14.หงุดหงิด
ฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของจีเซล แน่นอนว่าเธอกำลังระบายยิ้มหวานส่งให้ ดยุค ทั้งสองพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดีมากพอสมควร แถมเธอยังคงกล่าวออกมาอีกต่างหากว่าเธอไม่ต้องการไปจากเขา เธออยากจะอยู่ที่นี่อยู่ที่คฤหาสน์ซากอสเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา แต่ทว่าในช่วงเวลาที่ดยุคผู้นั้นก้มหน้าลงไปเพื่อกระซิบที่ข้างหูของจีเซล ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ไม่ชอบใจเอาซะเลย..จะว่าไปเขาก็ไม่ชอบใจในทุกอย่างที่ดยุคผู้นั้นทำนั่นแหละ หมอนั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังสนใจจีเซลมากแค่ไหน...
แล้วเขาเป็นอะไรไปวะ ทำไมจะต้องสนใจสาวใช้ผู้หนึ่งมากขนาดนั้นกัน
“ยอมรับมาเถิดฟาเบียนว่าเจ้ากำลังหลงเสน่ห์จีเซลเข้าให้แล้ว”
ฟาเบียนปรายสายตาไปมองหน้าของปีศาจที่กำลังวนเวียนไปมาอยู่รอบตัวของเขา ด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“นั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”
“ให้ตายสิเย็นชาจังเลยนะ ข้าอุตส่าห์มีข้อเสนอให้เจ้า..หากว่าเจ้าทำใจสังหารจีเซลไม่ลง เช่นนั้นก็เอาชีวิตของดยุคผู้นั้นให้ข้าแทนสิ หากเป็นพลังของชายผู้นั้นคงทำให้ข้ามีอำนาจเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ”
สายตาของฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของดยุคนิกซ์พร้อมกับใช้ความคิด..เขาเองก็กำลังไม่ชอบหน้าของหมอนี่อยู่พอดีเลย หากกำจัดหมอนี่ออกไปชีวิตของเขาคงมีความสุขขึ้นเยอะเลย..ทว่าสิ่งที่ทำให้ในใจของฟาเบียนเกิดความลังเลคือความมั่นหน้ามั่นใจของเขา
เขาคิดว่าตัวเองไม่ควรให้ความสำคัญกับจีเซลมากขนาดนั้น หากครั้งนี้เขายินยอมสังหารดยุคแทนนาง..ในอนาคตจะต้องแย่มากแน่ๆ เพราะเขาจะเพิ่มพูนความสนใจที่มีต่อเธอมากเพิ่มขึ้นไปอีก
เขาไม่ควรที่จะข้ามเส้นของตัวเองไปมากกว่านี้
“เจ้าไปก่อนเถอะ..ข้ายังไม่ขอให้คำตอบในเรื่องนั้น”
ปีศาจไร้หน้ากำลังชอบอกชอบใจในความคิดของฟาเบียน เพราะการลังเลนั้นเท่ากับว่าในใจของฟาเบียนมันเกิดเป็นความหวั่นไหวขึ้นมาแล้ว
.
.
“อย่างนั้นเองสินะครับ เช่นนั้นทำไมเจ้าไม่ตกใจเรื่องที่ข้าบอกว่าท่านเคาน์กำลังเลี้ยงดูปีศาจล่ะจีเซล มีคนเคยบอกรึเปล่าว่าเจ้าโกหกไม่เก่งเลยนะ”
เขายังคงยืนอยู่ใกล้ชิดกับเธอ จนระหว่างเราทั้งสองนั้นมันไร้ช่องว่าง..เสียงกระซิบของเดเมี่ยนทำให้เธอกำลังใจสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ไหนแต่ไรเธอเป็นคนที่ไม่เคยโกหกอยู่แล้ว และจีเซลไม่อยากจะโกหกด้วยหากว่ามันไม่จำเป็น
แล้วทำไมลูกรักของเธอถึงได้ฉลาดเป็นกรดขนาดนี้กันนะ ให้ตายสิถึงแม้ว่าจีเซลจะกำลังถูกไล่ต้อนแต่ในใจของเธอกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข..
“ข้าตกใจสิคะ แต่ข้าตกใจมากกว่าที่ท่านดยุคกล่าวว่าข้าให้สัญญาณกับท่านน่ะ”
เมื่อกล่าวจบจีเซลก็ถอยหลังออกไปในทันที
“ข้าเป็นเพียงแค่สาวใช้เท่านั้น และมันจะเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ข้าไม่มีทางเป็นลูกขุนนางอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ เพราะว่าข้าจนมากๆ ..ใบหน้าของข้าก็มิได้งดงามอะไรเท่าไหร่หรอก แค่พอดูได้เท่านั้น นักร้องโอเปร่าอย่างโรซาลีนยังงดงามมากกว่าข้าเลย..ท่านดยุคแค่พบเจอข้าในแบบที่แปลกประหลาดไปสักหน่อย นั่นจึงทำให้ท่านดยุคสนใจข้าเป็นพิเศษก็เท่านั้น อีกทั้งท่านสูงส่งมากเกินกว่าจะมาเสียเวลากับสตรีที่เป็นเพียงแค่สาวใช้เช่นข้า..”
เมื่อกล่าวจบจีเซลก็ก้มหน้าลงในทันที
“จริงอยู่ที่ข้าและเพื่อนๆ สาวใช้ ต่างก็แอบชื่นชมท่านดยุคอยู่ห่างๆ เพราะว่าพวกเรามีสิทธิ์เพียงแค่นั้น ท่านดยุคไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาพูดคุยกับข้าแล้วนะคะ ข้าไม่อยากให้ชื่อเสียงที่ดีงามของท่านต้องด่างพร้อยเพราะท่านลดตัวลงมาพูดคุยกับสาวใช้เช่นข้า”
เดเมี่ยนรีบก้าวเท้าเข้าไปหาจีเซลในทันที
“ข้าไม่ได้ลดตัว และเจ้าก็ไม่ควรลดทอนคุณค่าของตัวเองลงขนาดนั้นเลย”
เมื่อกล่าวจบเดเมี่ยนก็ถอดแหวนและเครื่องประดับของเขาออกมา เขาจับมือของจีเซลอย่างบังคับเพื่อให้เธอแบมือออก หลังจากนั้นเครื่องประดับบนร่างกายของเขาก็ถูกวางลงบนมือของจีเซล
“ข้าจะมาใหม่ในครั้งหน้า ข้าจะมาหาเจ้าแน่ๆ แล้วก็..เครื่องประดับเหล่านี้ข้าให้เจ้า มันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายแต่ข้าอยากให้เจ้านำไปขายแล้วซื้อของที่เจ้าอยากได้ เพื่อเป็นการขอโทษที่วันนี้ข้า..เสียมารยาทกับเจ้า”
“ทะ..ท่านดยุคคะ ข้ารับเอาไว้ไม่ได้..”
เดเมี่ยนเพียงส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนให้จีเซลเท่านั้น
“หากอยากจะเอาคืนก็เอาไว้คืนข้าในครั้งหน้าสิ แต่ข้ารับคืนเพียงแค่ครั้งละหนึ่งชิ้นเท่านั้นนะ..นั่นหมายความว่าเราจะต้องพบเจอกันหลายครั้งเลยนะ กว่าที่เจ้าจะคืนเครื่องประดับให้ข้าหมดน่ะ”
อะไรของเขากัน หรือว่านี่คือเซอร์วิสจากเกม เพราะเธอเปย์ให้ลูกรัก เดเมี่ยนไม่พักเลยใช่ไหม เขาถึงได้มาเปย์เธอกลับบ้าง
แล้วของมีค่าต่อใจพวกนี้ใครจะกล้าเอาไปขายกัน เธอต้องเก็บไว้สิ เพราะนี่คือของที่เดเมี่ยนลูกรักของเธอให้มาเลยนะ หากนำของพวกนี้ออกไปจากเกมได้ก็คงดี เพราะเธอคงเอาไว้ใส่กรอบแล้วตั้งเอาไว้บูชา..
ขณะที่จีเซลกำลังตกใจอยู่นั้น ก็มีเสียงเรียกชื่อของท่านดยุคดังขึ้นมา
“ท่านดยุคครับ!!”
เดเมี่ยนหันไปตามเสียงเรียกก่อนที่เขาจะหันกลับมาหาจีเซล
“รอข้าอยู่ตรงนี้นะ ข้าแค่ออกไปคุยงานแป๊บเดียวเท่านั้น..เรายังคุยกันไม่จบนะจีเซล”
เธอกำลังจะบอกปฏิเสธเขา แต่ทว่าท่านเดเมี่ยนกลับวิ่งออกไปในทันที จีเซลจึงทำได้แค่ยืนรอเท่านั้น เธอยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกที่อยากจะกรี๊ดออกมา..
อยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ว่าเดเมี่ยน ของเธอน่ะ เป็นเด็กดีอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ
“อย่าบอกนะว่าเจ้าจะยืนรอเขาจริงๆ น่ะ”
จีเซลสะดุ้งเฮือกเมื่อผู้ที่เดินออกมาจากด้านหลังของต้นไม้คือท่านเคาน์ที่กำลังจุดซิการ์
“ทะ..ท่านเคาน์มาได้ยังไงกันคะ”
“ที่นี่คือคฤหาสน์ของข้า ทำไมข้าจะมาที่นี่ไม่ได้ล่ะ..ดูเหมือนว่า ดยุคนิกซ์จะเป็นที่ชื่นชอบของสตรีมากเลยนะ”
ฟาเบียนหยิบอัญมณีในมือของจีเซลขึ้นมาดู
“เป็นของมีค่ามากเลยนี่ เพชรสีชมพูเม็ดใหญ่มากขนาดนี้คงจะแพงน่าดูเลยสินะ”
เมื่อกล่าวจบฟาเบียนก็มองหน้าของจีเซลก่อนที่เขาจะเขวี้ยงเพชรในมือเข้าไปในสวน..
จีเซลมองการกระทำของท่านเคาน์ด้วยความตกใจก่อนที่เธอจะรีบซ่อนอัญมณีที่เหลือเอาไว้ข้างหลัง
“ของพวกนี้ท่านดยุคให้ข้ามานะคะ อีกทั้งข้าตั้งใจจะเอาไปคืน..”
เขาจ้องหน้าเธอก่อนที่ฟาเบียนจะยกมือขึ้นมาปิดปากของจีเซลแล้วลากเธอเข้ามาที่ด้านในสวนของเขา ตรงนี้ถูกบดบังด้วยต้นไม้มากมายและเขามั่นใจว่าคงไม่มีใครหาเราเจออย่างแน่นอน
“เจ้ากำลังทำให้ข้าหงุดหงิด ส่งอัญมณีพวกนั้นมาก่อนที่ข้าจะฉีกชุดของเจ้าออก..”
