บทนำ
1เดือนก่อนหน้านี้...
เหตุการณ์การที่ฉันเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะมาเกิดขึ้นกับตัวเอง เพียงเพราะไปงานวันเกิดของเพื่อน คืนนั้นที่ฉันจำได้คร่าวๆ ที่ผับดราก้อน ฉันดื่มหนักมากชนิดที่ว่าไม่เคยดื่มแบบนี้มาก่อน แต่ทุกคนไม่ต้องสงสัยน่ะว่าทำไมฉันถึงดื่มหนัก อกหักมาเหรอ? เปล่าหรอก ฉันแค่เบื่อๆ แค่อยากเมาก็เลยดื่มแก้เบื่อแค่นั้นเอง แต่ไม่คิดว่าจะเมาหนักถึงขั้นที่ไม่รู้ว่าตัวเองมานอนอยู่กับเพื่อนร่วมชั้นที่แสนจะเกลียดขี้หน้ามันอย่างไอ้รามสูรได้ไง และใช่ มันเป็นคนพรากครั้งแรกของฉันไป....
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
“ไอ้บ้ารามสูร!!! นายตื่นมาเดี๋ยวนี้น่ะ ฉันบอกให้ตื่นมาไง” ฉันเอาหมอนทุบตีไปที่ร่างใหญ่ๆ ของมันเพื่อที่จะให้มันตื่นมาคุยกับฉัน จนในที่สุดมันก็ยอมตื่นขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าหงุดหงิดใส่ฉันที่รบกวนการนอนของมัน
“โอ้ย จิ๊ รำคาญว่ะเจ้า มึงจะอะไรนักหนาว่ะ”
“นี่นายยังมีหน้ามาทำท่ารำคาญใส่ฉันอีกเหรอหะ!!”
“นายดูสภาพของเราก่อน ทำไมนายถึงได้ทำบ้าและเลวแบบนี้หะ” ฉันหยิบหมอนที่อยู่ใกล้มือที่สุดปาใส่หน้ามัน จนมันเริ่มโมโหหยิบหมอนออกไปจากหน้าตัวเองแล้วพูดกับฉันเสียงดัง
“กูไม่ได้ทำบ้าอะไรมึงเจ้า แต่มึงเมาแล้วมายั่วกูเองต่างหาก”
“ไม่จริง อย่ามาพูดมั่ว ๆ น่ะ นายตั้งใจจะขมขื่นฉันใช่ไหม”
“เลอะเทอะแล้วเจ้า กูไม่ได้ขมขื่นมึงแต่มึงสมยอมเองต่างหาก มึงลองคิดดี ๆ”
หลังจากที่มันให้ฉันคิดฉันก็นั่งนิ่งพยายามทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ นับตั้งแต่ลุกออกจากกลุ่มเพื่อนเพื่อไปเข้าห้องน้ำ และดันไปเจอรามสูรมันอยู่กับผู้หญิงแล้วฉันกระชากแขนมันออกจากผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับแสดงความเป็นเจ้าของ จนสุดท้ายที่เรื่องมันมาจบลงที่เตียงตรงนี้ อ้าย! ฉันไม่อยากคิดต่อแล้ว...
ฉันนั่งนิ่งกุมขมับตัวเองทั้งสองข้างเพราะภาพเมื่อคืนที่ฉันนึกตามที่รามสูรบอกอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะรั่วได้ขนาดนั้น
“แต่...” รามสูรเอ่ยออกมาหลังจากที่เห็นฉันนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
“แต่อะไรของนาย”
“แต่มึงไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ ถึงกูจะเลวยังไง กูก็เป็นคนแรกของมึง กู
จะรับผิดชอบมึงเองเดี๋ยวกูเข้าไปคุยกับครอบครัวมึง”
“ไม่ต้อง!!!! หยุดเลยน่ะ นายอย่าทำอะไรโง่ๆ น่ะรามสูร ปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปนั่นแหละดีแล้ว ฉันไม่ติดใจอะไรกับครั้งแรกของฉัน”
“ไม่ได้ว่ะเจ้า พอดีกูเกิดอยากเป็นคนดีขึ้นมาว่ะ”
เท่านั้นแหละ........
1เดือนต่อมา...
งานแต่งงานที่จัดกันอย่างเรียบง่าย มีเฉพาะคนในครอบครัวและเพื่อนที่สนิทกันจริง ๆ เท่านั้นของทั้งสองฝ่ายมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวที่ได้ฤกษ์แต่งงานกันวันนี้...
ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่นมีเสียงบรรเลงจากเปียโนคลอเบาๆ ตอนที่เจ้าสาวเดินเข้ามาหาเจ้าบ่าวที่ยืนรออยู่หน้าบาทหลวง..
เมื่อเข้าสู่พิธีทุกคนลุกขึ้นยืนเป็นสักขีพยานให้กับบ่าวสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าด้วยความปลื้มปิติ
"ข้าพเจ้าภูบดินทร์ ขอรับคุณสิรินทิพย์ เป็นภรรยา และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุข และ ยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
เมื่อรามสูรกล่าวจบบาทหลวงจึงหันมาถามจันทร์เจ้าต่อทันทีซึ่งจันทร์เจ้าก็หันไปยิ้มบาง ๆแบบแบ่งรับแบ่งสู้กับบาทหลวงก่อนจะหันหน้าไปสบตารามสูรแล้วเอ่ยบทของตัวเองอย่างขมขื่นในเวลาต่อมา
"ข้าพเจ้าสิรินทิพย์ ขอรับคุณภูบดินทร์ เป็นสามี และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุข และ ยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
หลังจากกล่าวประโยคสำคัญจบแล้วทั้งคู่ก็ได้แลกสวมแหวนให้กันและกันเป็นที่เรียบร้อย เป็นอันว่าเสร็จพิธีการไปอย่างสมบูรณ์แบบ...
และถึงแม้ว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับชายร่างสูงที่แสนหล่อเหลาและมีความเจ้าเล่ห์อย่างรามสูรขนาดไหน...เธอก็ปฏิเสธออกไปไม่ได้ เพราะเรื่องที่มันเลยเถิดไปกันใหญ่หลังจากที่รามสูรเข้าไปพบพ่อแม่ของเธอที่บ้าน จนพ่อแม่ของเธอรับรู้เรื่องผิดประเพณีคืนนั้น เรื่องแต่งงานในวันนี้เธอจึงขัดใจผู้ใหญ่มิได้