ตอนที่ 3 อนุฉินอี้เหนียง
“คุณหนูเจ้าคะ วันนี้ท่านสวยจังเลย ท่านแต่งหน้าเอง งามยิ่งนักเจ้าค่ะ”
อาปิงชมลี่เซียนไม่หยุด นางไม่เคยเห็นการแต่งหน้าเช่นนี้มาก่อน นางไม่ได้แต่งเข้มอะไร แต่ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี ปากไม่ได้ทาสีแดง ทาสีชมพูอมส้ม แต่เหมือนมีการผสมมากกว่า 2 สี แก้มไม่แดง แต่กลับดูเป็นธรรมชาติเข้ากับสีผิวของคุณหนูของนางยิ่งนัก ตาของนางดูชัดมากขึ้นทั้งๆ ที่ปกติตานางก็สวยอยู่แล้ว คิ้วที่เขียนอย่างได้รูป นางไม่เคยเห็นมาก่อน
หลินลี่เซียนเดินออกมาพร้อมกับอาปิง เพื่อจะไปขึ้นรถม้าหน้าจวน กลับได้เจอคนที่ไม่คาดฝันว่าจะเจอเข้า
“ท่านแม่ ท่านแม่ นั่นมัน ลี่เซียนมิใช่หรือเจ้าคะ ไหนท่านว่าจะ จะอยู่ไม่ถึงคืนนี้ไง ทำไมนาง ดูปกติเลยล่ะ”
ลู่ชิงกระตุกแขนเสื้อมารดาอย่างแรง อีเหนียงเองก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอลี่เซียนตอนนี้ คิดว่านางจะไม่รอดถึงคืนนี้แล้ว
“ใจเย็นก่อน อย่าทำพิรุธ”
นางเดินเข้าไปหาลี่เซียน
“คุณหนูใหญ่ ทำไมวันนี้ออกมาเดินเล่นได้ล่ะ สุขภาพเจ้า ดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่”
นางแสร้งยิ้มอย่างเป็นมิตร
** ข้อมูล: ฉินอีเหนียง
** อนุฉินของท่านพ่อ ผู้ดูแลจวนและบัญชีรับ - จ่ายของจวนสกุลหลิน
** นิสัย หน้าไหว้หลังหลอก ตอแหลได้โล่เป็นสันดาน ขี้ระแวง
** ละโมบโลภมาก อยากได้สมบัติของตระกูลฉิน ส่งลูกสาวออกไปแต่งงานกับเศรษฐี
** ตอนนี้กำลังหาทางยกลูกสาวให้เป็นคู่หมั้นกับลูกเสนาบดีกรมคลัง
โอ้ เลิศ มี detail นิสัยของแต่ละคนให้อ่านด้วย นิสัยใช้ได้เลยนี่ นางปิศาจคนนี้สินะ ที่เธอบอกไว้ อีกคนล่ะ ขอสแกนหน่อยซิ
** ข้อมูล: หลินลู่ชิง
** ลูกสาวของอนุฉินกับท่านพ่อ นิสัยไม่ต่างกับแม่ของนาง
** ขี้อิจฉา แรงริษยามากระดับ A++ ไม่ชอบเห็นใครได้ดีกว่า
** อิจฉาความสวยของพี่สาวตัวเอง
** กีดกันไม่ให้พี่สาวเด่นกว่าตัวเองทุกทาง
** นิสัยชอบเอาชนะ อยากเป็นที่ 1 และอยากเป็นบุตรของภรรยาเอก แต่ท่านพ่อไม่ยอมแต่งตั้งอนุฉินขึ้นเป็นภรรยาเอกเสียที ตั้งแต่ฮูหยินลู่อินไป๋จากไป
หึ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ นิสัยพอๆ กันเลย กำลังเบื่อๆ เอาวะ ออกกำลังปากหน่อย แก้เซ็ง
