ตอนที่ 2 เรื่องราวของหลินลี่เซียน
นางชื่ออาปิง สาวใช้ประจำตัวข้า เจ้ามาอยู่ในร่างข้า ข้าชื่อหลินลี่เซียน ลูกสาวคนโตของท่านมหาเสนาบดีกรมกลาโหมกับภรรยาเอก แม่ข้าตายไปแล้ว ข้าตายเพราะโดนอนุของพ่อข้า อนุฉินอี้เหนียง วางยาในอาหารทุกวัน พ่อข้าก็เริ่มโดนแล้วเช่นกัน ข้าอยากให้เจ้า ช่วยพ่อข้าจากแผนชั่วของนางด้วย นางทำเพื่อหวังให้ลูกสาวนางได้สมบัติของสกุลหลินทั้งหมด เจ้าต้องช่วยข้า เปิดเผยแผนชั่วของ 2 แม่ลูกนี้
“อะไรกัน อย่างกับซีรี่ย์จีนโบราณที่ดูในแอฟมาเมื่อวานไม่มีผิด”
“อย่างไรก็แล้วแต่ หากเจ้าทำความปรารถนาของข้าเป็นจริงได้ วิญญาณของข้าก็จะสามารถไปสู่สุคติได้อย่างหมดห่วง”
“แล้วเธอต้องมาอยู่ติดตัวฉันแบบนี้ตลอดเหรอ มันไม่โอเคนะ มันดูน่ากลัวเกินน่ะ”
“ไม่หรอก ข้าจะมาแค่บางช่วง ข้าไม่มีพลังมากแล้ว ดวงวิญญาณข้าแทบจะแตกสลายอยู่แล้ว ข้าจะมาเฉพาะเวลาที่เจ้าเจอเหตุการณ์คับขันและต้องการให้ช่วยเท่านั้น”
“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ” อาปิงเรียกนาง
“ห๊ะ อ่ะ เอ่อ ว่าไงๆ หวัดดี อาปิง ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
โมรินทักทายตามอัตโนมัติ อาปิงทำหน้างงปนแปลกใจ
“คุณหนู ท่าน เป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ ให้ข้าเรียกท่านหมออี้มั้ยเจ้าคะ”
“ไม่ๆๆๆ ฉันไม่ เอ่อ ข้าไม่เป็นไร เจ้าช่วย เอากระจกให้ชั้น เอ๊ย ข้าทีสิ กระจกน่ะ”
นางพูดผิดๆ ถูกๆ
อาปิงเดินไปที่โต๊ะแต่งหน้าที่ตั้งอยู่มุมห้อง และหยิบกระจกบานประมาณกระดาษ A4 มายื่นให้นาง
โมรินมองหน้าเจ้าของร่างในกระจก หน้าตาของลี่เซียน ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากเลยทีเดียว แต่ใบหน้าขาวซีดไปหน่อย ปากแห้งๆ นี่คืออะไร หน้านี่เคยแต่งบ้างมั้ยเนี่ย เสียดาย ผิวพรรณนางช่างดีเลิศโดยไม่ต้องบำรุงด้วยน้ำแร่หรือครีมแพงๆ เลย ถ้าได้แต่งสักหน่อยคงสวยมากเลยทีเดียว
“เจ้า มีกระจกบานใหญ่มั้ย”
นางถาม อาปิงพยักหน้า พานางเดินไปที่กระจกด้วยท่าทางงงๆ อาจเพราะนางพึ่งฟื้นขึ้นมาเลยรู้สึกสับสนกระมัง ลี่เซียนเดินตามอาปิงไปหากระจกบานใหญ่มุมห้อง
ว๊าววว หุ่นโคตรดี ตัวเล็ก ผิวขาวละเอียด หน้าอกตู้มมากกว่าชั้นซะอีก เลิศ หูยย หุ่นนางคือดีงามมาก เป็นบ้านชั้นนี่ประกวดนางงามได้เลยนะนี่
“อาปิงๆ เจ้าช่วยข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าทีสิ วันนี้ข้าอยากไปเที่ยว”
“คุณหนู แน่ใจหรือเจ้าคะ ว่าท่าน …. อยากออกไปข้างนอก”
อาปิงทำหน้าไม่สบายใจขึ้นมาทันที
“ทำไมล่ะ มีอะไรถึงออกไปเที่ยวไม่ได้ ข้าอยากไปนี่นา”
อยากเห็นบ้านเห็นเมืองเค้า แค่คิดก็สนุกแล้ว ว่าบรรยากาศจะเหมือนในซีรี่ย์ที่เคยดูรึป่าว
“ก็ ตั้งแต่ …”
อาปิงไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางเริ่มอยากรู้
“เจ้าพูดมาเถอะ ว่าอะไรทำให้ข้าไม่อยากออกไปข้างนอก”
นางต้องทำตัวให้ชินกับร่างใหม่ให้เร็วที่สุด ตอนนี้นางคือ หลินลี่เซียน ไม่ใช่โมรินอีกต่อไป
“ตั้งแต่ที่คุณหนู โดนคุณชายฟู่ปฏิเสธการหมั้นหมายกับท่าน ต่อหน้าผู้คนในงานเลี้ยงนายท่านคืนนั้น คุณหนูก็บอกบ่าวว่า จะไม่ออกไปนอกจวนอีกเจ้าค่ะ”
“แค่เนี้ย โอยย ช่างเหอะๆ เรื่องก็ผ่านไปแล้ว แล้วอีกอย่างจะให้ข้าอุดอู้อยู่แต่ในห้องนี้คงไม่ไหวนะ ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง จะได้สดชื่น ว่าแต่ เจ้า มีเงินมั้ยอ่ะ”
“มีเจ้าค่ะ คุณหนูเก็บเงินไว้มากเจ้าค่ะ แต่ไม่เคยได้ใช้เลย และอนุฉิน ก็ไม่ได้ให้เงินเดือนคุณหนูมา 2 ปีแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูก็ไม่เคยไปถามจากนาง พอถาม นางก็จะทำร้ายเอา”
“หนอย อนุของพ่อข้านี่ ใช้เงินของพ่อข้า แต่ไม่ให้ลูกเขาใช้ ข้าได้เงินเดือนเท่าไหร่ นี่ไม่ให้มาตั้ง 2 ปี มันเป็นเงินเท่าไหร่กันนะ อาปิง เจ้าคิดซิ”
“เดือนละ 30 ตำลึงเจ้าค่ะ ไม่ได้มี 2 ปีแล้ว ก็เป็นเงิน…….”
“24 คูณ 30 ถ้า 20 เดือน ก็ 600 บวกกับ 120 เป็น 720 ตำลึง หึ ข้าต้องไปทวงหน่อยแล้ว”
อาปิงนั่งมองหน้าคุณหนู อ้าปาก ตะลึงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของนาง นี่มันเกิดอะไรขึ้น นางกินยาผิดเข้าไป หรือว่ายาที่นางซื้อมาล่าสุด ได้ผลดีเกินคาด คุณหนูที่ไม่สู้คน ร่างกายอ่อนแอ พูดน้อย กลายเป็นหญิงสาวที่ปราดเปรียวราวกับคนละคนแบบนี้
“คุณหนู จะดีหรือเจ้าคะ ถ้าอนุฉินหาเรื่องตบตีคุณหนูอีก ร่างกายคุณหนูจะแย่เอานะเจ้าคะ คุณหนูพึ่งจะหายป่วย”
“งั้นเอาตามที่เจ้าว่า เอาเงินที่มีมาก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการนางปิศาจที่บ้านทีหลัง”
นางยิ้ม ปกติโมรินเป็นสาวห้าวอยู่แล้ว นอกจากนางจะเป็นเน็ตไอดอล แต่เรื่องศิลปะการต่อสู้ นางถือว่าชั้นครูเลยทีเดียว เพราะนางเคยเป็นครูสอนเทควันโด้เด็กๆ มาก่อน ความรู้ความสามารถถือว่ารอบด้าน พูดได้ 6 ภาษา ไทย จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ชอบการร้องเพลงและ cover เพลงที่สุด เคยทำรายการท่องเที่ยวและทำบริษัทปรึกษาด้านความรักด้วย แต่เป็นบริษัทของวุฒิ ที่พึ่งเปิดตัวได้เพียง 1 ปี แต่คุณสมบัติพวกนี้ คงไม่ได้เอามาใช้ที่นี่
“ไหนขอดูชุดเสื้อผ้าข้าหน่อยสิ”
นางพูดกับอาปิง นางเปิดตู้และหีบเก่าๆ ดู นี่มันชุดอะไรเนี่ย ทั้งเก่าทั้งโทรม แทบจะไม่มีชุดใหม่ๆ เลย
“นี่ชุดของข้าเหรอ ทำไมมันดูโทรมจัง เก่าเชียว มีใหม่ๆ กว่านี้มั้ยอ่ะ”
นางถาม อาปิงส่ายหน้า
“ก็คุณหนูไม่เคยออกไปเลือกซื้อเลยนี่เจ้าคะ รอแต่ให้อนุฉินเอาชุดเก่าของคุณหนูรองมาให้”
อาปิงพูดอย่างเศร้าๆ
นี่ 2 คนนี้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ย สุดแสนจะรันทด ยิ่งฟังยิ่งหดหู่ชอบกล
“เรามีเงินเท่าไหร่เหรออาปิง”
นางถาม อาปิงเลยพานางเดินไปที่เตียงนอน นางดึงพรมใต้เตียงออก และเลื่อนเปิดฝาออก และให้คุณหนูดู
“มีอยู่ด้านในเจ้าค่ะคุณหนู ที่เคยนับกัน น่าจะประมาณ 200,000 ตำลึงเจ้าค่ะ คุณหนูบอกว่า ให้ข้าเก็บไว้ เผื่อคุณหนูไม่อยู่ให้ข้านำเงินไปตั้งตัวเจ้าค่ะ”
อาปิงพูดไปก็เริ่มร้องไห้ออกมา
“200,000 ตำลึง โห ข้าเป็นเศรษฐีอยู่นี่นา กลัวอะไร โธ่ เอาวะ ไปช้อปปิ้งหน่อยละกัน ว๊าววว รวยแล้วๆๆๆ”
“อาปิง เจ้าร้องไห้ทำไม เจ้าไม่ดีใจเหรอ ที่ข้าฟื้นขึ้นมา แล้วยังอยู่กับเจ้า”
นางถาม อาปิงยิ้มออกมาและปาดน้ำตา
“ดีใจที่สุดเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากได้เงินทองพวกนี้ ข้าอยากอยู่กับคุณหนู เงินทองพวกนี้ไม่มีความหมายสำหรับข้า ข้าอยากอยู่กับคุณหนูเจ้าค่ะ คุณหนู อย่าทิ้งข้าไปอีกเลยนะเจ้าคะ”
นางคุกเข่า กอดขาลี่เซียนไว้
“อาปิง เจ้าช่างเป็นเด็กดีจริงๆ ต่อไปเราเป็นพี่น้องกันนะ อย่าได้คิดว่าเป็นนายบ่าวอะไรนี่เลย ข้าอยากมีเพื่อน มีน้องสาว มากกว่ามีคนใช้ โอเคมั้ย”
นางถาม อาปิงมองหน้านาง
“ตกลงมั้ย เป็นพี่น้องกัน นะ”
นางพูด อาปิงยิ้มออกมาอย่างซาบซึ้งใจ
“ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลคุณหนูตลอดไปเจ้าค่ะ”
นางพูด ลี่เซียนคิดว่าเรื่องแบบนี้ คงต้องค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า ว่าแล้วนางก็หยิบชุดสีฟ้าอ่อนออกมาจากกล่อง ชุดนี้คล้ายๆ กับชุดที่นางเคยใส่ก่อนถ่ายรายการก่อนที่นางจะมาที่นี่ เอาชุดนี้แหละ น่าจะดูดีสุดละ ไหนๆ ก็จะออกไปแล้ว เดี๋ยวค่อยซื้อมาใหม่ละกัน จะได้เอาขยะพวกนี้ทิ้งให้หมด ว่าแล้วนางก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเสร็จแล้วก้เดินมาที่หน้ากระจก
“มาๆ มาทำผมให้ข้าที เดี๋ยวข้าแต่งหน้าเอง”
นางบอกอาปิง อาปิงถึงกับตกใจ
“คุณหนูจะแต่งหน้าเองหรือเจ้าคะ ทำเป็นหรือเจ้าคะ เดี๋ยวบ่าวทำให้ดีกว่านะเจ้าคะ”
“ไม่ๆๆๆ ไม่เอา ข้าแต่งเอง welcome to my makeup world baby!”
อาปิงอึ้ง นางพูดอะไร ฟังไม่รู้เรื่องเลย นั่นใช่ภาษาคนหรือไม่ แต่อาปิงกลับรู้สึกดีใจ ที่คุณหนูเปลี่ยนเป็นคนที่ร่าเริงขึ้น
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว พร้อมออกไปช้อปปิ้งรึยัง Let go baby!!” ……….