บท
ตั้งค่า

บทที่7 BAD HUSBAND

หลังจากที่ผมทนอยู่ในห้องทำงานไม่ไหว ผมจึงขับรถออกมาจากคาสิโน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือกดโทรหาจันทร์เจ้า ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องโทรหาเธอ แต่คือตอนนี้ผมกดโทรออกไปแล้วและเธอก็รับสายแล้วด้วย...

[ฮัลโล่]

“...”

[ฮัลโล่]

“...”

[ถ้าไม่พูด เจ้าจะวางแล้วน่ะ]

“ทำงานเสร็จรึยัง”

[ยังค่ะแต่อีกนิดเดียวจะเสร็จแล้ว]

“เดี๋ยวฉันไปรับที่ทำงาน”

[ไม่ได้!! นายจะมาทำไม อย่าลืมว่านายไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องของเรา]

“ช่างแม่งดิว่ะ อยากรู้ก็รู้ไปดิ”

[รามสูร นี่นายเกิดเป็นบ้าอะไรอีกหะ บอกว่าไม่ได้ๆ ไง]

“จิ๊ น่ารำคาญว่ะเจ้า ยังไงๆ ฉันก็จะไปรับ ฉันรออยู่ในรถเสร็จแล้วออกมา”

ติ๊ด.

น่ารำคาญว่ะ กลัวอะไรนักหนากับคนอื่นรู้ว่าผมกับเธอเป็นผัวเมียกัน เมื่อก่อนผมเป็นคนขอเธอไม่ให้บอกคนอื่นก็จริง แต่ตั้งแต่เมื่อคืนผมก็เริ่มคิดใหม่ว่าควรที่จะให้คนอื่นรู้ ไม่อย่างนั้นเวลาที่เธอไปผับไอ้ไซอย่างเมื่อคืนผมก็จะต้องมีเรื่องให้ปวดหัวตลอด....

เพราะไอ้พวกเวรทั้งหลายแม่งจ้องจะลวนลามเมียผมอยู่ตลอดเวลาอันนี้ผมก็ฟังมาจากลูกน้องที่ให้ไปเฝ้าจันทร์เจ้าเวลาเธอมาผับ แต่เมื่อคืนที่เธอโดนแบบนั้นก็เพราะเธอไม่ได้บอกผมว่าจะไปที่ผับไง ผมจึงไม่ได้สั่งลูกน้องให้ไปคุมจึงเกิดเหตุการณ์เวรนั้นขึ้นไง คิดแล้วก็ยังโมโหไม่หาย

ผมนั่งรอจันทร์เจ้าอยู่ในรถหลังจากที่ขับมาถึงออฟฟิศของเธอตามที่ได้บอกเธอไว้ จริง ๆ แล้วผมก็ไม่เคยมารับเธอหรอกตั้งแต่แต่งงานมา ไม่เคยปรากฏให้ใครเห็นว่าเธอกับผมเป็นอะไรกัน แต่วันนี้ไม่รู้เป็นเชี้ยไร เกิดอยากมารับเมียและอยากแสดงตัว แต่สุดท้ายก็โดนเมียขัดสักก่อน

ผมเห็นจันทร์เจ้าเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งน่าจะเป็นเลขาที่เธอเคยบอกผมไว้ แต่เดี๋ยว...นั่นมันไอ้พายุนี่หว่า แม่ง ที่ไอ้ดินบอกว่ามันมาทำงานกับจันทร์เจ้านี่เรื่องจริงเหรอวะ

“สัสเอ้ย” ผมสบถออกมาอย่างหัวเสียที่เห็นจันทร์เจ้าเดินอยู่กับมัน ผมจึงเตรียมจะเปิดประตูรถออกไปหาเธอ แต่เหมือนยัยตัวดีจะรู้ตัว เพราะเจ้ามันรีบเดินมาทางรถผมอย่างรีบ ๆ ผมจึงปิดประตูรถกลับตามเดิมแล้วมองเธอที่กำลังเดินมาเปิดประตูรถด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

ปึก!

