บทที่ 5 ลองใจ
ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที รถยุโรปคันหรูก็ขับเข้ามาจอดที่จอดรถประจำใต้คอนโดมิเนียมหรู อีริคกระชับเสื้อสูทแล้วก้าวลงจากรถ เขาสะบัดข้อมือเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพาเวลจะตามขึ้นไป
"ไม่ต้องตาม"
พาเวลหยุดชะงักทันที เขาก้มหน้าเล็กน้อยรับคำสั่งแล้วถอยกลับไปรออยู่ข้างรถ ปล่อยให้อีริคขึ้นไปข้างบนเพียงคนเดียว
"สวัสดีครับนาย" ลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องรีบลุกขึ้นทำความเคารพอีริค
"อืม ออกไปได้" เขาสั่งลูกน้องให้ออกไปจากตรงนี้ จากนั้นก็ใช้คีย์การ์ดใบพิเศษที่เขามีเปิดประตูเข้าไปข้างในห้อง
ภายในห้องเงียบงัน มีสายลมเย็นพัดเข้ามาทางประตูตรงทางเชื่อมต่อกับระเบียง ผ้าม่านพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดเข้ามา จังหวะที่ผ้าม่านพลิ้วไหวเขาเห็นร่างเล็กยืนอยู่ บนร่างกายมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใช้ปกปิดร่างกาย และกางเกงยีนขาสั้นตัวน้อยที่พาเวลไปคนไปซื้อมา
อีริคถอดสูทไปพาดไว้หัวเตียง ตามด้วยคลายปมเนคไท มือหนาล้วงหยิบบุหรี่มาจุดสูบ ครั้นสายตาเขาจ้องไปที่ร่างเล็ก ซึ่งเธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ในห้อง
"อ๊ะ!" คนโปรดอุทานออกมาด้วยความตกใจ ที่เห็นอีริคนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียงนอน "คะ คุณอีริคมาเมื่อไหร่คะ"
"..." ควันบุหรี่พวยพุ่งออกจากปาก เขาเงยหน้ามองคนถามเพียงนิด
"โปรด...โปรดรู้สึกไม่สบายค่ะ"
"หึ!" จากที่นั่งเงียบเกือบหนึ่งนาที เขาก็แค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน "คิดว่าฉันไม่ทันเกมเธอเหรอ แค่ลูกไม้ตื้น ๆ" สายตาดุดันจ้องคนโปรด "เธอคงไม่ทันคิดสินะ ว่าถ้าเกิดฉันจับโกหกเธอได้ ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง"
ก็นับว่าได้ผล ที่อีริคยอมมาถึงที่นี่ด้วยเหตุที่ว่าเธอไม่สบาย หญิงสาวเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม จากนั้นเธอก็นั่งลงบนหน้าตักเขา อีริคแสยะยิ้มมุมปาก มองความกล้าของคนโปรดด้วยแววตากะลิ้มกะเหลี่ย
"โดนกระแทกแค่คืนเดียวทำให้เธอขวัญกล้ามาต่อกรกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ" เพียงไม่กี่วันคงไม่มีอะไรมาทำให้เธอขวัญกล้าขึ้น นอกเสียจากเธอมีแผนเอาตัวเข้าแลกเพื่อไม่ให้เขาส่งตัวกลับไปหาไอ้ธวัตร
อีริคดีดก้นบุหรี่ ยกขึ้นมาสูบแล้วพ่นควันสีขาวกลิ่นฉุนใส่หน้าคนโปรด หญิงสาวสำลักควันจนหน้าแดง และน้ำตาไหล
"โปรดแค่คิดถึงคุณอีริค"
"ไอ้ธวัตรมันคงสอนมาดี ถึงได้ตอแหลเก่งขนาดนี้" ขณะที่พูด ฝ่ามือหนาก็สอดเข้าไปในชายเสื้อ ลูบไล้แผ่นหลังบอบบางเบา ๆ "ปกติผู้หญิงที่ฉันเอา พวกมันมักจะดิ้นหนีตายและหวาดกลัวฉัน แต่เธอ..." ฝ่ามือหนาเริ่มลูบไล้ขึ้นมาถึงท้ายทอยคนโปรด
"อ๊ะ!"
