเสียงเขาก็เริ่มขยับความปรารถนายิ่งใหญ่โถมเข้าสู่เรือนร่างเธอเต็มแรงทันที โดยไม่สนใจดอกไม้งามที่เริ่มบวมเป๋งของเธอ

“อ๊ะ! บะเบา...มันเจ็บ...อ๊ะ...นาย”

“ร้องไปเถอะ ยังไงฉันก็ไม่หยุด”

ในขณะที่ส่วนล่างของเขากำลังขยับเป็นจังหวะหนักหน่วง จนเธอต้องเม้มปากแน่นเพราะความแสบตรงจุดที่เขากำลังเชื่อมต่ออยู่ เธอสัมผัสได้ถึงความเร่าร้อนจากดวงตาคู่นั้นของเขา มันร้อนลวกผิวกายเธอราวกับแสงแดดร้อนแรง

“อ่าส์ ซี้ด...แน่นฉิบหาย”

...เสียงทุ้มแหบครางซี้ดซ้าดถึงความคับแคบและแน่นจนยากจะขยับทำเขารู้สึกปวดหนึบไปหมด ยิ่งร่างบางใต้ร่างตอดด้วยเขายิ่งรู้สึกปวดไปอีก

“นาย...ซี้ด...เธออย่าตอดดิว่ะ ห้ามเกร็งด้วย” เขาดุเสียงแหบพร่าเมื่อคนใต้ร่างเริ่มเกร็ง

“ก็มันเสียว...อ๊ะ....เจ็บด้วย”

“ตกลงเจ็บหรือเสียว”

“ทั้งสองนั่นแหละ....นาย...อ๊ะ!”

“ทนไป...”

นานนับหลายนาทีที่ร่างกายของเธอได้แต่สั่นสะท้านตามแรงกระแทกของเขา รวมถึงหน้าอกหน้าใจที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะ เธอได้แต่เม้มปากแน่นไม่เผลอหลุดครางออกมาอีกจนกระทั่ง...

“อ๊ะ...มันลึกไปแล้ว... จุกนะคนบ้า!” เธอใช้ปลายเล็บยาวๆ จิกเข้าเต็มๆ ที่ต้นแขนแกร่งที่มีรอยสักประดับอยู่เพื่อระบายความเจ็บ ใบหน้าหวานประดับด้วยเม็ดเหงื่อเต็มกรอบหน้า ไม่ต่างจากร่างหนาบนตัวเธอที่เหงื่อท่วมตัวราวกับคนออกกำลังกาย

“นะ...นาย...อื้ออ...ฉันไม่ไหวแล้วนะ”

กองทัพไม่สนใจเสียงร้องของเธอที่กำลังเรียกร้องกับเขา เขาส่งฝ่ามือใหญ่ทาบลงบนเนินอกอวบอิ่มกอบกุมคลึงเคล้นไปมาอย่างมีเจตนา พร้อมฉกฉวยริมฝีปากชมพูเพื่อให้เธอเงียบลง

จุ๊บ จ๊วบ

“ฮื่มมมม~”

“ซี้ด อ่าส์...ปล่อยในหรือปล่อยนอก”

เขารอคำตอบจากเธอ เพราะตอนนี้ใกล้ถึงเวลาจะปลดปล่อยเต็มทีแล้ว แต่คนใต้ร่างกลับหน้าแดงซ่านอย่างเขินอายกับคำถามของเขา เธอคิดเพียงแค่ว่าคำถามพวกนี้ควรต้องมาถามเธอด้วยเหรอ...

“ไม่ตอบงั้นฉันปล่อยใน”

“ไม่ได้น่ะ...หลั่งนอกสิ” เธอรีบส่ายหัวเป็นพัลวันทันทีที่ได้ยิน แต่คำตอบของเธอก็ช้าไปเสียแล้ว เพราะกองทัพได้กระตุกแก่นกายปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในตัวเธอแล้ว

“ซี้ด..อ่าส์....เธอตอบช้าไปว่ะ ฉันเสร็จแล้ว” เขาบอกเธอหน้าตาไม่สะทกสะท้าน แต่กลับกันร่างบางใต้ร่างกลับขบกรามแน่นด้วยความโมโห ก่อนจะหยิบหมอนใบใหญ่ขึ้นมาฟาดร่างกายของเขา

ปึก!

“ไอ้คนบ้า!! แล้วทำไมไม่รีบเอาออกมาหะ!”

“ก็มันเอาออกมาไม่ทันไหมว่ะ!” เขาตอบเสียงดังกลับไปแข่งกับร่างบางใต้ร่างพลางหายใจเหนื่อยหอบหลังจากปล่อยน้ำไปเต็มที่

“ขึ้นเสียงเหรอหะ! ลงไปเดี๋ยวนี้เลย” เธอไล่เขาลงจากร่างกายอย่างโมโหทันทีที่กองทัพกล้ามาขึ้นเสียงใส่เธอ แล้วถามหน่อยมันความผิดใคร มันผิดที่เขานั่นแหละที่ไม่ยอมป้องกันแต่แรก!

“ไม่ลง เพราะฉันยังไม่อิ่ม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel