PROLOGUE
ราวเที่ยงวันของกรุงเทพฯ อากาศร้อนอบอ้าวอย่างที่เป็นมาตลอด นานาเพิ่งจะทำข้าวเที่ยงให้เจ้าตัวเล็กเสร็จก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนสีชมพูซีดเพราะผ่านการใช้งานมาหลายปีออกจากตัว เส้นผมสีดำของเธอถูกมัดขึ้นแบบลวก ๆ บ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่ได้มีเวลาสำหรับดูแลตัวเองนัก
“แง” เสียงร้องของลูกน้อยทำให้คุณแม่ยังสาวรีบก้าวขาเดินเร็วขึ้นไปยังคอกนอนของเด็กเล็ก
“ลูกสาวแม่ทำไมถึงได้โวยวายเก่งจังเลยคะ” คนเป็นแม่อ้าแขนออก โอบเจ้าตัวเล็กของเธอที่พยายามจะปีนป่ายออกจากคอกนอนมากอดไว้ เมื่อถูกอุ้ม นีราก็ใช้แขนเล็กป้อมของตัวเองเกาะไหล่แม่แน่น
“หม่าม้า”
“ขา” แม้จะเหนื่อยแค่ไหน แต่เธอก็ยังพูดกับลูกเสียงหวาน ก่อนจะได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ลอยโชยมาจากลูกน้อยที่อุ้มอยู่
“คนสวยของแม่อึเหรอคะ” สาวน้อยของเธอไม่ตอบ แต่ยิ้มร่าให้แม่แทน
“มา เดี๋ยวแม่ไปล้างก้นให้หนูก่อนดีกว่า” มือเล็กป้อมของนีราเกาะรอบคอของแม่แน่นเมื่อถูกอุ้มขึ้น
จากนั้นชีวิตของแม่บ้านก็ดำเนินไปแบบนี้เช่นทุกวัน อาจจะเหนื่อยบ้าง เครียดบ้าง แต่เธอก็มีความสุขกับการได้ดูแลครอบครัว