5
Chapter 5
“อายเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กปากดีที่คิดจะขายตัวจะอายม้วนแบบนี้ แถมยังทำอะไรไม่เป็นเลย ถ้าไปขายจริงจะได้ไหมสักร้อย”
เหมือนเป็นการเยาะเย้ยหรืออะไรไม่ทราบได้ พิมพ์ดาวคอแข็งเมื่อโดนสบประมาท เขาจับคางเธอเอาไว้แน่น มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยมีเสน่ห์นั้น จ้องเธอนิ่งอยู่แบบนั้นไม่ยอมละห่าง
“ก็หนูไม่เคยนี่คะ ใครจะไปโชกโชนเหมือนอาเพลิงกันเล่า แต่ถ้าต่อไปหนูทำเป็น หนูจะทำให้อาเพลิงครางใต้ร่างหนูให้ขาดใจเลยเชียว” เธอประชดเหมือนเด็กอยากเอาชนะ เธอเอาการกระทำของเขาที่ทำกับเธอมาพูดใส่หน้า
เพลิงตะวันหัวเราะเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีเรื่องมีราวจนต้องย้ายจากห้องรับแขกมายังห้องนอนกว้างเช่นนี้
“ไม่เชื่อหนูเหรอ หนูต้องทำให้ได้” พิมพ์ดาวก็เหมือนเด็กยังไม่โต เธอไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ ไม่รู้จักว่าสิ่งไหนควรพูดไม่ควรพูด ถ้าใครขัดใจก็จ้องอยากจะเอาชนะท่าเดียว
“รู้หรือว่าการทำให้อาครางใต้ร่าง เค้าทำกันยังไง”
พอโดนถามเข้าก็อึกอักตอบไม่ได้ เธอเรียนรู้และซึมซับในสิ่งที่เขาทำ
..แล้วถ้าเธอทำบ้างล่ะจะเป็นยังไงนะ
พิมพ์ดาวส่ายหน้าไปมาจนผมกระจาย
“อาจะสอนให้ เด็กน้อยของอา”
“อ๊า... อาเพลิง” พิมพ์ดาวมัวแต่งุนงง ก่อนจะอ้าปากร้องครางเมื่อเขาเริ่มขยับ ความรู้สึกของชิ้นเนื้อที่แนบชิดกันอยู่และเธอก็ตอดรัดเขาอย่างอัตโนมัติ ก่อเกิดความเสียวซ่านชวนหัวหมุน เหมือนลูกข่างหมุนติ้วๆ อย่างไร้ทิศทาง
“ยกสะโพกขึ้นมาพิมพ์ดาว อาจะสอนให้เธอได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ความสัมพันธ์ที่เธอไม่เคยรู้จัก แต่ประกาศปาวๆ อย่างอวดดีว่าจะทำมันกับผู้ชายคนอื่น”
น้ำเสียงไม่ได้กระด้างติดจะอ่อนโยนด้วยซ้ำ แต่เธอรู้ว่าเขากำลังสั่งและที่น่าอายคือเธอทำตาม
พิมพ์ดาวถึงกับอ้าปากหอบค้างเมื่อรับรู้ถึงตัวตนที่ฝังเข้ามาอย่างเหนียวแน่น ตอกตรึงให้เธอหนีเขาไปไหนไม่ได้ คอยรองรับการสอดประสานที่เร่าร้อนอยู่แบบนั้น
“อาเพลิง... อื้อ” พิมพ์ดาวได้แต่ครางเรียกชื่ออาหนุ่ม รอบกายดูพลิกคว่ำพลิกหงายไปหมด ความรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองจู่โจมเข้ามาอย่างหนัก เตียงกว้างไหวยวบตามแรงสะโพกสอบที่โจนจ้วงลงมา สมองของเธอขาวโพลนเมื่อรับรู้ถึงความเสียวซ่านอบอุ่นเอ่อท้นเข้ามาจนปริ่มกาย
สาวน้อยหวีดร้องแทบขาดใจ เธอโอบรัดเขาทุกทิศทาง รับรู้ถึงความสุขที่ได้รับจากเรือนกายแกร่ง ทุกอย่างพร่างพรายไปทั่วกระแสเลือด มันไหลวนรุนแรงแทบทะลุออกมานอกร่าง แล้วดำดิ่งลงสู่ความอบอุ่นอันแสนเร่าร้อน