“นายมีอะไรรึเปล่า ทำไมถึงมองฉันแบบนั้น”

“หึ คิดจะบอกผัวตอนไหน ว่าไอ้เหี้ยนั่นมันมาทำงานกับเธอ” ยังมีหน้ามาถามเหมือนตัวเองไม่ได้ทำไรผิดทั้ง ๆ ที่มันกำลังขัดคำสั่งผม

“จิ๊ ราม! เขาชื่อพายุ ไม่ได้ชื่อเหี้ยเหมือนที่นายเรียก ส่วนเรื่องบอกไม่บอกมันคืองานของฉันป่ะ”

“ก็กูจะเรียกมันว่าเหี้ยอะ แล้วมึงลืมไปแล้วใช่ไหมที่กูสั่งเมื่อคืนว่าอย่าให้กูเห็นว่าอยู่กับมัน” ตอนนี้ผมโคตรโมโหเลยอารมณ์เสียฉิบหาย

“ราม!! นี่มึงเป็นอะไรมากป่ะ แล้วอารมณ์เสียมาจากไหนหะ ส่วนเรื่องที่มึงเห็นเขาเดินออกมาพร้อมกูเพราะเขาเข้าไปคุยเรื่องงาน กูจำเป็นต้องเจอกับเขาเพราะงานมึงเข้าใจไหม” ยายนี้แม่ง...

“เจ้า!! พูดกับผัวให้มันดี ๆ หน่อยได้ไหมว่ะ” ผมหันไปขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดใส่จันทร์เจ้าที่ได้ยินเธอพูดไม่เพราะกับผม

“เหอะ! พูดกับผัวให้ดี ๆ หน่อย แล้วมึง...”

“จันทร์เจ้า!!!”

“โอ้ย ราม เจ้าเจ็บน่ะ” ผมแม่งสุดจะข่มอารมณ์โมโหตัวเองแล้วว่ะที่จันทร์เจ้าพูดไม่เพราะจนเผลอตัวไปดึงแขนเธอจนร้องเสียงหลงออกมา คือผมแม่งไม่ชอบไงเวลาที่จันทร์เจ้าขึ้นมึงกูกับผมอะ คือผมหยาบคนเดียวก็พอไงเมียไม่ต้อง

“ฉิบ! เจ็บมากรึเปล่า” แต่สุดท้ายก็ต้องอ่อนลงอยู่ดีเมื่อเห็นสีหน้าเหยเกนั้นของเมียที่เหมือนจะร้องไห้เต็มที

“เจ็บ” จันทร์เจ้าตอบผมพร้อมลูบแขนตัวเองปอยๆ มองผมด้วยน้ำตาคลอเบ้าหน่อยๆ ผมจึงถอนหายใจออกมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าตอนแรก

“คราวหลังก็อย่าขึ้นมึงกูกับฉันอีก ปล่อยให้ฉันหยาบคายคนเดียวก็พอ”

“แล้วไอ้เหี้ยเนี่ย แม่งไม่ยอมไปสักทีว่ะ มองเหี้ยอะไรนักหนา” ผมหันไปมองที่กระจกรถด้านหน้าก็เห็นไอ้พายุมันมองมาที่รถผมอยู่ ซึ่งแม่งไม่รู้หรอกว่าใครอยู่ในรถ เพราะรถผมติดฟิล์มดำทั้งคันไง

“ราม จะไปสนใจพายุอะไรนักหนา พวกนายมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”

“ไม่มี” ผมรีบตอบออกไปทันทีที่ได้ยินคำถามจันทร์เจ้า ก่อนจะเข้าเกียร์และเหยียบคันเร่งออกรถทันทีอย่างโมโห มุ่งหน้าไปที่ผับไอ้ไซเนื่องจากว่าผมมีเรื่องงานของครอบครัวที่ต้องคุยกับมันพอดี

@ Dragon Club

ผมพาจันทร์เจ้าเข้ามายังข้างในผับที่ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นัก จะมีก็เป็นพวกเด็กพนักงานที่กำลังเตรียมร้านอยู่อย่างเร่งรีบ

“จะกินข้าวอะไร จะได้สั่งไอ้ดรีมไว้เลย” ผมหันไปถามเมีย เพราะตอนนี้มันเย็นแล้ว เธอคงยังไม่ได้ทานอะไร

“อยากกินข้าวผัดปูอะ” แต่ดูแม่งตอบ

“อยากเข้าโรงบาลรึไง สั่งอะไรไม่คิด” ยัยนี้มันแพ้ปูไง กินแล้วเดือดร้อนต้องเข้าโรงบาลตลอด แล้วดูมันสั่ง...กูละปวดหัว

“ก็มันอยากกินอะ แค่เอาวิญญาณปูก็ได้” วิญญาณก็เถอะใครมันจะยอมสั่งให้ว่ะ เกิดรอบนี้เป็นหนักจะทำไง

“อย่าดื้อได้ไหมวะเจ้า ถ้าแพ้แล้วก็คือแพ้ สั่งอย่างอื่น”

“....”

