17 ไม่แต่ง
ของขวัญ.......
"เธอออกไปจากบ้านฉันได้ละเอมอรแล้วก็เอาผู้หญิงคนนี้ออกไปด้วย"
น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยขึ้นฉันเงยหน้ามองทั้งน้ำตา เขามองกลับมาด้วยสายตาไร้เยื่อใยผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่อยู่ที่ทะเลใช่ไหมเขาคือคนละคนกันใช่ไหม ฉันพยายามพยุงตัวเองให้ลุกจากพื้นแม้ร่างกายจะเจ็บปวดก็ตามเพราะก่อนที่จะถูกคุณเอมอรลากตัวมาที่นี่ฉันถูกคุณเอมอรทุบตีตบตีอย่างทารุณโดยที่ฉันไม่รู้สาเหตุจนกระทั่งมาได้ยินทั้งสองคนพูดกันฉันถึงรู้ว่าพี่สงครามไม่ใช่สิฉันจะเรียกเขาแบบนั้นไม่ได้อีกต่อไปแล้วเขาไม่ใช่พี่สงครามของฉัน เขาคือคุณสงครามคนเดิมที่ฉันรู้จักมาตลอดสิบห้าปี หัวใจฉันเจ็บไปหมดเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจเมื่อรู้ความจริงว่าเขาแอบถ่ายรูปฉันตอนที่อยู่ที่ทะเลส่งให้คุณเอมอรดู คงจะเป็นวันนั้นที่คุณเอมอรโทรเข้ามาแต่เขาไม่รับสายเขาก็ปิดมือถือตลอดสองวันที่เราอยู่ด้วยกันที่หัวหิน ใจฉันตอนนี้มันแหลกสลายไปหมดเหมือนฉันถูกปลุกจากฝันดีแล้วถูกผลักลงไปนรก ฉันไม่น่าโง่เชื่อเขาเลยทำไมฉันไม่เอะใจสักนิดฉันไม่โทษใครทั้งนั้นฉันโทษตัวเองที่โง่เชื่อเขาทุกอย่าง
"ของขวัญจะไม่ไปไหนทั้งนั้นส่วนเอมอรหนูกลับไปก่อนอามีเรื่องต้องเคลียร์กันภายในครอบครัวคนนอกไม่เกี่ยว"
"อากานว่าเอมเป็นคนนอกเหรอคะ เอมเป็นคู่หมั้นพี่ครามนะคะ"
"ขนาดนี้แล้วเอมยังคิดว่าตัวเองเป็นคู่หมั้นลูกชายอาอีกเหรอ"
"ยัยเอมเกิดอะไรขึ้นลูก" คุณอุษาวิ่งเข้ามาในบ้านแล้วถามลูกสาวของตัวเองก่อนจะมองมาที่ฉันด้วยสายตาเกลียดชังที่ฉันเห็นจนชิน
"แม่มาก็ดีแล้วค่ะมาช่วยเอมจัดการนังกาฝากนี่มันอ่อยพี่ครามมันยุแยงพี่ครามให้เข้าใจเอมผิดตอนนี้พี่ครามจะไม่ยอมแต่งงานกับเอม พี่ครามเอากับมันแล้วด้วยค่ะแม่" คุณเอมอรพูดพร้อมกับชี้หน้าฉัน
"ว่าไงนะลูก ตาครามกับนังขวัญ..."
"ค่ะ เพราะแบบนี้เอมถึงรีบบินกลับมาก่อนเพื่อมาจัดการกับนังแมวขโมยนี่"
"แกมานี่เลยนังขวัญฉันจะจัดการแทนลูกเอมเอง" แต่กอ่นที่คุณอุษาจะเข้ามาถึงตัวฉันพี่ชนะศึกวิ่งเข้ามากอดฉันพร้อมกับดึงตัวฉันให้ลุกขึ้น
"พวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำร้ายขวัญ"
"ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ห๊ะตาศึกในเมื่อนังนี่มันได้ชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยงของน้าเป็นน้องสาวของเอมในเมื่อมันทำผิดทำไม่ดีน้าก็ย่อมมีสิทธิ์สั่งสอนมันให้หลาบจำ"
"อ่อผมเพิ่งรู้ว่าน้าอุษากับเอมนับญาติกับขวัญด้วยเห็นเอาแต่รังเกียจเอาแต่ทำร้ายขวัญมาตลอด"
"พี่อุษาคะ กานขอร้องนะคะพี่ช่วยพาลูกสาวของพี่กลับบ้านไปก่อนเถอะนะคะตอนนี้กานอยากคุยกันภายในครอบครัว"