“อาเพลิง... ขา...” พิมพ์ดาวเอาแต่เรียกชื่อของเขาซ้ำๆ อยู่แบบนั้น
ในขณะที่เพลิงตะวันยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง เขายังขยับกายอยู่ในเรือนร่างสาวน้อยแสนหวาน เธอทำให้เขาตื่นเพริดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความเป็นหนุ่มในวัยสามสิบหก ทำให้เขาผ่านร้อนผ่าวหนาวและประสบการณ์หวามลึกมาอย่างล้นพ้น
เรือนกายสาวสดที่นอนระทดระทวยทอดกายอยู่ใต้ร่าง เป็นเสน่หาอันน่าติดตรึงตราในหัวใจ ยากยิ่งนักที่เขาจะปล่อยเธอไปได้ง่ายๆ ในเมื่อความอิ่มเอมในรสรักมันถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนเขาอยากจะเสพสมร่วมรักกับเธอข้ามวันข้ามคืนไม่ย่างกรายออกไปจากห้องเลยด้วยซ้ำ
ความต้องการมากมายที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนฉุดรั้งให้เขากักกอดร่างน้อยอยู่ในอ้อมแขนไม่ยอมคลาย
กลิ่นกรุ่นของเพศรักและหยาดหยดกามาคละคลุ้งผสมกลิ่นกายสาวจรุงไปทั่วห้อง อบอวลไปด้วยหยาดเหงื่อที่ยังไหลโซมโชกชุ่มจนแห้งเหือดไปกับที่นอนกว้าง
เพลิงตะวันนอนมองสาวน้อยในอ้อมแขนที่หลับใหลไปด้วยความอ่อนแรง สายตาอ่อนโยนถ่ายทอดความรู้สึกมากมาย ซึ่งบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก ไม่รู้ว่าอย่างไหนมากกว่ากัน ระหว่างความถูกต้อง ความผิดชอบชั่วดีและความใคร่เสน่หา ทุกสิ่งดูตีวนกันยุ่งเหยิงจนเขาไม่อยากคิด
..ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ควรจะจบลงแบบนี้เลยสักนิด
แม้เพลิงตะวันจะรู้ดีว่าเป็นเพราะอารมณ์โกรธล้วนๆ แต่มันก็มีอารมณ์อย่างอื่นซุกซ่อนอยู่ในนั้นด้วย มันรอวันปะทุมานานมากแล้ว รอแค่เพียงโอกาสเหมาะๆ เท่านั้น
คราแรกเขาคิดเพียงต้องการอุปการะเธอเอาไว้ เพราะนับถือบิดาของเธอเสมือนเพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพ ประดุจดั่งพี่ชายคนหนึ่ง มารดาของเธอคือเพื่อนรุ่นพี่ที่เขารักและเคารพ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักความรักและความเจ็บปวดจากความรัก
เขาจึงมอบฐานะหลานสาวให้เธอเท่านั้น แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรอย่างไม่น่าเชื่อ มันรวดเร็วมากจนเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน สถานะเหล่านั้นที่เขาคิดไว้คราแรกก็แปรเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันหวนคืนมาอีก
เหมือนกับหัวใจของเขาที่เก็บงำเอาไว้นานแล้ว มันปะทุออกมาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีวันเหมือนเดิมเช่นกัน...
เพลิงตะวันคิดว่าจะส่งเสียคนในอ้อมแขนเรียนให้จบ เธอจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น เลี้ยงดูตัวเองได้ แล้วเหตุไฉนกันเล่า เด็กสาววัยสิบแปดที่เพิ่งจบมัธยมศึกษาปีที่หก กลับต้องมาตกเป็นเมียของเขาอย่างไม่ตั้งใจแบบนี้
เขาถอนใจหนักหน่วง สีหน้ายุ่งยากใจ ความรู้สึกของเขาว้าวุ่นและแปลกแยก
..เธอเด็กเกินไป อายุห่างจากเขามากนัก ถ้าพูดให้ถูก เธอเป็นลูกสาวของเขาได้เลย ถ้าเขาแก่แดดมีเมียตั้งแต่อายุสิบหก ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งท้องได้เพราะกำลังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์
ความคิดทุกอย่างของเพลิงตะวันมาหยุดที่คำว่า ‘รับผิดชอบ’
ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว สิ่งที่เขาทำได้คือความรับผิดชอบ รับเธอเป็นภรรยา นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง แม้เขาไม่เคยคิดใฝ่ฝันถึงชีวิตครอบครัวอันแสนสุข มีภรรยาและลูกน้อย เพราะชีวิตครอบครัวแตกแยกตั้งแต่เด็ก สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยตนเอง แต่การรับผิดชอบเธอคือสิ่งที่ลูกผู้ชายพึงกระทำ
จะบอกว่าบทเสน่หาที่เกิดขึ้นเนื่องด้วยความโกรธก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก ในเมื่อเขาตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะยัดเยียดความเป็นสามีให้เธอในช่วงตอนหลังๆ แถมยังละโมบกอบโกยความสุขจากเรือนร่างของเธอเสียทุกท่วงท่าลีลารัก
เพลิงตะวันเข้าข้างตัวเองว่านั่นเป็นเพราะเขาเป็นผู้ชายที่มีเลือดเนื้อและความต้องการ สิ่งที่เขาได้กระทำคือสัญชาตญาณของเพศผู้ที่หลงเข้ามาสู่วังวนแห่งความปรารถนาที่ยากจะหักห้ามได้อีก
ความคิดมากมายของเพลิงตะวันหยุดลงเมื่อร่างน้อยที่หลับใหลไปนานแสนนานค่อยๆ ปรือตาขึ้น ตื่นจากนิทรารมย์ที่เขารู้ดีว่าเพราะความเหนื่อยล้าและสุขสม
พิมพ์ดาวลืมตาเต็มที่ เธอชะงักเมื่อเขาตื่นก่อนแล้ว ทั้งสองมองสบตากันนิ่งอยู่แบบนั้น เป็นนานก่อนที่สาวน้อยจะขยับตัวถอยห่าง เธอดึงผ้าห่มซึ่งก็เป็นผืนเดียวกับเขาขึ้นมาปิดเรือนร่างเอาไว้จนถึงอก ก่อนจะเม้มปากแน่นเหมือนกำลังใช้ความคิด
เพลิงตะวันเองก็นิ่งเงียบ เขาเหลือบสายตามองเธอเป็นระยะ เมื่อเห็นเธอไม่พูดจึงทำท่าจะพูดทำลายความเงียบที่ชวนอึดอัด แต่กลายเป็นพูดพร้อมกันเสียได้
“อาเพลิง/หนูดาว”
“หนูดาวพูดก่อนก็ได้” เขากล่าวอนุญาต อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กอวดดีที่พูดเรื่องจะขายตัวให้ผู้ชายจะแก้ปัญหาเช่นนี้อย่างไร ถ้าเธอจะให้เขารับผิดชอบ เขาก็ยินดี เพราะตั้งใจไว้อยู่แล้ว หลังจากผ่านเหตุการณ์เร่าร้อน ทำให้ต้องคิดทบทวนความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเสียใหม่
“อาเพลิงซื้อหนูแล้ว ราคาเท่าไหร่คะ ถ้าหนูจะตั้งราคาเองได้ไหม ขอเป็นเงินสดเข้าธนาคารทันที หนูจะเก็บเงินเอาไว้ไถ่บ้าน ไถ่ที่คืนมาเป็นของหนู”
... แต่เมื่อได้ยินประโยคเด็ดเดี่ยวไร้เยื่อไยของเธอ ความรู้สึกของเขามันกลับตึงขึงเครียดจนกรามขบเข้าหากันแน่น