“จิ๊ ชักช้าอยู่ได้” แล้วเงียบหาพระแสงอะไรวะ คนยิ่งรีบๆ อยู่

“ไอ้ดรีม เอาข้าวผัดไก่มาจานหนึ่ง ให้เร็ว” ผมรำคาญมันที่ยืนคิดว่าจะกินอะไร เลยสั่งให้แม่งไปให้เสร็จๆ จะได้ไปคุยเรื่องงานกับไอ้ไซสักที

“ได้เลยเฮีย”

“ขึ้นไปรอที่ห้องVIPก่อน เดี๋ยวฉันตามไป”

“แล้วนายจะไปไหน”

“ไปคุยธุระกับไอ้ไซแป๊บนึง”

จันทร์เจ้าพาทย์

ฉันพยักหน้าส่งไปให้รามสูร จากนั้นมันก็เดินแยกออกไปเลยส่วนฉันก็เดินขึ้นไปที่ห้องวีไอพีที่มันบอก เพื่อขึ้นไปรอข้าวผัดที่มันสั่งเอาไว้ เห็นดุๆ โมโหเก่งแบบนั้นเอาจริง ๆ มันก็ใส่ใจฉันอยู่แหละ...

เฮ้อ~ ฉันนั่งลงที่โซฟาพร้อมกับถอนหายใจออกมา รู้สึกเหนื่อยเป็นบ้าเลยอะที่ต้องมาทำสงครามกับรามสูรในรถเมื่อกี้ ก็มันอะไม่รู้เป็นบ้าอะไร แปลกตั้งแต่ที่โทรมาบอกว่าจะมารับฉันที่ทำงานแล้ว

แล้วพอมาถึงก็ทำเป็นอารมณ์เสียโมโหใส่แล้วไหนจะไปด่าพายุอีกจนมาทะเลาะกับฉันแล้วเผลอดึงแขนฉันจนปวดไปหมด ปกติมันไม่เคยรุนแรงกับฉันไง ถึงมันจะดูดุดูน่ากลัวก็จริงแต่กับฉันมันโคตรจะอ่อนโยนอะแต่ยกเว้นเรื่องบนเตียงข้อหนึ่งละกัน

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“ข้าวมาแล้วค่ะ”

“จ้า วางได้เลย”

“ซ้ออยากได้อะไรเพิ่มเติมเรียกพายได้เลยน่ะ พายอยู่แถวๆ นี้แหละ”

“ได้จ๊ะ ขอบคุณน่ะน้องพาย”

“ค้า ^^”

ตุบ เพล้ง!!

หลังจากที่น้องพายเดินออกไปได้ไม่นาน ฉันก็ตักข้าวกำลังจะใส่ปากพอดีแต่จู่ ๆ ก็ได้ยินเหมือนเสียงคนชนกันที่หน้าประตูแล้วตามด้วยเสียงถาดอาหารตกพื้น น่าจะเป็นน้องพายคนเมื่อกี้แน่เลย ฉันเลยลุกออกไปดูเผื่อน้องเป็นอะไรจะได้ช่วย แต่...

“ขอโทษค่ะ พายเดินไม่ดูเอง” น้องพายเอ่ยขอโทษแผ่นดินพร้อมกับก้มลงไปเก็บถาดขึ้นมาแล้วเตรียมจะเดินออกไปแต่โดนแผ่นดินจับข้อมือไว้ก่อน ฉันเห็นแบบนั้นเลยเรียกแผ่นดินไว้

“ดิน” แผ่นดินหันมามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปทางน้องพายอีกครั้ง

“กลับไปเจอกันที่ห้อง”

ฉันได้ยินแผ่นดินพูดแค่นั้นก่อนจะปล่อยมือน้องเขา แล้วมันก็เดินเข้ามานั่งที่โซฟาในห้องด้วยหน้านิ่ง ๆ ตามสไตล์มัน ทำเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ฉันจึงเดินตามหลังมันมานั่งที่โซฟาและเริ่มตักข้าวกินอีกครั้งโดยไม่สนใจมันที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างหน้าฉัน

“ไอ้รามไปไหน”

“ไปคุยธุระกับไซเรนข้างบน”

“แล้วทำไมวันนี้มาอยู่ในห้องนี้ได้ว่ะ”

“ไปถามเพื่อนนายสิ ว่าวันนี้มันเป็นบ้าอะไรถึงไปรับฉันจากออฟฟิศแล้วมาขังฉันไว้ในห้องนี้” ฉันตอบแผ่นดินไปในขณะที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

“หึ”

ฉันได้ยินแผ่นดินส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นมันก็ก้มเล่นมือถือในมืออีกครั้งโดยไม่สนใจฉันอีกเลย แล้วไอ้ท่าทางเมื่อกี้นี้ของมันฉันก็ไม่รู้ด้วยว่ามันหมายความว่ายังไง…

ปึก!