"นี่น้องกานไล่พี่กับลูกเอมเหรอคะ"
"กานไม่ได้ไล่ค่ะ เดี๋ยวถ้ากานคุยธุระกับตาครามเสร็จกานกับพี่ทัพจะไปหาพี่กับคุณย่าที่บ้านเพื่อคุยกันเรื่องของตาครามกับหนุูเอม"
"คุยเรื่องแต่งงานใช่ไหมคะ"
"ถามลูกสาวพี่เถอะค่ะว่ายังกล้าแต่งงานกับตาครามอยู่หรือเปล่า"
"หมายความว่าไงคะน้องกาน"
"พี่กับหนูเอมไปเกาหลีกันมาก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะคะว่าไปทำอะไร"
"น้องกาน"
"กานจะไม่พูดเพราะมันไม่ใช่เรื่องของกานแต่กานอยากจะบอกว่าพวกเราทุกคนรู้ความจริงกันหมดแล้วล่ะค่ะ"
"ไม่จริงนะคะยัยเอมถูกใส่ร้ายยัยเอมไมไ่ด้ไปทำแท้งนะคะ นังขวัญมันกุเรื่องใส่ร้ายแน่ๆมันเกลียดลูกเอมจะตาย"
"กานยังไม่ได้พูดเลยนะคะว่าหนูเอมไปทำแท้งมาพี่พูดออกมาเองนะคะ"
"นี่แปลว่าพวกแกจะไม่ยอมให้ลูกสาวฉันแต่งงานกับตาคราามใช่ไหม" ฉันลอบมองคุณอุษาที่ตอนนี้สีหน้าของเธอมีแต่ความโกรธแค้นมื่อรู้ว่าคุณเอมอรจะไม่ได้แต่งงานกับคุณสงคราม
"ผมไม่โง่พอที่จะเอาผู้หญิงที่มั่วไม่เลือกแถมยังไม่รู้จักป้องกันจนปล่อยให้ท้องแล้วแอบไปทำแท้งมาเป็นเมียเป็นแม่ของลูกหรอกครับน้าอุษา"
"กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดดด"
"เรากลับบ้านกันก่อนนะลูกเอม" คุณเอมอรกรีดร้องออกมาสุดเสียงจนน้าอุษาต้องพาตัวออกไปและก่อนจะเดินออกไปสายตาของคุณอุษาก็มองมาที่ฉันอย่างโกรธแค้น
สงคราม....
"แม่ไม่คิดเลยนะว่าเราจะเป็นคนแบบนี้ ทำไมเราถึงใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้ห๊ะ แม่ผิดหวังในตัวเรามาเลยนะ" ผมมองแม่ที่ตอนนี้กำลังนั่งโอบกอดของขวัญที่นั่งหน้าแดงตาแดงอยู่ตรงกันข้าม ผมของยัยนี่ยุ่งพันกันไปหมดเพราะถูกกระชากเข้ามาใบหน้าทั้งสองข้างมีรอยแดงเป็นปื้นคล้ายฝ่ามือไหนจะมุมปากที่มีเลือดติดอยู่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของเอมอร ผมมองได้แค่แป็บเดียวก่อนจะหันสายตากลับมาแล้วทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรแม่อยากบ่นอะไรก็บ่นไปตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นในเมื่อแผนของผมสำเร็จแล้วไม่ต้องแต่งงานไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ต่อไปผมก็จะได้มีชีวิตที่อิสระไม่ต้องแต่งงานทำตัวสนุกไปวันๆเหมือนตอนที่อยู่อังกฤษ แต่....
"เราต้องรับผิดชอบหนูขวัญด้วยการแต่งงาน"
"ห๊ะ??" ผมที่กำลังคิดถึงอนาคตของตัวเองเป็นอันต้องหันหน้ากลับไปมองหน้าแม่
"ในเมื่อเราล่วงเกินหนูขวัญเราก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน"
"ไม่แต่งค่ะ" ยัยนั่นรีบปฏิเสธทันทีทั้งที่คนที่ต้องพูดคือผม
"ไม่ได้นะขวัญเกิดหนูท้องขึ้นมาจะทำยังไง"
"ขวัญ..."
"จะท้องได้ไงผมป้องกันทุกรอบ แล้วอีกอย่างยัยนี่ก็ยอมให้ผมเอาเองผมไม่ได้บังคับ"
"คราม ทำไมนายพูดแบบนี้วะห๊ะ พูดอะไรคิดถึงจิตใจขวัญบ้างดิ นายทำลายเธอยังไงนายก็ต้องรับผิดชอบ" เป็นไอ้ชนะศึกที่พูดขึ้นมาดูท่าทางมันจะโกรธแทนยัยนี่ หึ
"นายชอบยัยนี่ไม่ใช่เหรอทำไมไม่แต่งเองซะเลยล่ะ"
"ไอ้คราม!!!" เป็นครั้งแรกที่ไอ้ศึกเรียกผมว่าไอ้ แต่ผมไม่แคร์จะเรียกอะไรก็เรียกไป
"พ่อยอมรับนะว่าพ่ออยากให้หนูขวัญมาเป็นลูกสะใภ้ถ้าเลือกได้พ่อก็อยากให้หนูขวัญแต่งงานกับตาศึกเพราะดูแล้วตาศึกน่าจะมีความรับผิดชอบมากกว่าเราดูแลหนูขวัญได้ดีกว่าเราแต่ในเมื่อเรื่องมันมาเป็นแบบนี้เราก็ต้องรับผิดชอบหนูขวัญ"
"ไม่มีทางผมไม่มีทางเอาผู้หญิงใจง่ายแบบนี้มาเป็นเมียหรอก"
"แต่เราต้องแต่งเพราะถ้าไม่แต่งพ่อจะยกทุกอย่างที่เป็นของเราให้หนูขวัญทั้งหมดบางทีหนูขวัญอาจจะมีหลานมีลูกของเราอยู่ในท้องก็ได้ ถึงเราจะบอกว่าป้องกันแต่มันก็ไม่แน่"
"พ่อ!!! ผมเป็นลูกพ่อนะไม่ใช่ยัยกาฝากนี่พ่อจะมายกของๆผมให้ยัยนี่ได้ยังไงผมไม่ยอม"
"ตกลงตามนี้นะ เราจะแต่งหรือไม่แต่งก็อยู่ที่เราตัดสินใจ ถ้าแต่งก็มาบอกพ่อพ่อจะได้ไปหาฤกษ์จากหลวงพ่อที่วัดมาให้แต่ถ้าไม่แต่งพ่อก็จะให้ทนายเข้ามาเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมในส่วนของเรา"
"อาทัพคะขวัญไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้นแล้วขวัญก็ไม่แต่งงานกับ..กับเขาด้วยค่ะ" เขา??ยัยนี่กล้าดียังไงเรียกผมว่าเขา ทีเมือ่วานยังพี่ครามอย่างนั้นพี่ครามอย่างนี้อยู่เลยสงสัยเห็นคนเข้าข้างถือหางเยอะล่ะสิ หึ
"ไม่ได้นะขวัญเกิดหนูท้องไส้ขึ้นมาทำยังไงลูก"
"แต่ว่าขวัญไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักขวัญนี่คะ"
"เอางี้ อามีอีกวิธีนึง ขวัญ ตาครามฟังแม่ แม่จะให้ขวัญกับครามจดทะเบียนสมรสกัน"
"แม่ ผมไม่จดนะ!!!" ผมโวยวายทันที
"อากานคะขวัญไม่จดนะคะ"
"ฟังให้จบก่อนแม่จะให้เวลาเราสองคนสามเดือนถ้าภายในสามเดือนนี้ขวัญไม่ได้ตั้งท้องอาจะยอมให้ขวัญกับครามจดทะเบียนหย่ากันตกลงไหมและทุกอย่างของครามก็ยังเป็นของครามตามเดิม แต่..."
"แต่อะไรอีกแม่"
"ระหว่างสามเดือนนี้ห้ามครามออกนอกลู่นอกทางห้ามไปมีอะไรหรือคบกับผู้หญิงอื่นถ้าแม่รู้ทุกอย่างของครามแม่จะให้พ่อเช็นต์ยกให้ขวัญโดยไม่มีข้อแม้เพราะถือว่าครามผิดสัญญา" ผมถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินข้อเสนอของแม่ แต่พอมาคิดดูเวลาแค่สามเดือนทำไมผมจะทำไม่ได้
"ก็ได้ครับผมทำตามที่แม่บอกก็ได้"
"อ่ออีกเรื่องแม่เกือบลืมพอจดทะเบียนกันเสร็จขวัญจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเราในฐานะลูกสะใภ้ของแม่กับพ่อและเป็นภรรยาของครามอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพราะฉะนั้นครามกับขวัญต้องนอนห้องเดียวกันด้วย"
"อาครามคะขวัญขอนอนที่ห้องรับรองแขกก็ได้นะคะ"
"ไมไ่ด้สิจดทะเบียนแต่งงานกันแล้วก็ต้องอยู่ห้องเดียวกัน อาคิดว่าลูกชายอาคงไม่กล้าทำอะไรขวัญหรอกใช่ไหมตาคราม"
"ผมไม่แตะต้องยัยนี่หรอกแม่ไม่ต้องห่วง ผมไม่ชอบกินของเก่าเอาแค่ครั้งสองครั้งผมก็เบื่อละ"
"พูดจาอะไรหัดใช้สมองคิดก่อนพูดมั่งนะนายน่ะ ป่ะขวัญเดี๋ยวพี่พาไปทำแผลนะ" ผมมองไอ้ชนะศึกที่มันมองเคืองใส่ผมก่อนจะพยุงยัยกาฝากว่าที่เมียผมไปทำแผล หึรักกันห่วงกันขนาดนี้ทำไมไม่แต่งงานกันเองซะเลยล่ะ ผมเอาแค่ไม่กี่ครั้งคงยังไม่สึกหรอหรอกมั้ง