"แต่เธอกลับเหมือนแมงเม่า ที่ชอบท้าทายเปลวไฟกำลังลุกโชน แต่ระวังปีกของเธอไว้ให้ดี ๆ ระวังจะถูกไฟแผดเผาจนตัวเองตกลงในกองไฟล่ะ"
เธอทำได้เพียงยิ้มบาง ๆ รับคำพูดเหน็บแนมนั้นอย่างเต็มใจ เพราะไม่ว่าจะแย้งเขายังไง ผลลัพธ์ก็เท่าเดิมอยู่ดี สู้ดีเธอทนฟังคำพูดถากถางหน่อย ยั่วเย้าน้อย ๆ เอาอกเอาใจเขาแต่ชีวิตดีขึ้น แบบนั้นไม่ดีกับตัวเธอกว่าเหรอ
คนโปรดมองใบหน้าคมเข้ม ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ทว่าอีริคกลับเบือนหน้าหนีพร้อมกับผลักหญิงสาวลงจากหน้าตัก
"ไม่อยากจูบกับโปรดเหรอคะ"
"ฉันไม่ชอบจูบกับใคร"
คำพูดหนึ่งของแม่บ้านผุดขึ้น 'นายท่านไม่ชอบสกปรก' เขาคงรังเกียจเธอมากสินะ
"โปรดจะไม่ทำค่ะ" เธอค่อย ๆ เขยิบเข้าไปหาอีริคอีกครั้ง กลิ่นน้ำหอมฝรั่งเศสแบบฉบับผู้ดีเคล้ากับกลิ่นกายหอม ๆ เมื่อยามที่เขาขยับตัว "โปรดสัญญาว่าจะไม่ดื้อ จะเป็นเด็กดีของคุณอีริคคนเดียวค่ะ" เธอซบใบหน้าลงกับหลังมือหนาของชายหนุ่มที่กุมไว้แน่น
อีริคยกยิ้มและมองท่าทางออดอ้อนของหญิงสาว ก่อนจะเชยคางมนขึ้น
"เธอควรรู้จุดยืนตัวเองนะคนโปรด"
"โปรดรู้ค่ะ โปรดจะซื่อสัตย์กับคุณอีริค จะเป็นเด็กดีของคุณอีริคค่ะ"
"หึ!"
"โปรดจะตอบแทนคุณอีริคด้วย...ร่างกาย และจะอยู่ใต้อาณัติคุณอีริคเพียงคนเดียวและตลอดไปค่ะ"
"ฉันชอบเธอนะ เรียนรู้ที่จะมีชีวิตรอดด้วยการประจบประแจงฉัน"
นัยน์ตาสีดำเบิกกว้างกับประโยคที่อีริคเพิ่งเอ่ยออกมา ความหวาดกลัวไม่อาจซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าหวานได้มิด
ฝ่ามือหนาเชยคางมนขึ้น พาความกลัวเข้ามาครอบงำคนโปรดในตอนที่มองสบตากับชายหนุ่มตรง ๆ ความกลัวที่ไม่อาจซ่อนไว้ทำให้อีริครับรู้ได้ถึงแรงสั่นเทาของร่างกายหญิงสาว
"แต่เอาเถอะ...ฉันจะรับเอาไว้" ปลายนิ้วเรียวยาวลากไล้เรือนแก้มนวลของหญิงสาว เธอสะดุดลมหายใจตัวเองเล็กน้อยเมื่อเผลอเงยหน้าสบตากับอีริค "ใจกล้า ไม่กลัวตาย...แต่มันคือสัญชาตญาณของคนกลัวตาย" เอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสายตาผู้ล่า หวังให้ผู้ล่าเห็นใจ นั่นคือการเอาตัวรอดของคนขี้ขลาด
"อ๊ะ!" ปลายคางถูกบีบแน่น
"หึ ฉันไม่ใช่คนดี ฉันไม่ใช่พ่อพระอย่างที่เธอคิดหรอกนะคนโปรด อย่าหลงระเริงกับความคิดตัวเอง เธอโกหกตัวเองได้ไม่นานหรอก"
เธอพยายามหลอกตัวเองว่าอีริคเป็นคนดีคนหนึ่ง แม้ว่าตัวตนที่แท้จริงเขาคือมัจจุราชที่คอยจะพรากชีวิตเธอได้ทุกเมื่อก็ตาม
อีริคหยิบปืนออกมาสองกระบอก เขาถอดซองกระสุนออกมาจากตัวปืน จากนั้นก็เอากระสุนออกจนหมด "หลับตา" เขาสั่งเธอเสียงเรียบ พอคนโปรดหลับตาแล้วจึงนำกระสุนปืนใส่ลงในซองกระสุนอันหนึ่ง "ลืมตา แล้วเลือกมาหนึ่งอัน"
"..."! หญิงสาวมองซองกระสุนสองอันที่วางเคียงกันอยู่
"หนึ่งในนั้นมีกระสุนอยู่หนึ่งนัด ถ้าเลือกถูกอันไม่มีกระสุน...เธอก็รอด แต่ถ้าเลือกถูกอันที่มีกระสุน ปิ๊ว~" เขาทำท่ายิงเข้าขมับคนโปรดแล้วหัวเราะเสียงแข็งราวกับเป็นเรื่องน่าสนุก
