บทที่2 BAD HUSBAND
“กรี๊ด!!!! ไอ้บ้ารามสูร ฉันจะฆ่าแก ไอ้ผัวเฮงซวย” ฉันแทบจะลมจับเมื่อเดินเข้าห้องน้ำมาเห็นสภาพตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ ตามตัวมีแต่รอยแดงสีกุหลาบตั้งแต่ต้นคอจนถึงสะดือ...
มันบ้ามาก บ้าจริง ๆ หมายถึงไอ้ผัวเฮงซวยอะทำไมต้องทำตัวฉันเป็นรอยด้วย!!
“เป็นอะไรของเธออีกว่ะเจ้า” รามสูรที่กำลังนอนอยู่ที่เตียงสะดุ้งตกใจกับเสียงกรี๊ดของฉันจนต้องลุกมาหาฉันที่ห้องน้ำด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ฮื่อ~ นายทำกับตัวฉันแบบนี้ได้ไงหะ!”
“ก็แค่รอยดูดไหมว่ะ จะโวยวายอะไรหนักหนา”
เพี้ยะ! เพี้ยะ! ตุบๆ ตุบๆ
“โอ๊ย กูเจ็บน่ะเจ้า หยุดๆ” ไอ้รามสูรมันดึงมือฉันไปจับพร้อมกับหันตัวฉันไปข้างหน้าทำให้ตอนนี้เหมือนมันกำลังกอดฉันอยู่กลายๆ แต่ฉันไม่ยอมจบง่ายๆ ไง ฉันยังคงพยายามดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของมัน จนกระทั่งฉันยกเท้าไปเหยียบเท้ามันแรงๆ
ตุบ!!!
“ซี๊ด จันทร์เจ้า!!!” มันถึงยอมปล่อยตัวฉันแล้วตวาดเสียงดังพร้อมกับก้มไปลูบเท้าตัวเองปอย ๆ ก่อนจะเงยหน้ามามองฉันด้วยนัยน์ตาแข็งกร้าวเหมือนมันอยากจับฉันทุ่มลงพื้นให้ได้อะ
“เหยียบมาได้ไงว่ะ! มันเจ็บน่ะเว้ย”
“เหอะ! แค่นั้นมันยังน้อยเหอะ เทียบกับรอยบ้าๆ บนตัวฉันตอนนี้อะ”
“จิ๊ แล้วจะเอาไง ก็มันดูดไปแล้วอะ ต้องรอให้มันหายไปเองไหมวะ หรือไม่ก็เอารองพื้นมาทา จะได้จบ ๆ”
เพี้ยะ!!!!
“โอ้ย ฉิบ ยัยบ้าจันทร์เจ้า ซี๊ด เป็นรอยเลยเห็นไหมวะ”
ฉันหมั่นไส้มันมากที่กล้าพูดออกมาได้หน้าตาเฉยกับการกระทำของตัวเองจึงฟาดไปเต็มๆ ที่กล้ามเน้นๆ ของมันจนเห็นเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้วของฉัน สมน้ำหน้ามัน อยากตีให้หนักกว่านี้อีกถ้าไม่ติดกับสายตาดุ ๆ ของมันอะ
“ออกไป ฉันจะอาบน้ำไปทำงาน”
“ไม่ออก ฉันจะอาบน้ำด้วย”
“จะบ้าหรือไง ฉันเข้ามาก่อนฉันก็ต้องอาบก่อน ส่วนนายออกไปรอข้างนอก”
“จิ๊ ห้องก็ห้องกู เป็นใหญ่ทุกอย่างในห้องแม้กระทั่งห้องน้ำ”
“ฉันได้ยินน่ะรามสูร”
“ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันไปทำงานสาย”
พลั่ก!! ปัง!!!!
“ฉิบ ยัยบ้าเอ้ย ผลักมาได้ไงว่ะ”
หลังจากที่เมียตัวแสบมันผลักผมออกมาแล้วปิดประตูเสียงดังใส่หน้าผม ผมจึงเดินกลับมาเปิดทีวีดูรายการรอจันทร์เจ้าอาบน้ำเสร็จอยู่ที่เตียงอย่างเซ็งๆ ตื่นมาตอนเช้าก็เจอสงครามน้ำลายเลยกู เหอะ!!
ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาประมาณ3เดือนกว่าแล้ว จันทร์เจ้าก็ดูเหมือนจะแข็งข้อกับผมขึ้นไปทุกที ช่วงแรก ๆ ตอนที่แต่งงานกันใหม่ ๆ เราสองคนไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันหรอกครับ อยู่คนละห้องกันโดยที่ห้องของจันทร์เจ้าอยู่ตรงข้ามกับห้องของผม แต่ช่วงหลังๆ ผมมักจะลากเธอมานอนด้วยตลอด ก็ยอมรับว่าติดใจร่างนุ่มนิ่มของเมีย...
...แต่ทุกคนอย่าคิดว่าผมจะเป็นคนดีขนาดนั้นที่แต่งงานแล้วจะมียายจันทร์เจ้าคนเดียว ผมก็ยังเป็นผมอยู่วันยังค่ำ มีผู้หญิงเข้ามาวนเวียนไม่ขาดสายแต่ก็ไม่เคยซื้ออะไรประเคนให้หรอกครับ ก็แค่แจกทิปเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าทำให้ผมพอใจแล้วก็แยกกันไป จะเรียกว่าน้ำแตกแล้วแยกทางก็ได้ อารมณ์มันก็จะประมาณนั้นแหละครับ แต่ผมก็ไม่เคยพาใครเข้ามาที่ห้องที่ผมอยู่ตอนนี้น่ะ จะมีก็แต่จันทร์เจ้าคนเดียวที่ได้อภิสิทธิ์พิเศษเข้ามาอยู่ในคอนโดของผม
แอ๊ด~ เสียงเปิดประตูห้องน้ำโดยจันทร์เจ้า
จิ๊ วันนี้อารมณ์เสียจริง ๆ เลย แล้วฉันจะใส่เสื้อตัวไหนไปทำงานละเนี่ยรอยเต็มตัวขนาดนี้ ที่ห้องก็ไม่มีเสื้อคอเต่าด้วยสิเพราะฉันไม่ชอบใส่
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“ไม่ให้ทำหน้าแบบนี้ จะให้ฉันทำหน้าภูมิใจที่มีรอยเต็มตัวหรือไง”
“หึ ยอกย้อนเก่ง มีเสื้อคอเต่าสีดำอยู่ในตู้เสื้อผ้าหลังสุดไปหยิบมาใส่สิ” ฉันหันไปหารามสูรที่นั่งดูทีวีอยู่ที่เตียงอย่างเคืองๆ ทำมาเป็นพูดมีเสื้อคอเต่าอยู่ในตู้ เหอะ มันก็ต้องเป็นแบบนั้นแล้วป่ะ ถ้าปล่อยให้คนอื่นเห็นคงคิดว่าฉันเป็นโรคกันพอดี
“เดี๋ยวเย็นนี้ไปรับที่บริษัท พาไปซื้อให้สักโหลนึง”
“ไปรับให้คนอื่นรู้หรือไง ว่าเป็นผัวเมียกันอะหะ!”
“จิ๊ เรื่องมากจริง ๆ เลยว่ะเจ้า”
รามสูรทำสีหน้าขึงขังใส่ฉันก่อนจะเดินลงจากเตียงแล้วเดินกระทืบเท้าเข้าห้องน้ำตามด้วยปิดประตูเสียงดัง...
ปัง!!!!
ดูมันเอาเถอะ มันลืมหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นคนพูดไม่ให้ฉันบอกใครว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน จนมันลำบากกับฉันไปหมดเวลากรอกเอกสารอะไรลงไป
ไม่รู้เป็นตรรกะอะไรของมันตอนแต่งก็เป็นคนไปบอกแม่ฉันพอจดทะเบียนสมรสเสร็จก็มาบอกฉันว่าห้ามให้ใครรู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับมัน จนทุกวันนี้ฉันก็ยังลำบากกับเรื่องเอกสารหรือทุกอย่างที่เกี่ยวกับมันเหมือนเดิมโดยที่มันไม่ได้รับรู้อะไรเลย คิดแล้วเจ็บใจ ส่วนเรื่องที่ว่าแล้วทำไมไม่หย่ากันให้จบ ๆ หึ ฉันเคยขอมันหย่าแล้ว แต่มันไม่ยอมไงมันบอกว่าขอเวลา1ปีหลัง1ปีค่อยหย่ากัน แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าตรรกะอะไรของมันอีกเช่นเคยที่ต้องรอให้ถึง1ปีก่อน....
ประสาทแดกจริง ๆ