“สบายดีเจ้าค่ะ “อนุ” ฉิน ไม่ต้องเป็นห่วง “ลูกภรรยาเอก” อย่างข้ามากหรอก ข้าน่ะ ไม่ตายง่ายๆ หรอก”
นางตั้งใจกระแทก คำว่า "อนุ" และ “บุตรภรรยาเอก” กับคำว่า “ไม่ตายง่ายๆ” ขึ้นมา แล้วก็จริง เอฟเฟคสุดยอดเลย คนโบราณนี่ซ่อนความรู้สึกไม่ค่อยเก่งเอาซะเลย แต่ความตอแหลกลับใช้กันเก่งกว่าคนยุคปัจจุบันเสียอีก นางตกใจเสียหลักเซไปเล็กน้อย
“เห็นคุณหนูใหญ่สบายดี ข้าก็สบายใจ”
อนุฉินพูด ตอนนี้หน้านางเริ่มซีด เหงื่อเริ่มออก
“งั้นหรือ ว่าแต่ ข้าเองก็มีธุระ ที่จะคุยกับท่านอยู่นะ แต่ตอนนี้ เอาไว้ก่อน ข้าอยากออกไปเดินเล่น ไว้ค่อยคุยกับท่าน ตอนกลับจวนก็แล้วกัน”
ลี่เซียนพูด พร้อมเดินไป ลู่ชิงไม่พอใจ เลยพูดขึ้นมา
“ไร้มารยาท กับผู้ใหญ่ พูดจาแบบนี้ ก็อย่างว่า ไม่มีแม่คอยสั่งสอนอบรมมารยาทนี่นะ ถึงได้เป็นแบบนี้”
ลู่ชิงพูดเหน็บอย่างเจ็บแสบ แต่นางไม่รู้ว่าเล่นผิดคนแล้วหนู
“เจ้าพูดถูก ข้าน่ะ เสียแม่ไปก่อน แม่เลยไม่ได้สอนอบรมข้า แต่ก็ใช่ว่าคนที่มีแม่ จะถูกสั่งสอนมาดีทุกคนนะ ถ้าแม่เลว สอนยังไง ลูกก็ไม่ดีขึ้นหรอก ก็คงจะเลวเหมือนแม่นั่นแหละ ออ แล้วก็นะ เรื่องมารยาทน่ะ ควรมีกับคนที่น่านับถือ ส่วนบางคนที่ทำตัวไม่น่านับถือ มองไปก็เหมือนเห็นขยะเปียก ที่เดินผ่าน จะใช้เท้าเขี่ยยังกลัวเหม็นติดเท้าเลย เจ้าว่ามั้ยล่ะ น้องรอง ออ อีกอย่างนะ เรื่องบางเรื่องน่ะ ถึงมีแม่ที่พยายามฝืนสอนดีแค่ไหน แต่ตัวเองไม่ได้เป็นแบบนั้น สอนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ไร้ประโยชน์ ไปนะ เสียเวลาเที่ยวข้าหมด”
ลี่เซียนเดินไป ลู่ชิงโกรธจนหน้าแดง นี่พี่ใหญ่กล้าต่อปากต่อคำกับนางขนาดนี้ได้อย่างไร นางไม่ยอม
“ท่านไม่อายคนข้างนอกแล้วหรือ ที่ถูกปฏิเสธการหมั้นครั้งก่อนน่ะ คนเค้านินทากันทั้งเมือง ยังกล้าออกไปเดินเล่นในเมืองอีกงั้นหรือ เป็นข้า ข้าคงไม่กล้าออกไปเสนอหน้าข้างนอกแล้ว อับอายจนแทบจะฆ่าตัวตายได้เลยล่ะ”
คราวนี่ลี่เซียนหยุด ลู่ชิงคิดว่านางคงสะอึกและเสียใจเป็นแน่ นางชนะแล้ว
“แล้วยังไงอ่ะ จะให้ข้านอนร้องไห้คร่ำครวญกับหมอนทุกวันๆ จนเฉาตายเหรอ ไม่หรอก เสียเวลาชีวิตมากเลย ข้างนอกมีอะไรเยอะแยะที่น่าชม อีกอย่าง โดนปฏิเสธแล้วยังไงอ่ะ ดีกว่าคนที่ ไม่มีใครต้องการ จนต้องเอาไปแห่ ยกให้คนโน้นที คนนี้ที ก็แล้วกัน ชีวิตแบบนั้นน่ะ ข้าไม่เลือกหรอกนะ มันไม่อิสระ ไปละนะ”
นางพูดพร้อมกับสบัดหน้าเดินออกไป อนุฉินโกรธจนบีบผ้าในมือสั่น ลู่ชิงเองก็กรี๊ดไล่หลังนาง
“ท่านแม่ นาง นางช่างปากดีเกินไปแล้ว นางไปกินอะไรมาถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนแบบนี้”
ลู่ชิงโกรธจนน้ำตาไหล นางเถียงไม่ชนะ และยังโดนฟาดกลับด้วยคำพูดที่ 2 แม่ลูกไม่อาจตอบโต้กลับได้เลย
“ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ลี่เซียน”
อนุฉินลำพึงเบาๆ และหันไปมองด้วยสายตาอาฆาตตามร่างเล็กนั่นออกไป
ตลาดเมืองหลวง
ว๊าวว นี่มันดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ซะอีก ละลานตาไปหมดเลย นางเดินไปเรื่อยๆ ตื่นตาตื่นใจกับทุกสิ่งที่เห็น เคยเห็นแต่ในซีรี่ย์ แต่ของจริงคือดีกว่าเยอะเลย ยังดีที่หลุดมายุคนี้ ไม่ใช่ยุคที่ผู้ชายถักเปียใส่หมวก มายุคนี้ ถือว่าผู้ชายยังงานดีอยู่ ยุคเหมือนในซีรี่ย์ ปรมาจารย์ โอเค๊ รับได้
“ข้าอยากกินไอ้นั่นอ่ะ ลูกพุทราแดงๆ นั่น อาปิงๆ ไปซื้อให้หน่อย”
นางหมายถึงถังหูลู่ ผลไม้เชื่อมเคลือบน้ำตาล ที่เห็นในซีรี่ย์บ่อยๆ อาปิงเดินไปซื้อมาให้คุณหนู และยื่นให้ ลี่เซียนรีบรับมาแล้วกัดลูกแรกทันที
“ว๊ายย เปรี้ยวดีเนอะ อ่ะ เจ้ากินด้วยกันสิ”
มันเปรี้ยว และแข็ง แต่ก็อร่อยดี อาปิงรับมาอย่างเงอะๆ งะๆ
“กินสิ กินไม้เดียวกันนี่แหละ เจ้าถือเหรอ หรือเจ้ารังเกียจข้า”
“เปล่าเจ้าค่ะคุณหนู แต่การทำแบบนี้มัน ไม่เหมาะเจ้าค่ะ กินแบบเดียวกับเจ้านาย…”
“เจ้านี่พูดไม่ฟังเลยเนอะ ไหนล่ะพี่น้อง แค่นี้ก็ปฏิเสธข้าแล้ว กินเถอะน่า”
นางบอก อาปิงยิ้มและพยักหน้า และกินถังหูลู่ที่เหลือทันที
“ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง ร้านของตกแต่ง เครื่องประดับสตรี อยู่ไหนเหรอ เราจะไปทีละร้าน”
นางบอก อาปิงเลยพานางเข้าไปเลือกทีละร้าน นางสั่งซื้อเสื้อผ้าจำนวนมาก อาปิงคอยจ่ายเงิน และแจ้งที่ส่งของไปที่จวนเสนาบดีหลิน ลี่เซียนเลือกชุดใหม่ พร้อมกับเครื่องประดับและเครื่องประทินโฉมให้นางด้วย
“คุณหนูเจ้าคะ แบบนี้ไม่เหมาะเจ้าค่ะ บ่าวรับไว้ไม่ได้เจ้าค่ะ”
อาปิงรู้สึกว่านี่มันมากเกินไปที่นางได้รับ การตีตนเสมอนายถือว่าเป็นเรื่องไม่สมควร
“อาปิง บอกหน่อยว่าเจ้าใส่ชุดนี้มากี่ปีแล้ว แล้วชุดนี้ แทบจะไม่มีที่ให้ปะรอยขาดแล้วนะ เจ้าเป็นคนของข้า ถ้าเจ้าแต่งตัวไม่ดี คนจะมองว่าข้าเป็นเช่นไร ตรรกะแค่นี้เอง เจ้าอย่าคิดมาก เจ้าดูดี คนก็ชมข้าไง ว่าดูแลคนใช้ดี ถูกหรือไม่”
ลี่เซียนยกเหตุผลร้อยแปดมาบอกนาง จนอาปิงคิดตาม และยอมให้นางซื้อของต่อไป
“ไปทางโน้นกันดีกว่า ข้ายังไม่ได้ซื้อผ้าม่านกับผ้าปูที่นอนใหม่เลย”
นางเดินไป เพลิดเพลินกับการเดินดูบรรยากาศในเมืองเช่นนี้ยิ่งนัก ถึงแม้นร้านเสื้อผ้าที่นางเข้าไป ตอนแรกมองนางแปลกๆ แต่พอคุยไปสักพัก เถ้าแก่กลับชื่นชมนาง และคุยกันถูกคอ ถึงกับเรียกกันว่าพี่ๆ น้องๆ อย่างไม่ถือตัว เถ้าแก่ถึงกับลดราคาให้ และแถมชุดให้นางอีก 2 ชุดด้วย ตอนกลับยังเดินมาส่งนางถึงหน้าร้าน และบอกว่า
“น้องเล็ก วันหลังแวะมาหาพี่ใหญ่ใหม่นะ ข้าจะเก็บชุดรูปแบบใหม่ไว้ให้เจ้า อย่าลืมนะน้องเล็ก”
“ได้เลยเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ ไว้ข้าจะแวะมาหานะ”
ลี่เซียนเดินออกจากร้านมา นางสวนกับกลุ่มบุรุษสวมชุดดูดี น่าจะเป็นพวกคุณชายในเมือง แต่นางสนใจปิ่นหยกที่ขายข้างๆ นั่นมากกว่า นางเดินผ่านคนผู้นี้ไป รีบเดินไปดูปิ่น และกำไรหยก
“อาปิง เจ้าดูนี่ สวยมากเลย ข้าเอาอันนี้ ปิ่นทองนี่ด้วย ทับทิมประดับสวยมากเลย อาปิง เจ้าเลือกสิ เอาอันไหน เร็วๆ”
“คุณหนูเจ้าคะ ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ วันนี้คุณหนูซื้อของให้ข้ามากแล้วเจ้าค่ะ”
“เจ้าไม่ชอบเหรอ ข้าว่า มันสวยดีนะ นี่ไง หยกสีนี้ๆ เหมาะกับชุดใหม่ของเจ้าเลย ที่พี่ใหญ่เอาให้น่ะ เอาไปใส่คู่กัน ข้าเลือกให้ อันนี้ค่ะ คิดเงินเลย อาปิง จ่ายไป”
แล้วนางก็เดินต่อไป
“นั่นคือ ……”
ฟู่เว่ยหลงถามหมิงอี้
“ขอรับคุณชาย นั่นคุณหนูใหญ่หลิน คนที่ท่าน อะแฮ่มม.”
หมิงอี้ไม่พูดต่อ
“คือนางเองหรือ แล้วทำไม นางเหมือนมองไม่เห็นข้าล่ะ ไหนเจ้าเคยบอกว่า นางชอบตามแอบดูข้าอยู่เป็นประจำ จนเจ้าอึดอัดไม่ใช่หรือไง”