4
Chapter 4
..ทำไมความรู้สึกเหมือนแทบจะขาดใจ แต่สุขสมเช่นนี้
เด็กสาวได้แต่ถามตัวเองอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
ร่างสูงแข็งแกร่งที่แนบชิดลงมาอีกครั้งทำให้พิมพ์ดาวตัวสั่นสะท้าน
..ทำไมนะ ความรู้สึกอยากต่อต้านมันเหือดหายไปเสียสิ้น ทั้งๆ ที่เธอควรผลักไสเขาสักนิดก็ยังดี
แต่สิ่งที่ทำได้คือบีบมือของเขาที่ประสานลงมาทั้งสองข้างจนแน่น
“อาจะซื้อมันเอง ซื้อทุกอย่างที่เป็นของเธอ... พิมพ์ดาว”
น้ำเสียงของเพลิงตะวันดูหวงแหนแปลกๆ แต่พิมพ์ดาวไม่มีเวลาคิดอะไรมากมายนัก ในเมื่อตอนนี้เขาจุมพิตลงมาอีกครั้งและมันก็กระชากเอาความผิดชอบชั่วดีของเธอไปจนหมดสิ้น เธอแค่พูดด้วยความโมโหที่เขาทำท่าเหมือนจะไม่รับเธอเข้ามาอยู่ในบ้าน เด็กสาวคิดเอาว่าเขาคงรังเกียจเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรเช่นเธอ
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ เด็กน้อย...” เขาดูเป็นกังวลเล็กน้อยในน้ำเสียงและแววตา
“อ๊ะ!” เพราะมัวแต่มองเขาเพลิน รู้ตัวอีกทีเขาก็กดกายลงมาหาเสียแล้ว เธอรู้สึกถึงความอึดอัดคับแน่นและเจ็บแปลบตรงร่องรัก มันใหญ่โตชวนอึดอัดมากกว่านิ้วที่เขาสอดแทรกเข้ามาเหมือนคราแรกและมันทำให้เธอทรมานจนต้องถอยสะโพกหนี
“รู้ไหมว่าถ้าหนูดาวขายตัวให้ผู้ชายคนอื่น เขาก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน หรือ... อาจจะเจ็บกว่านี้ เขาคงไม่มานั่งทะนุถนอมและสนใจว่าจะเคยหรือไม่เคยผ่านผู้ชายมาก่อน” เพลิงตะวันบอกเสียงแหบพร่า รุกไล่ตามติดเธอจนศีรษะเล็กเบียดชิดกับหัวเตียง หนีไปไหนไม่ได้อีก เขารั้งเอวคอดของเธอเอาไว้ จับยึดเอาไว้เหนียวแน่น
เธอได้แต่นอนหอบกระเส่าอยู่ใต้ร่างเขา
“อาเพลิงใจร้าย...” เธอสะอื้นไห้ ขัดใจที่หนีเขาไปไม่ได้
เพลิงตะวันก้มลงดูดดุนกลีบปากน้อยเพื่อปลอบประโลม เขาถอนกายออกห่าง ให้เธอคลายจากความอึดอัด เบี่ยงหน้าไปจู่โจมที่ปทุมถันอิ่มสวย เพื่อให้เด็กสาวผ่อนคลาย
“อื้อ...” แม้จะกล่าวว่าเขาใจร้าย แต่เมื่อริมฝีปากร้อนซุกไซ้ดูดรวบที่ยอดอกแสนสวย เธอก็ทรมานอีกแล้ว แต่มันเป็นความรู้สึกทรมานอันแสนหวานและเสียวซ่านจนอยากให้เขาทำอยู่แบบนั้นไปตลอด เพิ่งรู้ว่าสัมผัสระหว่างชายหญิงให้ความรู้สึกล้ำลึกและเสียวซ่านขนาดนี้ เธอหัวหมุนกับการแนบชิด หัวใจเต้นรัวเร็วเหมือนจะขาดใจอยู่รอมร่อ ร่างกายร้อนผ่าวเสียจนรู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาว
“โอ้....” คราวนี้เป็นเพลิงตะวันที่ร้องครางเสียงดัง เขารู้สึกรวดร้าวไปทั้งลำกายเมื่อฝังแก่นชายเข้าในร่องรัก สาวน้อยของเขาแคบเล็กและตอดรัดเสียจนหายใจแทบไม่ออก ความรู้สึกหวามลึกอ่อนโยนที่มอบให้คนใต้ร่างเพิ่มอุณหภูมิความเร่าร้อนขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
“อาเพลิง กรุณาหนูเถิดค่ะ” เธอเว้าวอนเสียงสั่นสะอื้นน้อยๆ
แก้มแดง ปากแดงจิ้มลิ้มนั้นทำให้เพลิงตะวันคุร้อนอยากจะกระแทกเธอให้หนำใจ สอดแทรกล่วงล้ำให้เธอครวญครางอยู่ใต้ร่างเขาทั้งวันทั้งคืน
“กรุณาอะไร ปล่อยหนูดาวไปหรือทำต่อไปจนหนูดาวถึงสวรรค์ด้วยกันกับอา” คำถามแสนตรงของเขาเรียกเลือดที่พวงแก้มให้แดงเรื่อ พิมพ์ดาวไม่รู้ตัวเลยว่าเผยอริมฝีปากขึ้นอุทาน กลายเป็นเปิดทางให้เขาบดปากลงมาจุมพิต พร้อมๆ กับเรือนกายแกร่งที่สอดแทรกเข้ามาอีกครั้ง
“อ๊ะ! อาเพลิง” พิมพ์ดาวสะดุ้งจิกเล็บบนแผ่นหลังของเขาเต็มแรง
เพลิงตะวันสะดุ้งตาม เขาเจ็บไม่มาก แต่แสบเมื่อเล็บที่ไม่ยาวนักของเธอครูดไปตามหลัง และไม่นานคงเป็นรอยแดงนูนขึ้นมา
“ชู่... มันอาจจะทรมาน แต่ครั้งต่อไป มันจะไม่เจ็บอีก”
“งั้นหนูต้องขอบคุณอาเพลิงใช่ไหมคะ ที่อาเป็นผู้ชายคนแรกของหนู ต่อไปเวลานอนกับผู้ชายคนอื่น จะได้ไม่เจ็บอีก และ...ว้าย!!!” พิมพ์ดาวร้องเสียงหลงเมื่อเขากระชากแขนเธอเต็มแรง ดวงตาเขาวาวโรจน์ประดุจดั่งไฟบรรลัยกัลป์
เพลิงตะวันกระชากเธอขึ้นนั่งบนตักแล้วท่วงท่านี้ก็ทำให้เธอกระแทกกายโอบรัดเขาเต็มเหนี่ยว กายแกร่งสอดแทรกเข้ามาฝังกายในเรือนร่างสาวจนสุดเส้นทางรัก
“อ๊า….” ทั้งสองครางประสานพร้อมกันด้วยใบหน้าเหยเก เยื่อดอกรักบอบบางขาดสะบั้นลงโดยพลัน
“คิดอยากจะขายตัวอยู่อีกหรือไง กับอาคนเดียวไม่พอใช่ไหม” เพลิงตะวันเขย่าร่างเล็กจนหัวสั่นหัวคลอน ยิ่งทำให้เรือนกายที่สอดประสานกันอยู่เสียดสีโยกคลอนอย่างรุนแรง
พิมพ์ดาวหวีดร้องเสียงดัง ทั้งเจ็บ ทั้งเสียวกับการสอดประสานโยกกายในท่วงท่านี้ เธอจิกมือกับแขนล่ำของเขาแน่น น้ำตารินไหลด้วยความทรมานและรวดร้าว
“อาเพลิง หนูเจ็บ อาเพลิง ฮือๆๆ” สาวน้อยปล่อยโฮออกมาสุดกลั้น เพลิงตะวันที่โกรธจนหน้ามืดเมื่อได้ยินเธอบอกว่าจะไปขายตัวให้ผู้ชายคนอื่นชะงักงัน เขาเริ่มได้สติว่าทำรุนแรงเกินไป ไม่รู้ว่าความหึงหวงมันมาจากไหนของหัวใจ ทั้งๆ ที่ตลอดมา เขาทำตัวเป็นอาที่ดีของเธอ บอกตัวเองเสมอว่าไม่เคยคิดอะไรเกินเลย
... หรือเขาจะแค่หลอกตัวเองไปวันๆ
พิมพ์ดาวทำท่าจะดิ้นหนีจากตักของเขา แต่กลับกลายเป็นการโยกกายที่แสนเสียวซ่านทรมานแทน ทั้งยังเจ็บแปลบแทบทานทนไม่ไหว
“หยุด พิมพ์ดาว หยุดเดี๋ยวนี้” เพลิงตะวันกอดรัดร่างเล็กที่นั่งคร่อมทับบนหน้าขาของเขาเอาไว้แนบอก กดจูบลูบหลังลูบไหล่ปลุกปลอบอ่อนโยนอย่างสำนึกผิด... ว่าได้ทำรุนแรงกับสาวน้อยไปขนาดไหน และเธอคงขลาดกลัวกับบทรักระหว่างชายหญิงเป็นแน่แท้ หากเขาจะขาดสติอยู่แบบนี้
“ฮึกๆ ฮือๆๆ” เสียงร้องของคนในอ้อมแขนบีบหัวใจเพลิงตะวันเหมือนจนมอดไหม้ เขาแทบทานทนไม่ไหว ทั้งร่างกายที่ฝังหากันแน่นหนึบ ทั้งเสียงร่ำไห้จะขาดใจของคนตรงหน้า
“ไม่ร้องนะครับคนดีของอา หนูดาวไม่ร้องนะครับ อาขอโทษ อาไม่ได้ตั้งใจจะทำรุนแรงกับหนูดาวเลยสักนิดคนดี โอ๋ๆๆ” เพลิงตะวันโยกร่างเล็กไปมา คอยปลอบโยนจนสาวน้อยคลายสะอื้น มือหนาค่อยๆ ช้อนใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาขึ้นสบ เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เพลิงตะวันทรมานจนจะขาดใจตามเธอไปด้วย แค่เห็นคนในอ้อมแขนน้ำตาอาบแก้มนวลทั้งสองข้าง เขาก็อยากจะต่อยหน้าตัวเองให้คว่ำนัก
“อาจะไม่ทำรุนแรงอีก หยุดพูดเรื่องจะขายตัวให้ผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น บอกแล้วไงว่าถ้าจะขาย อาจะซื้อ” เขาพยายามข่มอารมณ์โกรธกริ้วเอาไว้จนมิด บอกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ค่อยๆ จูบซับน้ำตาให้จนแห้งเหือด
“อาจะซื้อตลอดชีวิตเหรอคะ” คำถามแสนซื่อนั้นทำให้เพลิงตะวันชะงัก เขาไม่รู้ตัวว่ากำลังโกรธในคำถามของเธอ หรือกำลังสับสนที่จะตอบคำถามของเธอมากกว่า จึงจบบทสนทนาเป็นการก้มลงจุมพิตกลีบปากสวยแทน
จุมพิตอ่อนโยนอ่อนหวานค่อยๆ ละเลียดดูดลิ้นเล็กๆ ของเธอสลับกับการคลุกเคล้าต้อนให้เธอโต้ตอบเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่สาวน้อยกำลังหลงมัวเมาอยู่ในรสจูบกำซาบซ่าน มือหนาทั้งสองจึงเลื่อนไปกอบกุมสะโพกผายแล้วเริ่มขยับ
“อ๊ะ!” พิมพ์ดาวร้องครางถอนปากหนี เธอเกาะกอดคอแกร่งของเขาเอาไว้แน่น รู้สึกถึงความเสียวซ่านที่เสียดแทงเข้ามาจนแทบจะขาดใจ
เพลิงตะวันค่อยๆ หย่อนร่างน้อยให้นอนหงายในท่าเดิม เขาดึงหมอนมารองใต้ศีรษะ เรือนกายที่ยังสอดประสานแนบชิดตามติดลงมาด้วย ในช่วงจังหวะนั้นพิมพ์ดาวได้เห็นความแกร่งกร้าวใหญ่โตของเขาที่สอดแทรกลงมา เธอหน้าแดงเห่อร้อน เบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกร้อนวาบและอับอาย
ชายหนุ่มจับขาเพรียวทั้งสองพาดกับแขนของเขา ก้มใบหน้าลงไปหาใบหน้าเล็กน่ารักที่ชวนหลงใหล ลมหายใจร้อนแรงที่เป่ารดลงมาทำให้สาวน้อยเบือนหน้ากลับมาหาและได้สบสายตาร้อนแรงทรงเสน่ห์ของเขา เธอยิ่งหน้าแดงจัด รับรู้ถึงชิ้นเนื้อแกร่งกร้าวที่ฝากฝังเอาไว้ในเรือนร่างของเธอไม่ยอมผละห่าง