"..." คนโปรดกัดปากแน่น มองซองกระสุนปืนทั้งสองอันไปมาด้วยความลังเลใจและหวาดกลัว ขณะเดียวกันอีริคก็ทำเสียงเขย่าประสาทเธอไม่หยุด "ปะ โปรดเลือกอันนี้"
"ได้" อีริคหยิบซองกระสุนปืนอันที่คนโปรดเลือกขึ้นมาใส่ปืน แล้วขึ้นลำกล้องเล็งไปยังขมับของหญิงสาว คนโปรดหลับตาแน่น ทั้งตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวอย่างไม่ปิดบัง แต่เขากลับหันด้ามปืนให้เธอ "ขอให้เธอโชคดี" คำอวยพรที่เธอไม่อยากรับเลยสักนิด
สายตากดดันจ้องเข้ามาในนัยน์ตาของคนโปรด ราวกับต้องมนต์สะกดให้รับปืนกระบอกนั้นมาถือไว้ แล้วจ่อกับขมับตัวเอง
"ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม หากโชคดีเธอก็ได้ไปต่อ แต่ถ้าโชคร้าย...เอาเป็นว่าฉันจะจัดงานศพให้แล้วกัน" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าคมคาย เขาดูมีความสุขเกินมนุษย์ที่ได้เอาชีวิตคนคนหนึ่งมาล้อเล่นกับความตายแบบนี้ อีริคเริ่มนับหนึ่งช้า ๆ ในขณะที่ลมหายใจคนโปรดผะแผ่วตามเสียงทุ้มต่ำของเขา
พอเขานับถึงสอง คนโปรดก็ลั่นไกปืนทันที
"หึหึ" คนใจร้ายหัวเราะขบขัน รอยยิ้มเขย่าประสาทนั่นทำเอาร่างกายเธอสั่นเทิ้มไปหมด "โชคยังเข้าข้างเธอนะเนี่ย ปืนไม่มีกระสุน" อีริคแย่งปืนมาจากมือคนโปรด จากนั้นก็หยิบอีกกระบอกขึ้นมาขึ้นลำกล้อง
ลากไล้ปลายกระบอกปืนจากร่องอกอวบอิ่มลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งปลายกระบอกปืนหยุดอยู่ตรงเป้ากางเกงยีนขาสั้น
"ถอดเสื้อผ้าออก"
"..." คนตัวเล็กเริ่มถอดเสื้อผ้าออกอย่างอ้อยอิ่ง สถานการณ์เริ่มตึงเครียดเมื่ออีริคกดปลายกระบอกปืนลงกับเนินอกเธอ จ้องมองยอดถันสีน้ำตาลอ่อนซึ่งยังมีรอยช้ำจาง ๆ อยู่บนนั้น "จะ จริง ๆ แล้วปืนไม่มีกระสุนทั้งสองกระบอกใช่ไหมคะ"
"หึหึ" อีริคหัวเราะในลำคอ จากนั้นจึงเล็งปืนไปที่พื้น ก่อนจะลั่นไกไปหนึ่งนัด
ปัง!
"กรี๊ด!!" คนโปรดกรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจสุดขีด หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นระรัวแทบหลุดออกมาเต้นนอกเบ้า เธอมองพื้นห้องที่เป็นรูพรุนด้วยความกลัว
"เกิดอะไรขึ้นครับนาย" เสียงปืนดังเล็ดลอดออกมาข้างนอก ทำให้พาเวลที่แอบตามเจ้านายขึ้นมา บุ่มบ่ามเปิดประตูเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นว่าคนโปรดเปลือยกายอยู่บนเตียงเขาจึงก้มหน้า
"..." อีริคหันมามองลูกน้องแล้วยกยิ้ม จ้องพาเวลไปและเริ่มปลดเข็มขัดหนังออกจากเอว "จะยืนดูกูเอาจนเสร็จเลยไหม หรือสนใจอยากรับช่วงต่อ"
"ขออภัยครับนาย" เขารีบออกไปจากห้องพักและปิดประตูให้เรียบร้อย
อีริคดึงสายตากลับมามองคนโปรด เธอยังหอบหายใจระรัวด้วยความตกใจจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง
"จำเอาไว้ว่าอย่าคิดแทนคนอื่น ฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้น" พูดจบอีริคก็ก้าวขึ้นไปคร่อมร่างเล็ก แล้วโน้มตัวลงไปซุกไซ้ลำคอระหง "เด็กดีต้องได้รางวัลสินะ"
"..."!