จนกระทั่งมีร่างสูงโปร่งของรามสูรผลักประตูเข้ามาในสภาพที่สะบักสะบอมเสื้อผ้าเนกทงเนกไทหลุดลุ่ยหมด ฉันจึงเลิกสนใจมัน แล้วหันไปสนใจคนมาใหม่ที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าหงุดหงิดอย่างรามสูรแทนว่ามันไปทำอะไรมาถึงได้กลับมาในสภาพแบบนั้นได้ เพราะก่อนหน้านี้มันบอกว่าไปคุยงานกับไซเรนไม่ใช่หรือไง...

“นี่มึงไปฟัดกับใครมาว่ะหรือมีผัวใครตามมาเล่นงานมึงรึไง”

“ไอ้สัส เดี๋ยวมึงจะโดนอีกคนไอ้ดิน” รามสูรหันมาสบตาฉันแวบหนึ่งตอนที่แผ่นดินพูดว่ามีผัวใครตามมาเล่นงานเขา แล้วก็หันไปยกเท้าเตะตรงขาแผ่นดินอย่างเคืองๆ ซึ่งตอนที่แผ่นดินพูดพร้อมกับที่รามสูรหันมามองฉัน ฉันรู้สึกใจวูบขึ้นมาแปลก ๆ อะ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเซ็นซิทิฟกับคำพูดพวกนี้ของพวกมันเลย แต่ไม่รู้ทำไมรอบนี้ใจฉันมันชาวาบตอนที่ได้ยิน

“แล้วตกลงนายไปฟัดกับใครมา” ฉันหันไปถามรามสูรที่กำลังยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น

“ไอ้ไซ”

“ไซเรนเนี่ยน่ะ แล้วนายไปต่อยกับน้องทำไม”

“ก็มันปากหมาใส่ฉันก่อน คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่แม่งก็กวนตีนไม่เลิก”

ปึก!!

ยังไม่ทันที่รามสูรจะได้พูดจบก็ได้ยินเสียงเปิดประตูสักก่อน ทุกคนจึงหันไปที่ประตูกันเป็นตาเดียว ซึ่งมีร่างสูงของไซเรนกำลังเดินเข้ามาด้วยสภาพไม่ต่างจากพี่ชายตัวเองเลย แต่ของไซเรนมีเลือดซิบออกที่มุมปากเล็กน้อยกำลังถือกล่องยามาทางฉัน...

“ซ้อ ทำแผลให้หน่อยดิ พอดีโดนหมากัดมา”

“ไอ้ไซ มึงจะเอาอีกข้างไหมไอ้เวร”

“ก็เอาดิ ผมจะได้บอกเมียเฮียว่าโดนต่อยเพราะอะไร” ฉันเริ่มจะปวดหัวกับสองพี่น้องตรงหน้าแล้วอะ คนพี่ก็อารมณ์ร้อนคนน้องก็กวนเก่ง ปกติก็เห็นรามสูรมันยอมไซเรนตลอดแล้วทำไมรอบนี้ถึงได้ลงไม้ลงมือกัน แล้วไหนเรื่องที่ไซเรนขู่จะบอกฉันเมื่อกี้อีกจนตอนนี้รามสูรนั่งนิ่งไปเลย ฉันว่ามันต้องมีอะไรแน่นอน

“มึงถอยออกไปจากเมียกูเลยไอ้ไซ แล้วให้ไอ้ดินทำแผลให้ หรือไม่ก็ไปเรียกเมียมึงมาทำ”

“เมียไม่อยู่”

“ไปเรียกเพื่อนเมียมึงที่ชื่อพายมาทำ...”

“ยุ่งไรกับเด็กกูไอ้ราม” ไม่ทันที่รามสูรจะได้พูดจบแผ่นดินก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนด้วยสีหน้าดุๆของมัน แสดงว่าน้องคนเมื่อกี้นี้รู้จักกับแผ่นดินเหรอเนี่ยก็ว่าอยู่ทำไมคุยกันเหมือนคนที่รู้จักกันมาก่อน

“หวงจริงนะมึง”

“ถ้างั้นใครก็ได้อะที่ไม่ใช่เมียกูทำให้มึงอะ ไปเรียกมา”

“ได้! งั้นผมกลับไปให้เมียป๊าทำแผลที่บ้านให้ดีกว่า ซ้อว่าดีไหม”

“ไอ้ไซ ไอ้น้องเวร”

“เอากล่องยามา!! เดี๋ยวกูทำเอง แม่งเรื่องเยอะฉิบหาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel