5 จบชีวิต
“ขวัญแน่ใจใช่ไหมว่าจะทำแบบนี้”
“ขวัญตัดสินใจแล้วค่ะ นี่คือสิ่งที่ขวัญฝันเอาไว้มาตลอด ใช้ชีวิตเรียบๆ ไม่มีคนรู้จักขวัญที่นั่น เปิดร้านขนมเล็กๆ ที่ไหนสักแห่ง และไปให้ไกลจากเขา” ไปให้ไกลจากผู้หญิงคนนั้น อันที่จริงเธอมีความตั้งใจที่จะไปที่ต่างประเทศตรากตรำทำงานอยากหนักก็เพื่อวันหนึ่งเธอจะไปอยู่ที่ที่แสนไกล แต่ว่าในตอนนี้เงินในบัญชีเธอไปไกลสุดก็ในประเทศเท่านั้น มันไม่ใช่แค่เดินทาง ไหนจะค่ากินค่าอยู่ค่าร้านของเธออีก ร้านขนมไทย ‘ชมจันทร์’ ที่ยายและเธอวาดฝันด้วยกันมาตลอด แต่ด้วยปัญหาทางการเงินของที่บ้านมันจึงได้เป็นเพียงแค่ความฝัน แต่ในตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังจะเป็นจริงแล้ว
“แต่ว่ามันต้องใช้เงินนะขวัญ ตอนนี้ขวัญเองก็เหลือเงินไม่มาก” ถือว่าน้อยนิดเลยก็ว่าได้เพราะเธอถูกฟ้องร้องและจ่ายค่าเสียหายไปกว่าหลายสิบล้าน
“ขวัญจะขายกระเป๋า ขายเสื้อผ้าและของแบรนด์เนมทุกอย่าง และขายคอนโดนี่ ขวัญจะไปจากที่นี่ ขวัญไม่อยากรอให้ความจริงมันเปิดเผย หรือรออะไรทั้งนั้นแล้วค่ะ ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้วก็ถึงเวลาที่ขวัญต้องลาวงการสักที”
“ถ้าขวัญตัดสินใจดีแล้ว เจ๊ก็จะไม่ห้าม ไม่ว่ายังไงเจ๊ก็จะอยู่ข้างขวัญเสมอนะ”
“ขอบคุณพี่เทียนมากๆ นะคะ”
...
“รายงานมา”
“เธอกำลังประกาศขายคอนโดครับ และดูเหมือนว่าจะขายของที่เธอมีทุกอย่างด้วย เหมือนกับว่าเธอกำลังจะไปจากที่นั่น”
“เอ่อ… เธอโดนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายด้วยครับ เพราะเธอมีข่าวฉาวทำให้แบรนด์ต่างๆ ที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ฟ้องร้อง และงานทั้งปีที่เคยมีก็เหมือนว่าจะถูกยกเลิกไปหมดแล้ว” เขาก็ไม่เข้าใจเจ้านายเหมือนกันว่าเหตุใดถึงได้ทำกับอีกฝ่ายขนาดนี้ นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะ ข่าวของเธอแพร่สะพัดไปทั่ว จนเขาได้ข่าวมาอีกว่าไม่มีใครเห็นเธอออกจากที่พักมานานแล้ว
มีแต่ผู้จัดการที่เข้าออกคอนโดของเธอบ่อยๆ ก็แน่ล่ะใครจะกล้าออกไปไหน ออกไปมีหวังโดนนักข่าวรุมแน่ ดีไม่ดีอาจจะถูกทำร้ายด้วยเพราะข่าวที่เจ้านายเขาให้สร้างขึ้นและปล่อยออกไปนั้น สร้างศัตรูให้เธอไม่น้อยเลยทีเดียว
“ไปติดต่อซื้อคอนโดเธอ กดราคาให้มากที่สุด ส่วนใครจะมาติดต่อซื้อ
ก็จัดการให้เรียบร้อย ฉันต้องได้คอนโดยัยนั่น”
“เอ่อ มันจะไปเกินไปหน่อยหรอครับคุณวินท์”
“อย่าถามมาก ไปจัดการซะ”
“ครับ”
“แล้วเมียน้อยพ่อฉันล่ะ?”
“คุณแขยังมีท่าทีปกติอยู่ครับ ยังไม่เห็นว่าจะติดต่อไปหาคุณขวัญ”
“หึ ขนาดนี้แล้วยังไม่เป็นเดือดเป็นร้อน อยากจะรู้นักว่าถ้าลูกมันเจอหนักกว่านี้จะยังนิ่งได้อยู่อีกไหม”
คนฟังได้แต่เสียวสันหลังวาบ นี่ยังไม่หนักอีกหรอ ได้แต่สงสารหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายในใจ ทั้งๆ ที่เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยแท้ๆ ต้องมาโดนใครที่เธอไม่รู้จักทำร้ายอีก… ‘ผมขอโทษนะครับคุณขวัญ ผมต้องทำตามคำสั่งนาย’
“ออกไปได้แล้ว”
“หึ เป็นเพราะเธอโชคร้ายเอง ที่เกิดมาเป็นลูกของมัน! ยังผู้หญิงแพศยาคนนั้น!!!”
“เราคงจะได้เจอกันเร็วนี้ ขวัญข้าว” มือหนาหยิบหนังสือนิตยสารที่มีภาพปกเป็นนางแบบสุดแซ่บของวงการ ไม่สิเธอเป็นแค่อดีต เธออยู่ในชุดทูพีชสีแดงเพลิงคลับให้เธอดูเซ็กซี่และยั่วยวนมากขึ้นไปอีกเท่าตัว สะโพกกลมกลึง หน้าอกอวบเบียดชิดกันจนแทบจะล้นทะลักชุดที่เธอสวมใส่อยู่แล้ว
“เหอะ ถ่ายไปได้ยังไง”
“ทำมาทั้งนั้นสินะ” มันไม่มีทางที่จะมีใครหุ่นดีราวกับรูปปั้นแบบนี้ได้ แม้จะผ่านผู้หญิงมาเยอะ แต่รูปร่างยั่วยวนตา น่าสัมผัสไปทุกสัดส่วน เพียงแค่มองก็มีความอยากขึ้นมาแล้ว ผู้หญิงแบบนี้เขาไม่เคยเจอมาก่อน ทำไมเธอถึงได้มีแรงดึงดูดขนาดนี้กัน คงจะตกทอดมาจากแม่สินะ
“ก็ไม่แปลก พ่อฉันหลงแม่เธอขนาดนั้น”
“โธ่เว้ย!” ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นิตยสารเล่มบางถูกขว้างทิ้งอย่างไม่รู้ทิศทาง และคนขว้างเองก็ไม่สนใจว่ามันจะไปตกอยู่ตรงไหนของห้อง เขาแค่อยากให้มันไปให้พ้นสายตา
“กรี๊ด พวกแกจะทำอะไร ออกไปจากร้านฉันเดี๋ยวนี้นะ หยุดนะ ฉันบอกให้หยุดไง”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ”
“พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไร!!!”
“ใครเป็นคนส่งพวกแกมา”
“หยุดนะ!! ฉันบอกให้หยุดไง”
“หุบปาก!!!”
“แล้วอย่าคิดที่จะแจ้งความเพราะตำรวจก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้!”
“นี่เป็นเพียงแค่คำเตือนเล็กๆ น้อยๆ จากนาย”
เพล้ง โครม คราม
ข้าวของในร้านที่เธอพึ่งจะตกแต่งเสร็จเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมาถูกพังเสียหายไม่มีชิ้นดี ร้านที่เธอลงทุนลงแรงสร้างตลอดหลายเดือนด้วยเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ มันพังไปต่อหน้าต่อตาเธอ ทั้งๆ ที่พรุ่งนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดร้านแล้วแท้ๆ …
“ฮือๆ ขวัญทำผิดอะไรนักหนาทำไมชีวิตถึงเจอแต่เรื่องร้ายๆ ไม่จบแบบนี้ ขวัญไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ ไปฆ่าใครตายอย่างนั้นหรอ เขาถึงได้ทำกับขวัญแบบนี้ ฮือ” หลังจากที่พวกอันธพาลที่มาทำลายข้าวของในร้านเธอเดินออกไป หญิงสาวร่างบอบบางทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่กับพื้น แขนเรียวยกขึ้นกอดตัวเองไว้แน่น เธอไม่มีใครอยู่ข้างๆ คอยปลอบ ไม่มีใครเหลืออยู่ในชีวิตที่รักและต้องการเธอจริงๆ แล้ว ฮึก
“ยายจ๋าข้าวคิดถึงยาย ฮึก พาข้าวไปอยู่กับยายด้วยได้ไหมคะ ฮือๆ ข้าวทนไม่ไหว ไม่มีใครรักข้าวจริงๆ เลยนอกจากพี่เทียนกับยาย ฮึก ข้าวเหนื่อย ข้าวท้อ ข้าวพยายามทำทุกอย่างเพื่อใช้ชีวิตอยู่ต่อและมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องสนใจผู้หญิงใจร้ายคนนั้นอย่างที่ยายบอก มีชีวิตที่มีความสุขในแบบนี้เราวาดฝันไว้ด้วยกัน แต่ตอนนี้ ตอนนี้ทุกอย่างมันพังหมดแล้วจ้ะยาย ฮือ มันพังไปหมดแล้ว” หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญอย่างเจ็บปวด ชีวิตเธอมันมีค่าพอให้ใครต้องการมันบ้างไหม ขนาดแม่แท้ๆ เองยังไม่เคยต้องการมันเลย…
“ให้ข้าวไปอยู่กับยายนะคะ ฮึก ข้าวคิดถึงยาย…” มือบางหยิบเศษกระจกที่แตกอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะค่อยๆ กรีดลงบนข้อมือ ไม่มีแม้แต่เสียงร้องเจ็บปวด เพราะในใจเธอตอนนี้มันเจ็บยิ่งกว่าสิ่งใด เจ็บจนแทบจะไม่อยากหายใจ…
“ข้าวกำลังจะไปหายายแล้วนะคะ รอข้าวด้วยนะคะ….” เปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงช้าๆ รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้างามเมื่อมองเห็นรางๆ ว่ายายอันเป็นที่รักยิ่งของเธอมาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ยายมารับเธอแล้ว…
“ยายจ๋า…”